ศธ.ยกระดับป้องกัน 'โควิด-19' สั่ง Big Cleaning ฆ่าเชื้อทุกโรงเรียน

ศธ.ยกระดับป้องกัน 'โควิด-19' สั่ง Big Cleaning ฆ่าเชื้อทุกโรงเรียน

กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ยกระดับป้องกัน 'โควิด-19' สั่ง BIG Cleaning ลุยฆ่าเชื้อ ทําความสะอาดหน่วยงานทุกพื้นที่ โรงเรียน สั่งชะลอการ ทํากิจกรรมต่างๆ ขอให้หน่วยงาน สถานศึกษา และบุคลากรปฏิบัติเรื่องนี้อย่างเคร่งครัด

ศธ.ยกระดับป้องกัน 'โควิด-19' สั่ง BIG Cleaning ลุยฆ่าเชื้อ-ทําความสะอาดหน่วยงานทุกพื้นที่ โรงเรียน พร้อมกําชับให้เกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิด และปฏิบัติตามกองควบคุมโรค สั่งชะลอการ ทํากิจกรรมต่างๆ เชื่อมั่นช่วยเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสได้ขอให้หน่วยงาน สถานศึกษา และบุคลากรปฏิบัติเรื่องนี้อย่างเคร่งครัด

นายประเสริฐ บุญเรือง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เห็นว่าจากสภาพการในปัจจุบัน ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศเริ่ม มีความรุนแรงมากขึ้น ถึงแม้ว่า ศธ.จะยังไม่พบผู้ป่วย แต่เพื่อเป็นการป้องกันและลดความเสี่ยงที่ อาจจะเกิดขึ้นได้

โดยในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา (วันเสาร์ที่ 29 ก.พ. และอาทิตย์ที่ 1 มี.ค.63) สํานักงาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.ศธ.) จึงได้ดําเนินการฉีดพ่นน้ํายาฆ่าเชื้อภายในและภายนอกอาคาร สํานักงาน พร้อมทั้งเช็ดทําความสะอาดพื้น ผนัง อุปกรณ์สํานักงานต่าง ๆ ทุกพื้นที่ในบริเวณ ศธ. เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด 19 นอกจากนี้ ยังได้ให้บริการเจลล้างมือประจําหน่วยงาน เช่น โรงอาหาร เพื่อให้บริการแก่ผู้มาติดต่อราชการไว้ด้วยแล้ว

นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า ศธ.ยังได้ยกระดับมาตรการควบคุมและป้องกันโรคติดเชื้อโควิด-19 ร่วมกับหน่วยงานในสังกัด ดังนี้ สํานักงานลูกเสือแห่งชาติ (สลช.) ได้มีหนังสือขอความร่วมมือ หน่วยงานในสังกัด ศธ. แจ้งสถานศึกษาในสังกัด ให้ชะลอการนํานักเรียน นักศึกษา เข้าค่ายพักแรม ลูกเสือไว้ก่อน จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ



ส่วนด้านสํานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.) ยังได้มีหนังสือแจ้งขอความร่วมมือไป ยังศึกษาธิการจังหวัดทั่วประเทศ ชะลอการจัดกิจกรรมลูกเสือหรือยุวกาชาดที่มีลักษณะเป็นการอยู่ ร่วมกันของกลุ่มคนจํานวนมาก เช่น การฝึกอบรม การอยู่ค่ายพักแรม เป็นต้น

นายประเสริฐ ย้ำว่า ขณะเดียวกัน สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ยัง ได้มีหนังสือแจ้งให้สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกเขต แจ้งโรงเรียนในสังกัดเฝ้าระวังและป้องกัน การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามมาตรการควบคุมและป้องกันที่ออกไปก่อนหน้า

โดยการขอให้สถานศึกษาติดตามสถานการณ์ ข่าวสารการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 จากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข อย่างใกล้ชิด พร้อมแจ้งแนวทางการขออนุญาตไป ราชการยังประเทศหรือเขตการปกครองที่เสี่ยงต่อโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ให้บุคลากรและ โรงเรียนในสังกัดปฏิบัติตาม

กรณีที่โรงเรียนดําเนินการสอบปลายภาคเสร็จสิ้นแล้ว ให้สถานศึกษาประกาศปิดภาคเรียน และไม่ควรดําเนินกิจกรรมอื่น ๆ ต่อไป ส่วนกรณีที่จะต้องรับผลการเรียน ขอให้ติดต่อเป็นรายกรณี หรือใช้สี่เทคโนโลยีในการประสานงานอีกทั้งให้สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประสานงาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมควบคุมโรคประจําจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการขอ ความอนุเคราะห์ให้เข้าทําความสะอาด ฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19



ด้านสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ขอให้ประสานงานกับหน่วยงานกรุงเทพมหานคร

ส่วนสํานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ได้เข้มงวดและดูแล สถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งมีหนังสือมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส

COVID-19 ถึงผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนเอกชน เพื่อเป็นการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาด โดย กําชับโรงเรียนถือปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด

ด้านสํานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระะทรวงศึกษาธิการ มีความห่วงใยในสุขภาพของประชาชน นักเรียน นักศึกษา จึง มอบหมายให้ สอศ. ดําเนินการผลิตหน้ากากป้องกันฝุ่นละออง PM 2.5 และเชื้อไวรัส COVID-19 และได้กระจายภารกิจให้แก่สถานศึกษาในภูมิภาคต่างๆ ทั้ง 5 ภูมิภาค ภาคละ 10,000 ชิ้น รวมทั้งสิ้น 50,000 ชิ้นเบื้องต้น ซึ่งรมว.ศึกษาธิการ พร้อมด้วยเลขาธิการ กพฐ. ได้นําหน้ากากอนามัยดังกล่าว ไปแจกให้นักเรียนที่เข้าสอบ O-Net เมื่อวันที่ 29 ก.พ.ที่ผ่านมาแล้ว

“ด้วยมาตรการต่างๆ ดังกล่าวของ ศธ. ในการยกระดับมาตรการควบคุมและป้องกันโรคติด เชื้อ COVID-19 โดยร่วมกับหน่วยงานในสังกัด และกระทรวงสาธารณสุขอย่างใกล้ชิด จึงเชื่อมั่นว่า จะช่วยเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 และขอให้หน่วยงาน สถานศึกษา และบุคลากรถือปฏิบัติเรื่องนี้อย่างเคร่งครัดต่อไป”  นายประเสริฐ กล่าวย้ำ