สธ.เผย กทม.แหล่งแพร่เชื้อโควิดเกินมาตรฐานโลก
กระทรวงสาธารณสุข เผยกรุงเทพฯ แหล่งแพร่เชื้อโควิด เกินมาตรฐานโลก หลังพบ ผู้ป่วย 1 คน แพร่เชื้อได้ 3 คนครึ่ง ห่วงบุคลากรทางการแพทย์
เมื่อวันที่ 24 มี.ค.เวลา 10.00 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีสิน วิษณุโยธิน โฆษกประทรวงสาธารณ แถลงข่าวสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยนพ.ทวีสิน กล่าวว่า ได้รับรายงานผู้ป่วยรายใหม่ 106 ราย กลุ่มแรกเป็นผู้ป่วยที่สัมผัสกับอดีตกลุ่มผู้ป่วยหรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่ผู้ป่วยก่อนหน้านี้จำนวน 25 ราย
แบ่งเป็น 5 รายจากสนามมวยลุมพินี ราชดำเนิน ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ชม และเซียนมวย จากกรุงเทพ นครปฐม สมุทรสาคร และอุบลราชธานี กลุ่มสถานบันเทิง 6 ราย จากทองหล่อ และอาร์ซีเอ ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยว พนักงานเสิร์ฟ จากจังหวัดสระบุรี กรุงเทพฯ บุรีรัมย์ และชลบุรี และกลุ่มผู้ป่วยสัมผัสกับผู้ป่วยที่มีรายงาแล้ว 12 ราย เป็นพนักงายขายเสื้อผ้า เซียนมวย พนักงารบริการ พนักงานราชการ ที่มีการสังสรรค์ กลุ่มย่อยผู้เข้าร่วมพิจารณาทางศาสนาที่ประเทศมาเลเซีย 2 รายพบที่จังหวัดปัตตานี
กลุ่ม 2 จำนวน 34 รายใหม่ แยกเป็น 3 กลุ่ม เดินทางมาจากต่างประเทศ ต่างชาติ 20 ราย คนไทยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 8 ราย เป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน นักศึกษา และต่างชาติ 12 ราย จากประเทศฝรั่งเศล ปากีสถาน อังกฤษ และนิวซีแลนด์ และผู้ที่ทำงานในสถานที่แอดอีกอีก 10 ราย
นพ.ทวีสิน กล่าวว่า อีกกลุ่มเราเป็นห่วงมาก คือ บุคลากรทางการแพทย์ มีแพทย์และพยาบาลจำนวน 4 ราย จากจังหวัดภูเก็ต ยะลา บุรีรัมย์ และนครปฐม ซึ่งน่าเป็นห่วงแต่ต้องดูแลอาการ และมีกลุ่มผู้ป่วยที่พบเชื้อและรอตรวจสอบประวัติอีก 47 ราย และข้อมูลใหม่วันนี้ (24 มี.ค.) จากของเดิมมีผู้ป่วยอาการหนัก 7 รายวันนี้เสียชีวิตลงอีก 3 รายเป็นผู้ชายทั้งหมด คนแรกเป็นชายไทยอายุ 70 ปี ได้รับเชื้อโควิด-19 เข้าไป และพบว่าป่วยเป็นวัณโรคอยู่เดิม อาการหนักตั้งแต่ต้น พบปอดเสียหายระยะหลังไม่พบเชื้อแล้ว แต่ระยะหลังไม่สามารถหายใจได้จึงต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
คนที่สองชายไทยอายุ 79 ปี เป็นเซียนมวย มีโรคประจำตัวหลายโรค อาการหนักตั้งแต่แรกรับ โดยคนแรกและคนที่สองได้รับการรักษาที่สถาบันบำราศนราดูร คนที่สาม เป็นชายไทยอายุ 45 ปี มีโรคเบาหวาน และโรคอ้วน โดยรักการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชน ส่วนงานศพนั้น ประชาชนไม่ต้องกังวลว่าจะมีการแพร่เชื้อจากศพ แต่อยากให้ระวังสำหรับผู้ที่จะไปร่วมงาน รวมของเดิมเสียชีวิตก่อนหน้านี้ 1 ราย ทำให้ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อโควิด-19 จำนวน 4 ราย
ทั้งนี้ กรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นพื้นที่น่าห่วง เพราะมีอัตราคนติดเชื้อ 1 คนสามารถส่งตัวเชื้อได้ 3 คนครึ่ง ถ้าหากไม่รีบดูแลจะทำให้คนติดเชื้อทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ผู้ติดเชื้อ 1 คนสามารถส่งต่อเชื้อได้ 2 คน ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานโลก อย่างไรก็ตาม โดยสรุปรวมผู้ป่วยกลับบ้าน 57 ราย รักษาตัวที่โรงพยาบาล 766 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย รวมผู้เสียชีวิต 4 ราย ผู้ป่วยสะสม 827 ราย
เมื่อถามว่ามาตรการควบคุมที่ออกมา เช่น การให้ทำงานอยู่ที่บ้านจำเป็นต้องเพิ่มระดับมากกว่านี้ เช่นออกเป็นพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ฉุกเฉินหรือไม่ นพ.ทวีสิน กล่าวว่า เราเรียนรู้จากต่างประเทศ เขาค่อยๆปรับระดับจากอ่อนไปแข็ง รวมถึงขึ้นอยู่กับความร่วมมือของประชาชน อย่างเช่น ประเทศจีนออกมาตรการอะไรมาประชาชนก็ให้ความร่วมมือถ้าไม่อยากให้ภาครัฐออกประกาศมาตรการที่เข้มข้นประชาชนต้องร่วมมือกันควบคุมโรค ยังรวมถึงระยะการแพร่ของโรคด้วยถ้าปล่อยให้ระบาดมากมาทำแค่ไหนก็ไม่พอ
พญ.วลัยรัตน์ ไชยฟู ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ทั่วโลก 192 ประเทศ ผู้ป่วยสะสม 3.66 แสนกว่าราย เสียชีวิต 16,098 ราย ซึ่งประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 31