‘พันธบัตรรัฐบาล’ รุ่น ‘เราไม่ทิ้งกัน’ กับ 10 เรื่องต้องรู้! ก่อนซื้อ

สืบเนื่องจากที่ "กระทรวงการคลัง" เปิดจำหน่าย พันธบัตรออมทรัพย์พิเศษรุ่น "เราไม่ทิ้งกัน" ปีงบประมาณ พ.ศ.2563 เพื่อระดมทุนบรรเทาผลกระทบและแก้ไขปัญหา เยียวยา ฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 

หลายคนอาจยังมีข้อสงสัย "กรุงเทพธุรกิจ" รวบรวมข้อมูลสำคัญที่คควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อ "พันธบัตรออมทรัพย์พิเศษรุ่นเราไม่ทิ้งกัน" เพื่อประกอบการพิจารณา ก่อนเปิดให้เริ่มซื้อได้ในวันที่ 14 พ.ค. 63

โดยมี 10 เรื่องน่ารู้ ดังนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• ‘เราไม่ทิ้งกัน’ เร่ง ‘ยื่นทบทวนสิทธิ’ ก่อนปิดระบบเที่ยงคืนวันนี้
• ลงทะเบียน ‘เราไม่ทิ้งกัน’ รอบใหม่ ‘คลัง’ แจงชัดตกลงคืออะไร
• เช็คสถานะ 'เราไม่ทิ้งกัน' ก่อนปิดรับ ยื่นทบทวนสิทธิ ‘เงินเยียวยา’ 10 พ.ค.นี้
• สรุปชัด! 'กรมส่งเสริมการเกษตร' ไขข้อข้องใจ 'ทะเบียนเกษตรกร'

1. ประเภทของพันธบัตร และผลตอบแทน 

กระทรวงการคลัง พันธบัตรออมทรัพย์พิเศษรุ่น "เราไม่ทิ้งกัน" ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 (แบบไร้ใบตราสาร) วงเงินจำหน่ายรวมทั้งหมด จำนวน 50,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 รุ่น ได้แก่

- รุ่นอายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยต่อปี ปีที่ 1 ร้อยละ 2.00 ปีที่ 2-3 ร้อยละ 2.25 ปีที่ 4 ร้อยละ 2.50 ปีที่ 5 ร้อยละ 3.00

- รุ่นอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยต่อปี ปีที่ 1-3 ร้อยละ 2.50 ปีที่ 4-8 ร้อยละ 3.00 ปีที่ 9 ร้อยละ 3.50 ปีที่ 10 ร้อยละ 4.00

 

 2. ผู้ที่มีสิทธิ์ซื้อ พันธบัตรพิเศษ “เราไม่ทิ้งกัน” 

บุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทย หรือมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย สภากาชาดไทย มูลนิธิ สมาคม สหกรณ์ วัด สถานศึกษาของรัฐ โรงพยาบาลของรัฐ และนิติบุคคลอื่นที่ไม่มีวัตถุประสงค์ในการแสวงหากำไร

 3. ผู้ที่ไม่มีสิทธิ์ซื้อ พันธบัตรพิเศษ “เราไม่ทิ้งกัน” 

ธนาคาร บริษัทเงินทุน บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บริษัทประกัน กองทุนบำเหน็จบำนาญ ข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนส่วนบุคคลที่บริหารโดยสถาบันการเงิน กองทุนรวม คณะบุคคลหรือห้างหุ้นส่วนสามัญที่ไม่ใช่นิติบุคคล บรรษัท สำนักงาน ประกันสังคม รัฐวิสาหกิจ บริษัท ห้างร้าน นิติบุคคลอาคารชุด นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร โรงพยาบาลเอกชน สถานศึกษาเอกชน และนิติบุคคลที่แสวงหากำไร

 4. วันเวลาที่เปิดจำหน่าย พันธบัตรพิเศษ “เราไม่ทิ้งกัน” 

ตั้งแต่เวลา 8.30 น. ของวันที่ 14 พฤษภาคม 2563 จนถึงเวลา 15.00 น. ของวันที่ 10 มิถุนายน 2563 โดยแบ่งการจำหน่ายออกเป็น 3 ช่วง ดังนี้

 5. ช่องทางการจำหน่าย 

จำหน่ายผ่าน BOND DIRECT Application ของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ, เครื่องถอนเงินอัตโนมัติ (ATM), ระบบอินเทอร์เน็ต Mobile Application และเคาน์เตอร์ทุกสาขาของ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ 

 6. วันที่ครบกำหนดไถ่ถอน 

- พันธบัตรรุ่นอายุ 5 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 14 พฤษภาคม 2568
- พันธบัตรรุ่นอายุ 10 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 14 พฤษภาคม 2573

 7. วันที่จ่ายดอกเบี้ย 

14 พฤษภาคม และ 14 พฤศจิกายน ของทุกปีจนกว่าพันธบัตรจะครบกำหนดไถ่ถอน โดยจ่ายดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2563

 8. ค่าธรรมเนียมต่างๆ 

ค่าธรรมเนียมต่างๆ จากการทำธุรกรรม ภายหลังการซื้อ พันธบัตรของผู้ถือกรรมสิทธิ์ มีดังนี้

 9. การชำระเงิน 

- ซื้อผ่าน BOND DIRECT Application : ชำระเงินผ่าน Mobile Application และเคาน์เตอร์ ธนาคารกรุงไทย

- ซื้อผ่านเครื่อง ATM ระบบอินเทอร์เน็ต และ Mobile Application : ธนาคารผู้จัดจำหน่ายจะหักเงินจากบัญชีเงินฝากของผู้ซื้อทันทีเมื่อสิ้นสุดการทำรายการซื้อ

- ซื้อผ่านเคาน์เตอร์: สามารถชำระได้ทั้งเงินสด หักบัญชีเงินฝาก หรือเช็ค (วันที่ 10 มิถุนายน 2563 ไม่รับช าระด้วยเช็ค) โดยสั่งจ่าย “บัญชีจองซื้อพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษของกระทรวงการคลัง รุ่นอายุ 5 ปี” “บัญชีจองซื้อพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษของกระทรวงการคลัง รุ่นอายุ 10 ปี”

- กรณีชำระด้วยเงินสดหรือหักบัญชีเงินฝาก หากชำระก่อนเวลา 15.00 น. ของวันทำการ ดอกเบี้ยจะเริ่มนับตั้งแต่วันที่ซื้อ หากชำระหลังเวลา 15.00 น. ของวันทำการ หรือในวันเสาร์–อาทิตย์ หรือวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย ดอกเบี้ยจะเริ่มนับในวันทำการถัดไป

 10. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 

• ธนาคารกรุงเทพ โทร. 1333 www.bangkokbank.com
• ธนาคารกรุงไทย โทร. 0 2111 1111 www.ktb.co.th
• ธนาคารกสิกรไทย โทร. 0 2888 8888 กด 819 www.kasikornbank.com
• ธนาคารไทยพาณิชย์ โทร. 0 2777 7777 www.scb.co.th
  
• สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ โทร. 0 2265 8050 ต่อ 5322, 5313, 5315 หรือ 0 2271 7999 ต่อ 5809 www.pdmo.go.th
  
• ธนาคารแห่งประเทศไทย www.bot.or.th
  - สำนักงานใหญ่ ฝ่ายการชำระเงินและพันธบัตร โทร. 1213
  - สำนักงานภาคใต้ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โทร. 0 7427 2000 ต่อ 4422-3, 4425, 0 7423 8475
  - สำนักงานภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ โทร. 0 5393 1077-8
  - สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ขอนแก่น โทร. 0 4391 3424-5

ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย