Viva IL Papa พระสันตะปาปาของปวงชน
ด้วยรักและศรัทธา การเตรียมการเพื่อต้อนรับสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งศาสนจักรโรมันคาทอลิก
“จงอย่าเหน็ดเหนื่อยที่จะเป็นผู้เมตตา” ประโยคที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสตรัสซ้ำบ่อยๆ ไม่เพียงแสดงถึงพระเมตตา พระองค์ยังทรงเป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิตเรียบง่าย สมถะ และทรงเป็นพระสันตะปาปาองค์แรกที่ได้รับการยกย่องให้เป็นบุคคลแแห่งปี ค.ศ.2013 โดยนิตยสารไทม์
ในวาระที่ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระสันตะปาปาลำดับที่ 266 จะเสด็จเยือนประเทศไทย ระหว่างวันที่ 20-23 พฤศจิกายน ศกนี้ ตามคำเชิญของรัฐบาลไทย และสภาประมุขแห่งบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย โดยมีชื่อในการเสด็จครั้งนี้ว่า ‘APOSTOLIC JOURNEY OF HIS HOLINESS FRANCIS TO THAILAND’ นับเป็นความปลื้มปิติไม่เฉพาะในหมู่คริสต์ศาสนิกชน แต่รวมถึงคนไทยทั้งประเทศ
- เส้นทางแห่งความรัก
ที่ผ่านมาประเทศไทยได้ต้อนรับการมาเยือนของสมเด็จพระสันตะปาปามาแล้ว 1 ครั้ง คือ สมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 (เมื่อวันที่ 10-11 พ.ค.2527) และกำลังจะได้รับเสด็จสมเด็จพระสันตะปาปาอีกครั้งในรอบ 35 ปี
ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกมีความสัมพันธ์กับไทยมายาวนานตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา มีการสถาปนา ‘มิสซังสยาม’ เมื่อปี ค.ศ. 1669 (พ.ศ. 2212) มาถึงปีนี้ พ.ศ.2562 ครบรอบ 350 ปีพอดี
“เราได้ข่าวว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีโปรแกรมจะเดินทางมาเยือนประเทศญี่ปุ่นปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ ทางคริสต์ศาสนาและประเทศไทยก็มีความเห็นชอบร่วมกันเชิญ
และในความเป็นประเทศที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ก็ต้องได้รับความเห็นชอบ การอนุมัติ การรับรองด้วย เมื่อทุกอย่างชัดเจนจึงได้เปิดแถลงข่าวว่าพระสันตปาปาจะเสด็จมาประเทศไทยวันที่ 20-23 พ.ย.2562” คุณพ่ออนุชา ไชยเดช ผู้รับผิดชอบด้านสื่อมวลชนคาทอลิกในประเทศไทย สำนักงานกลาง และเครือข่ายเอเชีย กล่าว
คุณพ่ออนุชา ไชยเดช
