“กุลิศ”ว่าที่ประธานบอร์ดกฟผ.เล็งชงตั้งบริษัทเทรดดิ้งไฟฟ้า

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงการจัดตั้งคณะกรรมการ(บอร์ด) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)นั้น คาดว่า ในสัปดาห์หน้าจะเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อแต่งตั้งให้ นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธานคณะกรรมการ กฟผ.

ส่วนความคืบหน้าการจัดหาและนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG)ของกฟผ.นั้น ขณะนี้ กฟผ.ได้ ออกประกาศเชิญชวนให้ผู้สนใจฯขึ้นทะเบียนโครงการจัดหาและนำเข้าLNG แบบตลาดจร (Spot) ปริมาณ 140,000 ตัน จำนวน 2 ลำเรือแล้ว เบื้องต้น มีผู้แสดงความสนใจกว่า 40 ราย

โดยคาดว่า จะสามารถเริ่มการนำเข้า เพื่อทดสอบระบบโครงสร้างพื้นฐานตามข้อกำหนดของรัฐบาลที่เปิดให้บุคคลที่ 3 เข้ามาใช้คลังและท่อก๊าซของ ปตท.(Third Party Access :TPA) ได้ภายในเดือนพ.ย.นี้ ตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) เมื่อวันที่ 11 ก.ย.2562 และขั้นตอนหลังจากนี้คณะกรรมการ กฟผ.จะได้นัดประชุม เพื่อเห็นชอบ ร่างสัญญาการนำเข้าLNG แบบตลาดจรต่อไป

ขณะที่การประมูลLNG ในรูปแบบสัญญาระยะยาว 8 ปี ที่กฟผ.ได้เปิดประมูลไปก่อนหน้านี้ และมีผู้ชนะการประมูลคือ บริษัท ปิโตรนาสแอลเอ็นจี จากมาเลเซียนั้น ขณะนี้ ทางกระทรวงพลังงาน ยังรอการรายงานผลการเจรจาระหว่างกฟผ.กับปิโตรนาสฯ ว่าจะมีแนวทางดำเนินการอย่างไร หลังจากที่คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) มีมติให้ทบทวนการประมูลดังกล่าวออกไปก่อน หลังพบว่าหากให้นำเข้าLNG ล็อตดังกล่าว อาจกระทบต่อค่าไฟฟ้าในอนาคต

นายกุลิศ กล่าวว่า หากได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานบอร์ด กฟผ. แล้ว จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาในหลายเรื่อง ทั้งการนำเข้าLNG แบบคลังลอยน้ำ(FSRU) การส่งเสริมติดตั้งโซลาร์ลอยน้ำในเขื่อน 2,725 เมกะวัตต์ รวมไปถึงแนวทางการสร้างรายได้เพิ่มให้กับ กฟผ.ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยเบื้องต้น อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการส่งเสริมให้ กฟผ. จัดตั้งบริษัทลูก เพื่อดำเนินธุรกิจซื้อมาขายไป หรือ เทรดดิ้งไฟฟ้า

ทั้งในระดับอาเซียน เช่น การเป็นตัวกลางรับซื้อไฟฟ้าจากลาว เพื่อส่งไปขายยังประเทศอื่นที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้า และการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้กับ กฟผ. ระยะสั้นการจัดตั้งบริษัทเทรดดิ้งไฟฟ้าจะสามารถดำเนินการได้ เพราะไม่ติดขัดด้านกฎหมาย

ส่วนในระยะยาว มีแผนที่จะส่งเสริมให้ กฟผ.จัดตั้งบริษัทเทรดดิ้ง LNG ซึ่งจะต้องมีการแก้ไขกฎหมายพระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิต แห่งประเทศไทย (พ.ร.บ. กฟผ.) พ.ศ. 2511 เพื่อปลดล็อกให้ กฟผ.สามารถนำ LNG ส่วนที่เหลือใช้ไปขายต่อได้ จากปัจจุบันนั้น กฎหมายเปิดกำหนดให้ กฟผ.สามารถนำเข้าLNG มาเพื่อให้สำหรับเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าภายในโรงไฟฟ้าของ กฟผ.เท่านั้น จึงไม่สามารถนำส่วนที่เหลือใช้ไปขายต่อได้ 

ก่อนหน้านี้ นายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ ในฐานะโฆษกการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้แจ้งว่า การนำเข้านำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ของ กฟผ. แบบ Spot ปริมาณไม่เกิน 200,000 ตัน ตามมติ กบง. เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2562 เพื่อทดสอบระบบการแข่งขันเสรีในกิจการก๊าซธรรมขาติว่า มีกำหนดจะขึ้นทะเบียนผู้ค้าที่ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้น และออกประกาศเชิญชวนเพื่อให้ผู้ค้าที่ขึ้นทะเบียนแล้วร่วมเสนอราคาภายในเดือนต.ค.นี้ ซึ่งคาดว่า จะได้ผู้จัดหาLNG ให้กับ กฟผ. ในเดือนเดียวกัน ทั้งนี้ ตั้งเป้านำเข้าLNG ล็อตแรกเพื่อทดสอบระบบภายในเดือนพ.ย.2562