'หมอตี๋' แจงสภาฯคาดไม่เกิน4ก.พ. รับคนไทยจากอู่ฮั่นได้
“หมอตี๋” แจงสภาฯคาดไม่เกิน 4 ก.พ.รับคนไทยออกจากอู่ฮั่นได้ ขอให้มั่นใจรัฐบาลยังคุมสถานการณ์ได้
เมื่อวันที่ 29 ม.ค.63 นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาฯ ช่วงกระทู้ถามสด ซึ่งมี ส.ส.ตั้งกระทู้ถาม ถึงการแก้ปัญหาการระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 (ไวรัสอู่ฮั่น) จำนวน 2 กระทู้ถามสดจาก ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน ว่ารัฐบาลตั้งวอร์รูมเพื่อดูแลสถานการณ์ ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม มีมาตรการต่างๆ รวมถึงยกระดับมาตรการดูแลรวมถึงคัดกรอง ทั้งนี้ยืนยันว่ามีผู้ติดเชื้อในประเทศไทย 14 ราย ซึ่งเป็นคนจีนที่เดินทางเข้าประเทศ และมีคนไทยที่เดินทางมาจากประเทศจีน อย่างไรก็ตามมีผู้ที่รักษาตัวในโรงพยาบาลจำนวน 3 คน และกลับบ้านแล้ว 5 ราย ขณะที่การเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์ ยืนยันความพร้อมเต็มที่จะรองรับผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง ในจำนวนที่ไม่เกินหลักหมื่นคนเหมือนกับที่ประเทศจีนประสบภาวะผู้ติดเชื้อ
ขณะที่การตรวจสอบคัดกรองพื้นที่ชายแดน ล่าสุด ตนเดินทางไปที่ชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก พบว่ามีคนจีนที่เดินทางจากประเทศเมียนมาร์ จำนวน 1 คน แต่ตรวจสอบแล้วไม่พบการติดเชื้อ
"ทั้งนี้ขอให้มั่นใจว่าประเทศไทย สามารถควบคุมสถานการณ์ในประเทศไทยได้ และล่าสุดได้ประสานกับทางการจีน ถึงการรับคนไทยจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน มายังประเทศไทย ไม่เกิน 4 กุมภาพันธ์นี้ แต่ต้องรอคำยืนยันอย่างเป็นทางการจากทางการประเทศจีนอีกครั้ง” นายสาธิต กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการตั้งกรทู้ถามสดช่วงของนายวาโย อัศวรุ่งเรื่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ซักถามด้วยว่า จากข่าวล่าสุดพบผู้ป่วยรายที่ 14 เป็นคนไทย อาชีพขับรถแท็กซี่ ติดเชื้อมาจากผู้โดยสารชาวจีน ทั้งนี้ขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้บัญชาการการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยพรรคอนาคตใหม่พร้อมให้ความร่วมมือกับรัฐบาลต่อการเสนอแนะความเห็น และไม่ต้องการนำเหตุการณ์วิกฤตเป็นจุดซ้ำเติมรัฐบาล อย่างไรก็ตามจากข้อมูลพบว่าผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวจะมีอัตราการตาย 2-3 เปอร์เซ็นต์ และมีช่วงอายุที่ตายต่ำสุด 36 ปี
โดยนายสาธิต ชี้แจงว่าผู้ป่วยรายที่ 14 อยู่ระหว่างการสังเกตอาการ และทำตามขั้นตอน ทั้งนี้ในการติดตามข้อมูลที่หลายฝ่ายมองว่าล่าช้า เช่น ตรวจพบผู้ติดเชื้อ และใช้เวลายืนยันนาน 5-6 ชั่วโมง แต่ด้วยเทคโนโลยีการตรวจในแล็บปัจจุบันใช้การยืนยันจำนวน 2 แล็บ และใช้เวลา 3 ชั่วโมง ซึ่งลดลงจากเดิมที่ใช้เวลา 5 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามตนมั่นใจว่าหากทุกฝ่ายร่วมด้วยช่วยกัน จะผ่านสถานการณ์ระบาดดังกล่าวได้
“ปัจจุบันมีข้อมูลเฟกนิวส์ในสังคมออนไลน์ จำนวนมาก เช่น ติดต่อผ่านผิวหนัง ผมถามผู้เชี่ยวชาญ ยืนยันว่าไม่จริง ยกเว้นว่าผิวหนังเป็นแผล ส่วนกรณีที่มีเฟกนิวส์ระบุว่าเมื่อติดไวรัส ต้องตายทุก ซึ่งข้อเท็จจริบพบว่าอาการของโรคไม่รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ส่วนใหญ่ที่รับรายงานผู้ติดเชื้อที่ตาย คือเป็นผู้ป่วย ผู้สูงอายุ มีโรคประจำตัว เป็นโรคปอด โรคทางเดินหายใจ เป็นต้น” นายสาธิต ชี้แจง