“การมาครั้งนี้ท่านให้ความสำคัญกับภารกิจ 3 เรื่องด้วยกัน หนึ่ง มาทำพิธีมิสซา ที่สนามศุภชลาศัย สำหรับประชาชนทั่วไป แล้วก็อีกมิสซาหนึ่งที่อัสสัมชัญ สำหรับเยาวชน สอง งานพิธีการ ร่วมกับภาครัฐ ความเป็นประมุข ความเป็นผู้นำศาสนา ความสัมพันธ์กับ 5 ศาสนา สาม งานสงเคราะห์ ไปโรงพยาบาลเซ็นหลุยส์ ให้กำลังใจคนรุ่นใหม่ เยาวชน พระสงฆ์ นักบวช ครูคำสอน ที่ทำหน้าที่แพร่ธรรม เป็นตัวอย่างที่ดี หรือคณะของตนเองเยซูอิดก็จะมีช่วงเวลาที่จะไปพบ การมาครั้งนี้เชื่อมโยงความเป็นเอเซียเข้าด้วยกัน สภาบิชอปของสหพันธ์ สภาสังฆราชแห่งเอเชีย จะมาร่วมงานในครั้งนี้ด้วย รวมถึงต่างชาติที่ประเทศเขาไม่เปิด ที่เป็นคาทอลิกก็จะเดินทางมา เช่น ชาวเวียดนาม ชาวจีน จะมีการถ่ายทอดสดให้พี่น้องทั่วโลกได้รับชมด้วย”
เวลาที่พระองค์เสด็จไปตามประเทศต่างๆ จะมีการล้อกับวัฒนธรรมของประเทศนั้นๆ ล่าสุด ประเทศแอฟริกา ลายของเขาจะมีกางเขน มีเสือดาว อย่างของเราก็จะมีลายไทย
- อาภรณ์แห่งศรัทธา
สำหรับการเตรียมการต้อนรับนอกเหนือไปจากที่ระบุไปแล้ว การตัดเย็บอาภรณ์ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญในพิธีการนี้ยังได้สอดแทรกความเป็นไทยลงไปด้วย
“พิธีมิสซาจะมีอาภรณ์ อาภรณ์เป็นสีตามวัน วันที่มีพิธีการฉลองแม่พระนักบุญก็จะมีชุดสีครีม สีทอง และสีแดง สองวันด้วยกัน ในส่วนของการตัดเย็บคณะภคินีพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าแห่งกรุงเทพฯทำเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว เพียงแต่ในวาระพิเศษจะมีการออกแบบ เวลาที่พระองค์เสด็จไปตามประเทศต่างๆ จะมีการล้อกับวัฒนธรรมของประเทศนั้นๆ ล่าสุด ประเทศแอฟริกา ลายของเขาจะมีกางเขน มีเสือดาว อย่างของเราก็จะมีลายไทย”
คณะภคินีพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าแห่งกรุงเทพฯผู้ทำหน้าที่เย็บถักปักร้อย กาสุลา อัลบา สโตลา ผ้าพระแท่น ชุดเด็กช่วยมิสซา ชุดกัปปา ซูปรีเสื้อบาทหลวง เสื้อหล่อและเครอยี่ มาตั้งแต่อดีตได้ทำหน้าที่นี่อีกครั้ง ครั้งนี้ชุดกาสุลาของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ใช้ผ้าไหมไทยแท้ทั้งชุด ปักดิ้นทองลายไทยทั้งหมด ออกแบบโดย พระคาร์ดินัล เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช ประธานสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทยเป็นผู้ออกแบบ และ คุณพ่อนฤนาท ปานกรด เป็นผู้ออกแบบลวดลายไทย
ถ้วยกาลิก
“ที่พระแท่นจะมีรูปแม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ อายุ 100 ปี จัดวางไว้ แม่พระรูปนี้เคยอยู่ที่โบสถ์อัสสัมชัญมาก่อน ถ้วยกาลิก เป็นถ้วยในอดีตที่เคยใช้ประกอบพิธีมิสซามาแล้ว อายุ 173 ปีผลิตที่ประเทศฝรั่งเศส ค.ศ. 1846 สมัยรัชกาลที่ 3 นักประวัติศาสตร์คาทอลิกเชื่อว่าเป็นสมบัติของ พระสังฆราช ฌอง บัปติสต์ ปัลเลอกัว ทำด้วยเป็นเงินแท้กับกะไหล่ทอง เป็นศิลปะยุคบาโรก
