“หัวเว่ย”รุกตลาดญี่ปุ่นเพิ่มทางเลือกใหม่สร้างรายได้

“หัวเว่ย”รุกตลาดญี่ปุ่นเพิ่มทางเลือกใหม่สร้างรายได้

“หัวเว่ย”รุกตลาดญี่ปุ่นเพิ่มทางเลือกใหม่สร้างรายได้ หลังถูกกีดกันจากสหรัฐและประเทศพันธมิตรสหรัฐจนส่งผลต่อแผนขยายธุรกิจให้ครอบคลุมทั่วโลก

ประธานหัวเว่ย เผยแผนลงทุน 11,000 ล้านดอลลาร์ในตลาดญี่ปุ่น โดยเล็งเป้าทำตลาดกับบรรดาซัพพลายเออร์ชั้นนำแดนซามูไรและมหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงทั่วประเทศ หวังพึ่งพิงตลาดแห่งนี้เป็นแหล่งสร้างรายได้เพิ่มอีกหนึ่งช่องทาง ท่ามกลางการถูกกีดกันทางธุรกิจจากรัฐบาลสหรัฐ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

“เหลียง หัว” ประธานหัวเว่ย เทคโนโลยี บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีน กล่าวต่อที่ประชุมผู้บริหารและนักวิจัยจากบริษัทและมหาวิทยาลัยชั้นนำของญี่ปุ่น ที่กรุงโตเกียวว่า บริษัทจะใช้จ่ายเงินประมาณ 11,000 ล้านดอลลาร์เพื่อดำเนินธุรกิจในญี่ปุ่น ผ่านความร่วมมือกับบรรดาซัพพลายเออร์และมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น

ในปีนี้ หัวเว่ย ได้ใช้จ่ายเงินไปแล้วกว่า 7,000 ล้านดอลลาร์ กับการจัดซื้อจัดจ้างด้านต่างๆในญี่ปุ่น และการลงทุนทั้งหมดในปีนี้ในญี่ปุ่นของหัวเว่ยจะอยู่ที่ 11,000 ล้านดอลลาร์เทียบได้กับที่บริษัทใช้จ่ายด้านการลงทุนในตลาดสหรัฐ ซึ่งถือเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่สุดของบริษัทเมื่อปีที่แล้ว

เหลียง อดีตประธานแผนกห่วงโซ่อุปทานของหัวเว่ย อยู่ระหว่างเดินทางเยือนญี่ปุ่นเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งกับบรรดาซัพพลายเออร์ชาวญี่ปุ่น พร้อมทั้งหวังว่าจะสร้างความเข้าใจในหมู่บริษัทญี่ปุ่นได้ว่าบริษัทไม่ได้เป็นภัยคุกคามความมั่นคงของประเทศใดๆ หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ ขึ้นบัญชีดำหัวเว่ย เมื่อเดือนพ.ค.ด้วยความหวังว่าจะสกัดหัวเว่ยไม่ให้เข้าถึงซัพพลายเออร์และผู้บริโภคอเมริกัน

การเดินทางเยือนญี่ปุ่นของประธานหัวเว่ยครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายแสวงหาตลาดใหม่ๆสำหรับผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีของบริษัท ซึ่งเหลียง ได้กล่าวต่อที่ประชุมนักธุรกิจและนักวิจัย ที่รวมถึงผู้บริหารจากบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่น อาทิ ฟูจิ ฟิล์ม ฟูรุกาวะ อิเล็กทริก มิตซูบิชิ เฮฟวี อินดัสตรีส์ และมหาวิทยาลัยโตโฮกุ ถึงความสำคัญของความร่วมมือด้านวิชาการและด้านอุตสาหกรรม รวมทั้งให้คำมั่นว่าหัวเว่ยจะลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา(อาร์แอนด์ดี)ในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น

เหลียง กล่าวว่า จุดแข็งของญี่ปุ่นในด้านต่างๆ อาทิ การผลิตในอุตสาหกรรม ฟิสิกข์ และด้านเคมีภัณฑ์อาจจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจของหัวเว่ยได้ทั้งยังช่วยให้แผนขยายธุรกิจให้ครอบคลุมทั่วโลกของบริษัทดำเนินไปด้วยความรวดเร็วยิ่งขึ้น

“ญี่ปุ่น เป็นตลาดที่สำคัญสำหรับหัวเว่ย และมีบทบาทสำคัญในระบบห่วงโซ่อุปทานโลก”เหลียง กล่าว

ทั้งนี้ รายได้ของหัวเว่ยช่วง9เดือนนับจนถึงเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 24% แต่ขณะที่ยอดขายสมาร์ทโฟนในจีนเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจในต่างประเทศกลับไม่ได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะข้อกีดกันของรัฐบาลสหรัฐที่มองว่าหัวเว่ยเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของประเทศและพยายามล็อบบี้ประเทศพันธมิตรให้เห็นดีเห็นงามตามไปด้วย

ส่วนการที่สหรัฐต่ออายุใบอนุญาตให้บริษัทอเมริกันสามารถทำธุรกิจกับหัวเว่ยได้อีก90วันนั้น หัวเว่ยมองว่า ไม่ได้มีผลต่อบริษัทมากนัก

“ไม่ว่าสหรัฐจะต่ออายุใบอนุญาตหรือไม่ สิ่งนี้มีผลต่อบริษัทน้อยมาก เนื่องจากเราสามารถส่งออกสินค้าของเราไปยังลูกค้าโดยไม่ต้องพึ่งพาชิ้นส่วนและชิปจากสหรัฐอยู่แล้ว” เหลียง กล่าว

ประธานหัวเว่ย กล่าวเพิ่มเติมว่า หากบริษัทสหรัฐไม่ได้รับการต่ออายุใบอนุญาตให้ทำธุรกิจกับหัวเว่ย สิ่งนี้ก็จะกลับเป็นผลเสียอย่างร้ายแรงต่อบริษัทสหรัฐเอง ซึ่งทุกวันนี้ หัวเว่ยมีความสามารถที่จะผลิตและจัดส่งผลิตภัณฑ์ที่รวมถึง สถานีฐาน 5จี ไปยังลูกค้า โดยไม่ต้องพึ่งพาชิ้นส่วนของสหรัฐเลย