10 อันดับแรกจังหวัดที่มีอัตราป่วยโควิด-19สูงสุดในไทย

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 11 เมษายน 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์ฉุกเฉินโควิด-19(ศบค.) กล่าวว่า ประเทศมีผู้ป่วยรายใหม่ 45 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย ผู้ป่วยสะสม 2,518 รายพบใน 68 จังหวัด รักษาหาย 1,135 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย รายแรกเป็นชายไทย 46 ปี อาชีพทำหน้าที่ในโรงรับจำนำ มีโรคประจำตัว โรคอ้วนและมีประวัติอาศัยอยู่กับแม่และน้องสาว ที่เป็นผู้ป่วยยืนยันโควิด-19 และกำลังรักษาตัวอยู่ โดยผู้ป่วยมีอาการคไข้สูง 39 องศาเซลเซียส และไอ เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2563 จนวันที่ 9 เมษายน 2563 มีอากาหอบเหนื่อยมกาขึ้น แพทย์ใส่ท่อช่วยหาบใจ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
และรายที่ 2 ชายไทย 65 ปี อาชีพพนักงานทำความสะอาดในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2563 มีอาการไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก อ่อนเพลีย และวันที่ 19 มีนาคม 2563 เดินทางกลับบ้านที่จังหวัดพะเยา และเข้ารับการรักษาโรงพยาบาลในจังหวัดพะเยาวันที่ 24 มีนาคม 2563 และ วันที่ 28 มีนาคม 2563 อาการหนักขึ้น แพทย์ใส่ท่อช่วยหายใจ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ 45 คน แยกเป็น กลุ่มผู้ที่สัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า พบว่า 23 ราย คนต่างชาติที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 1 ราย คนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ 2 ราย ไปสถานที่ชุมชน เช่น ห้างสรรพสินค้า ตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว 3 ราย อาชีพเสี่ยง เช่น ทำงานในสถานที่แออัด หรือทำงานใกล้ชิดสัมผัสชาวต่างชาติ เป็นต้น 1 ราย บุคลากรด้านกาแรพทยืและสาธารณสุข 2 ราย อยู่ระหว่างสอบสวนโรค 4 ราย และผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าอยู่ในสถานที่กักตัวของรัฐ(State Quarantines) 9 ราย โดยผู้ป่วยรายใหม่อยู่ในกรุงเทพฯ 17 ราย สงขลา 8 ราย ปัตตานี 7 ราย ภูเก็ต 6 ราย ปทุมธานี 3 ราย ชลบุรี 2 ราย ปราจีนบุรี 1 ราย และพัทลุง 1 ราย

จากจำนวนผู้ป่วยสะสม 2,518 คน ใน 68 จังหวัด มี 10 อันดับของจังหวัดที่มีอัตราป่วยต่อแสนประชากรสูงสุด ได้แก่ จ.ภูเก็ต 41.61 หมายความว่าในประชากร 1 แสนคน พบผู้ป่วย 41.61 คน กรุงเทพมหานคร 22.57 ยะลา 14.41 นนทบุรี 11.78 ปัตตานี 10.26 สมุทรปราการ 7.94 สตูล 4.96 ชลบุรี 4.85 สงขลา 3.83 และกระบี่ 3.37

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า กรมควบคุมโรคได้วิเคราะห์ข้อมูลในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตั้งแต่ 4-10 เมษายน 2563 ทั่วประเทศมีผู้ป่วยรายใหม่ทั้งหมด 495 ราย เมื่อแยกเฉพาะกลุ่มที่เป็นผู้ป่วยจากการสัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า จำนวน 144 ราย โดยในกลุ่มนี้แยกย่อยเป็นติดจาก 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.คนในครอบครัว 81 ราย ติดระหว่างสามีภรรยา 35 ราย บิดามารดา 20 ราย ญาติ 11 ราย บุตร 9 ราย 2.สถานที่ทำงาน 33 ราย เพื่อนร่วมงาน 22 ราย ผู้บังคับบัญชา/นายจ้าง 6 ราย ผู้มารับบริการหรือติดต่อประสานงาน 5 ราย 3.กิจกรรมรวมกลุ่ม พบปะเพื่อน คนรู้จัก ส่วนใหญ่รับประทานอาหารและเครื่องดื่มร่วมกัน 26 ราย และ4.อื่นๆ 4 ราย สัมผัสร่วมยานพาหนะ 2 ราย สัมผัสในชุมชน 2 ราย

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่า กรณีที่มีประชาชนกลุ่มหนึ่งระบุว่าตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19น้อยเพราะนำไปรวมกับผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่หรือไม่นั้น จะเห็นว่าจำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ที่เกิดขึ้นตามฤดูกาลในปี 2563เมื่อเทียบกับปี 2562 พบว่า ผู้ป่วยลดลง ในเดือนมกราคม มีผู้ป่วย 50,000 ราย กุมภาพันธ์ 32,000 ราย และมีนาคม 10,500 ราย เป็นอานิสสงค์จากการที่ประชาชนป้องกันตัวเองจากโรคโควิด-19 เพราะทุกคนใส่หน้ากากอนามัยและหน้ากากผ้า ล้างมือบ่อยๆ ซึ่งเป็นวิธีการป้องกันตัวเองจากโรคไข้หวัดใหญ่ด้วย

เมื่อมาพิจารณาในส่วนของผู้ป่วยปอดอักเสบตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม -9 เมษายน 2563 พบผู้ป่วย 69,716 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 104.97 ต่อประชากรแสนคน พบผู้เสียชีวิต 35 ราย โดยจำนวนผู้ป่วยโรคปอดอักเสบใน 4 สัปดาห์ล่าสุด มีแนวโน้มลดลงและมีจำนวนผู้ป่วยต่ำกว่ามัธยฐานของจำนวนผู้ป่วยระหว่างปี 2557-2562