ถ้วยใบนี้จึงเป็นตัวแทนมิชชันนารีที่เข้ามาสู่มิสซังสยามเมื่อหลายร้อยปีก่อน เป็นมรดกที่มิชชันนารีได้มอบให้กับประเทศไทย แต่ละสถานที่ที่พระองค์เสด็จไปจะมีการเตรียมการในพื้นที่ของตัวเอง ภายใต้ความร่วมมือและนโยบายจากส่วนกลาง อย่างรูปปั้นพระสันตะปาปาฟรังซิสเท่าพระองค์จริง พบได้ที่โรงพยาบาลเซ็นหลุยส์ เมื่อพระองค์เสด็จกลับ ก็ยังมีรูปนี้ให้ระลึกถึง เหมือนครั้งที่ยอห์น ปอล ที่ 2 เสด็จมาปลูกต้นไม้ไว้ ต้นไม้นั้นก็ยังคงอยู่เพื่อเป็นการระลึกถึง"
- รวมดวงใจเป็นหนึ่งเดียว
ความพิเศษสำหรับงานต้อนรับครั้งนี้อยู่ที่กิจกรรมในวันที่ 21 พ.ย. 62 ที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสจะมาทำพิธีมิสซาที่สนามศุภชลาศัย ท่ามกลางความร่วมแรงร่วมใจของคริสต์ชนคาทอลิก
“ก่อนพิธีมิสซาจะมีกิจกรรมแปรอักษรของโรงเรียนอัสสัมชัญ 1,600 ชีวิต มีเดินพาเหรด มาร์ชชิ่งวงโยธวาทิต ของโรงเรียนในเครือซาเลเซีย (ดอนบอสโก สารสาสน์ สารสิทธิ์) 250 ชีวิต ตั้งแต่ 3 โมงครึ่ง พอ 4-5 โมงจะเป็นคอนเสิร์ตเตรียมจิตใจ พูดถึงเรื่องราวของพระสันตะปาปา ความเชื่อ คาทอลิก มุมมองชีวิตคริสต์ชน มีการย้อนอดีตไป 350 ปี มี 2-3 เพลงแทนความรู้สึกเหล่านั้น ต่อด้วย Theme Song เป็นฟินาเล่ โดยวง Sound of Siam โซ่ ETC กับ โก้ แซกแมน เป็นผู้ดูแล ส่วนในภาคของออร์เคสตร้าจะมี 20 ชิ้น มีนักร้องคอรัสจากโบสถ์อัสสัมชัญ มีนักร้องส่วนกลาง 20 คน มีเด็กนักเรียน 15 คน มีกลุ่มนักขับร้องที่จะร่วมในพิธีมิสซามาแจม 2-3 เพลงประมาณ 1,000 คน
ศิลปินคาทอลิกที่มาช่วยงานมี นิโคล เทริโอ, บิลลี่ โอแกน, เพชร, แปม ไกอา, เปาวลี แล้วมีศิลปินต่างความเชื่อ อี๊ด วงฟลาย จะมาร้องเพลง คำตอบในใจ เรื่องของประเทศไทยที่อยู่กันได้ทุกศาสนา ไม่ว่าพุทธ มุสลิม การขึ้นมาร้องในเวทีเดียวกันได้เพื่อบ่งบอกสิ่งเหล่านี้ ทั้งหมดจบในเวลาหนึ่งชั่วโมง หลังจากนัั้นจะพัก แล้วเตรียมจิตใจ สวดสายประคำ 5 ภาษา เวียดนาม อิตาลี อังกฤษ ฝรั่งเศส และพิธีมิสซา ต่อด้วยไฮไลท์สุดท้าย มีการอ่านบทกวี โดยกวีตาบอด เป็นพุทธ เขียนเรื่องราวความประทับใจต่อพระสันตะปาปา ทุกกิจกรรมมีการไลฟ์สดติดตามได้จากการประชาสัมพันธ์”
- ภารกิจอันทรงเกียรติ
โอกาสที่คนคนหนึ่งจะได้มีส่วนร่วมในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของประเทศที่เกี่ยวเนื่องกับศาสนาของคนทั้งโลก เป็นเรื่องยาก แต่สำหรับคุณพ่ออนุชา ท่านได้รับโอกาสนี้ถึงสองครั้ง
“ตอนนั้ันผมอยู่ ม.4 กำลังเตรียมตัวเป็นบาทหลวง พระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 เสด็จไปที่โรงเรียนยอเซฟอุปถัมภ์ ผมเรียนอยู่ที่นั่น กำลังฝึกการเรียนเป็นคุณพ่ออยู่ ก็ได้ร้องเพลง มีการจัดที่จัดทาง ก็ยังเด็กนะ ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร ระยะหลังมาทำงานสื่อก็ได้ติดตามเรื่องราวเหล่านี้ ได้ศึกษาว่าแต่ก่อนเขามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง การมาเยือนประเทศไทยของพระสันตะปาปาฟรังซิสครั้งนี้ ผมรู้สึกว่า มันเป็นจุดสูงสุดในชีวิตแล้ว เราเป็นคุณพ่อบาทหลวง ไม่ได้ต้องการอะไรในชีวิต ได้เป็นคุณพ่อก็สูงสุดแล้ว หน้าที่ก็รับใช้พระศาสนาจักร รับใช้เพื่อนพี่น้อง ตามพระกระแสเรียก ตามการมอบหมายของบิชอป
ภารกิจนี้เรารู้สึกว่าสูงสุดแล้ว เพราะท่านเป็นประมุขสูงสุดของศาสนาจักร แล้วเรามีโอกาสได้ทำหน้าที่ แม้ส่วนเดียวผมว่ามันมีเกียรติแล้ว
เมื่อวานผมสัมภาษณ์พระคาร์ดินัลเกรียงศักดิ์ ในฐานะที่ท่านได้เคยเข้าเฝ้าใกล้ชิด ท่านตอบว่า โป๊ปฟรังซิสเป็นคนมีมุกตลก สนุกตลอดเวลา ชอบทำให้เราเซอร์ไพรส์ สิ่งที่พบพร้อมกับท่านเสมอๆ คือ รอยยิ้ม ความสุข ท่านไม่ยึดติดเรื่องของขนบ ศาสนจักรถูกมองว่าเป็นพวกคอนเซอร์เวทีฟ หลายๆ เรื่อง ไม่ได้ๆๆๆ แต่ว่าท่านทำเซอร์ไพรส์หลายอย่างมาก
พอท่านขึ้นเป็นพระสันตะปาปาได้สักระยะหนึ่ง ก็เขียนสมณสาส์นเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หรือถ่ายรูปเซลฟี่กับเด็ก เป็นครั้งแรกที่โป๊ปถ่ายเซลฟี่ วันดีคืนดีอยากไปเยี่ยมคนเจ็บไข้ได้ป่วยท่านก็ไป วรรณะศักดิ์สิทธิ์ต้องล้างเท้าอัครสาวก ท่านก็ไปเรียกผู้หญิงที่เป็นตัวแทนศาสนามาล้าง เพื่อจะบอกว่าเราทุกคนเท่าเทียมกัน"
"แล้วท่านก็เปิดประเด็นหลายๆ เรื่องที่ล่อแหลม เช่น เรื่องของการให้เกียรติ LGBT เรื่องของบาทหลวงแต่งงานแล้วจะมาเป็นบาทหลวงได้ไหม แล้วก็นักบวชที่เป็นบาทหลวงผู้หญิง ท่านไม่ได้ละทิ้งประเด็นต่างๆ ที่เคยถูกพูดถึงแล้วต้องเก็บไป แต่ให้ทบทวน เพราะว่าโลกมันเปลี่ยน”
โป๊ปฟรังซิสเป็นคนมีมุกตลก สนุกตลอดเวลา ชอบทำให้เราเซอร์ไพรส์ สิ่งที่พบพร้อมกับท่านเสมอๆ คือ รอยยิ้ม ความสุข ท่านไม่ยึดติดเรื่องของขนบ
ที่สำคัญ ท่านมีญาติสนิทอาศัยอยู่ในประเทศไทยด้วย เธอเป็นแม่ชีอายุ 77 ปี ชื่อว่า ซิสเตอร์แอนา โรซา เธอเรียกพระองค์ว่า ‘ฮอร์เก’ ปู่ของทั้งคู่เป็นพี่น้องกัน เติบโตมาด้วยกันในครอบครัวคาทอลิกในประเทศอาร์เจนตินา เธอเป็นมิชชันนารีคาทอลิกถูกส่งตัวมาปฏิบัติภารกิจในไทยตั้งแต่ปี 2509 (เมื่อ 53 ปีที่แล้ว) สอนหนังสือในโรงเรียนทั่วประเทศไทย ปัจจุบันเป็นผู้ช่วยครูใหญ่ที่โรงเรียนเซนต์แมรีส์ ในจังหวัดอุดรธานี
