ร้านสะดวกซื้อลงทะเบียนผ่าน'ไทยชนะ'ต่ำ ย้ำแออัดเสี่ยงแพร่'โควิด-19'

      เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19(ศบค.) กล่าวว่า มีผู้ป่วยรายใหม่ 1 ราย อยู่ในสถานที่ที่รัฐจัดให้ในกรุงเทพมหานคร เพศชายอายุ 45 ปี อาชีพเชฟร้านอาหารไทย เดินกลับจากประเทศบาเรน เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 เข้าพักโรงแรมในกรุงเทพฯ ตรวจหาเชื้อวันที่ 18 พฤษภาคม 2563 โดยไม่มีอาการแต่ตรวจเจอเกิดขึ้นจากระบบของการตรวจสอบผู้ที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยที่มีการตรวจเช็คการติดเชื้อเป็นระยะ ทั้งนี้ มีผู้เดินทางมาจากประเทศบาเรนแล้วทั้งสิ้น 238 ราย มีผู้ติดเชื้อ 2 ราย ภาพรวมประเทศไทยมีผู้ป่วยสะสม 3,034 ราย รักษาหายแล้ว 2,388 ราย ยังรักษาในรพ. 90 ราย และเสียชีวิตสะสม 56 ราย

        สำหรับการตรวจทางห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์(ห้องแล็บ) ข้อมูล ณ วันที่ 15 พฤษภาคม 2563 ประเทศไทยตรวจแล้ว 328,073 ตัวอย่าง มีห้องแล็บทั่วประเทศที่ผ่านการรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์สามารถตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา2019ได้ จำนวน 167 แห่ง โดยจำนวนตรวจต่อประชากรล้านคน 4,926 รายต่อล้านประชากร มีอัตราการติดเชื้อ 0.92 % แสดงถึงการสามารถตรวจประชาชนที่ไม่มีอาการป่วยได้ในวงกว้าง

         นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า สรุปการใช้งาน www.ไทยชนะ.com ข้อมูล ณ วันที่ 19 พฤษภาคม 2563 มีจำนวนร้านค้าลงทะเบียน 67,904 ร้าน จำนวนผู้ใช้งาน 5,077,978 คน จำนวนการเข้าใช้งาน เช็คอิน 8,584,803 ครั้ง เช็คเอาท์ 6,359,921 ครั้ง และประเมินร้าน 3,984,691 ครั้ง ส่วน 10 ประเภทกิจการ ผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนร้านค้าสูงสุด ได้แก่ 1.ร้านอาหาร เครื่องดื่ม ภัตตาคาร ศูนย์อาหาร 17,362 ร้าน 2.ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ 13,538 ร้าน 3.ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าปลีก/ค้าส่ง 11,156 ร้าน 4.ธนาคาร 4,891 ร้าน 5.การให้บริการ 4,654 ร้าน 6.การจำหน่ายสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภค 3,992 ร้าน 7.คลินิกเสริมความงาม ร้านเสริมสวย 3,437 ร้าน 8.ร้านขายปลีกธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม 2,823 ร้าน 9.สินค้าเบ็ดเตล็ดที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต 2,250 ร้าน และร้านขายยา 895 ร้าน

“จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นได้ว่าในส่วนของซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าปลีก/ค้าส่ง โดยเฉพาะร้านสะดวกซื้อยังมีการลงทะเบียนร้านค้าในจำนวนที่น้อย เพราะมีการประเมินว่าเฉพาะร้านสะดวกซื้อแบรนด์ใหญ่แบรนด์เดียวก็น่าจะมีมากกว่า 12,000 ร้านแล้ว แต่มีการลงทะเบียนในกลุ่มรวมเพียง 11,000 ร้านเท่านั้น จึงอยากขอความร่วมมือผู้บริหารร้านสะดวกซื้อทั้งแบรนด์ไทยและต่างประเทศกำชับให้มีการลงทะเบียนให้มากกว่านี้ ซึ่งศบค.ชุดเล็กมีความห่วงใย เพราะร้านขนาดเล็กก็มีความแออัดของผู้คน ถ้าได้มีการสแกนคนเข้าออกที่ส่วนใหญ่จะมีประตูแค่ทางเดียวก็จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19”นพ.ทวีศิลป์กล่าว 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่า สำหรับผลการตรวจตามมาตรการผ่อนคลาย ข้อมูล ณ วันที่ 19 พฤษภาคม 2563 มีการตรวจจำนวน 17,588 แห่ง พบไม่ปฏิบัติตามมาตรการ 5 แห่ง ปฏิบัติไม่ครบ จำนวน 1,863 แห่ง โดยกองถ่ายโทรทัศน์มากที่สุด 20 % สถานออกกำลังกาย 16.5 % ร้านตัดผม 13.9% และห้องสมุด 12.9 % โดยไม่ปฏิบัติตามในเรื่องการเว้นระยะห่างมากที่สุด 45.6% จำนวนผู้ใช้บริการ 17.4 % และสบู่ เจลแอลกอฮอล์ 15.2 %