เมื่อแบร์โกลิโอรับตำแหน่งสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสในปี 2556 ทุกครั้งที่ซิสเตอร์กลับบ้านที่อาร์เจนตินา จะต้องแวะที่วาติกันในอิตาลีเพื่อเข้าเฝ้าพระองค์ 2-3 วัน
“ผมได้คุยกับซิสเตอร์ท่านนี้เมื่อวันที่เราเปิดแถลงข่าว ท่านเล่าว่าทุกปีจะมี ส.ค.ส. ส่งมาจากพระสันตะปาปา บางทีเราก็คิดว่าท่านมาจากครอบครัวที่ยากจน แต่ซิสเตอร์บอกว่าครอบครัวท่านไม่ได้ยากจน แต่ท่านใช้ชีวิตสมถะ ในช่วงที่พระสันตะปาปาเสด็จมา หน้าที่ที่ท่านจะได้รับคือ เป็นคนแปล เพราะท่านสันตะปาปาจะพูดภาษาสเปน”
ที่ผ่านมาพระสันตะปาปามักจะเป็นชาวเป็นยุโรป เพราะการเป็นประมุขของวาติกันต้องอยู่ที่อิตาลี แต่ระยะหลังมีการเปลี่ยนแปลง เช่น พระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 2 เป็นชาวโปแลนด์ ท่านเบเนดิกต์เป็นชาวเยอรมัน แล้วท่านฟรังซิสก็เป็นชาวอาร์เจนตินา
"ก่อนมาเป็นพระสันตะปาปาท่านสอนวรรณกรรมในมหาวิทยาลัย ฐานคิดของท่านมาจากการใช้ชีวิตประจำวัน สนใจศิลปวัฒนธรรม เขียนหนังสือร่วมกับแรบไบชาวยิว ท่านมีศาสนสัมพันธ์ที่ดี ไปยิว ไปมุสลิม ไปที่ไหน ท่านเต็มที่มาก เรามักจะได้ยินเสมอว่า เยาวชนคืออนาคต แต่ท่านบอกว่า ไม่ๆ เยาวชนคือปัจจุบัน ดูเหมือนว่าท่านจะไม่เสพสื่อ แต่เฟซบุ๊กของท่าน ทวิตเตอร์ของท่านจะติดท็อปไฟว์อยู่ตลอดเวลา มีการใช้สื่อสมัยใหม่ควบคู่กับงานของศาสนจักร
เรามักจะได้ยินเสมอว่า เยาวชนคืออนาคต แต่ท่านบอกว่า ไม่ๆ เยาวชนคือปัจจุบัน
พอท่านเป็นพระสันตะปาปา ปกติทั่วไปมงกุฎหรือกางเขนจะเป็นทอง ท่านเปลี่ยนเป็นกางเขนเงิน อลูมิเนียม ถือกระเป๋าเหมือนกระเป๋านักเรียน ท่านเอาเรื่องภายนอกออกไปหมดเลย พยายามเรียกความเชื่อถือของศาสนจักรกลับมา
ถ้าองค์กรศาสนาไม่สามารถเชื่อถือได้ มันก็จะไม่มีองค์กรไหนยึดเหนี่ยวจิตใจได้เลย ท่านจะละเอียดอ่อนกับชีวิตคน มีคำสอนที่น่าสนใจ ปรับเข้ากับสถานการณ์ได้
สมณสาส์นของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสพูดถึงสภาพแวดล้อม การอยู่ร่วมกันของมนุษย์โลก การจัดงานครั้งนี้ได้น้อมนำคำสอนมาเป็นกลุ่มจิตอาสาเดินตามสมณสาส์นรักษาความสะอาดให้แก่โลก ชื่อว่า Green Angels ดูแลรักษาความสะอาด ณ สนามศุภชลาศัย ในการรับเสด็จฯในวันที่ 21 พ.ย.นี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมบางท่านไม่ได้นับถือศาสนาคริสต์ บ่งชี้ว่า ศาสนาไม่ใช่เรื่องปิดกั้นมนุษย์"
น้ำใจที่ปรารถนาจะเห็นโลกงดงามขึ้นต่างหากที่สร้างสะพานให้ทุกคนเดินเข้ามาร่วมงานกัน ด้วยความเชื่อว่าความดีงามนั้นจะนำพาไปสู่ความสุขของมวลมนุษชาติในโลกใบนี้