‘เยียวยาเกษตรกร’ ต่อเนื่อง ‘ธ.ก.ส.’ เปิด 8 มาตรการช่วยเกษตรกร แสนล้าน!
“ธ.ก.ส.” อัดฉีดแสนล้าน เดินหน้า “เยียวยาเกษตรกร” หลังจ่ายเงิน 15,000 สู้โควิด-19 เตรียมช่วยเหลือภัยแล้งต่อเนื่อง และกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นหลังจบการระบาด
จากการที่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ดำเนินมาตรการจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 28 เมษายน 2563 รายละ 15,000 บาท โดยจ่ายเดือนละ 5,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน (พ.ค. – ก.ค. 2563) 10 ล้านราย วงเงินงบประมาณจำนวน 150,000 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ให้กับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียน และลงทะเบียนผ่าน www.เยียวยาเกษตรกร.com อย่างต่อเนื่อง ผ่าน ธ.ก.ส. กว่า 1,200 สาขาทั่วประเทศ
ล่าสุด ธ.ก.ส. ได้ดําเนินการโอนเงินเยียวยาให้เกษตรกรกลุ่มที่ 1 ไปแล้ว 3,722,604 ราย เป็นเงิน 18,613.02 ล้านบาท ขณะที่ เกษตรกรกลุ่มที่ 1 รอบที่ 2 ที่ ธ.ก.ส. ได้รับจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นจํานวน 3,519,434 ราย ซึ่งหลังจากได้ทําการตรวจสอบ ความซ้ำซ้อนและคัดกรองสถานะผู้เสียชีวิต เหลือผู้มีสิทธิ์จํานวน 3,410,314 ราย โดยจะดําเนินการจ่ายตั้งแต่บัดนี้ ถึง 29 พฤษภาคม 2563
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- ‘เช็คสิทธิ์เยียวยาเกษตรกร 15,000’ ถึงถูกตัดสิทธิ์ แต่ยังลงทะเบียนรักษา ‘เงินเยียวยา’ ได้
- 'ออมสิน' อนุมัติ 4 หมื่นล้าน รองรับ 'สินเชื่อ' เยียวยา ฟื้นฟู สร้างอาชีพ
- 'เราไม่ทิ้งกัน’ ตรวจสอบสถานะ ‘เงินเยียวยา’ 5,000 เริ่มจ่ายเพิ่มเติมแล้ววันนี้
- เช็คสิทธิ์ 'เยียวยาเกษตรกร' ยื่นอุทธรณ์ ได้ถึงเมื่อไหร่
- 'สินเชื่อฉุกเฉิน' ธนาคาร 'ออมสิน' ผู้มีอาชีพอิสระ ยังกู้ได้! เช็ควิธีการลงทะเบียนที่นี่
- ตรวจสอบสิทธิ 'เยียวยาเกษตรกร' สุดงง ตกลง ข้าราชการ-ทายาทผู้เสียชีวิต รอก่อน!
สำหรับความช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรหลังจากนี้นั้น อนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงรายละเอียดโครงการฟื้นฟูภาคเกษตรจากผลกระทบแล้งและโรคโควิด-19 ในวงเงินงบประมาณ 9.5 หมื่นล้าน ส่วนโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และธุรกิจชุมชนสร้างไทย เป็นแผนรับผิดชอบของ ธ.ก.ส. ขอใช้งบฯ 5.5 หมื่นล้านบาท รองรับแรงงานที่เดินทางกลับภูมิลำเนา ช่วงโควิดแพร่ระบาด
โครงการเยียวยาเกษตรกร 95,543.11 ล้านบาทนั้น จะประกอบด้วยการจัดสรรงบประมาณ 2 ส่วนหลัก คือ
- งบแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจภาคการเกษตร จากวิกฤตโควิด-19 วงเงิน 61,531.53 ล้านบาท
- งบป้องกันและแก้ปัญหาผลกระทบจากภัยแล้ง วงเงิน 34,011.57 ล้านบาท
สำหรับ วงเงิน 61,531.53 ล้านบาท แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจภาคการเกษตร จากวิกฤตโควิด-19 จะแบ่งออกเป็น
- การประกันรายได้ชาวสวนยาง ระยะ 2 จำนวน 35,196.65 ล้านบาท
- สนับสนุนค่าครองชีพให้ครัวเรือน เกษตรกร 15,362.3 ล้านบาท ด้วยการชะลอการขายยางของเกษตรกร
- โครงการพัฒนาอาชีพแรงงานคืนถิ่นสร้างความเข้มแข็งสถาบันเกษตรกรอีก 2,763.72 ล้านบาท
- โครงการยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตรจำนวน 392.45 ล้านบาท
- การบริหารจัดการสินค้าเกษตรและสร้างมูลค่าเพิ่ม 1,326 ล้านบาท ด้วยการสนับสนุน อุปกรณ์และสิ่งก่อสร้าง เพื่อพัฒนาศักยภาพเกษตรกร เป็นต้น
ส่วน โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากซึ่ง ธ.ก.ส. ขอใช้งบ 5.5 หมื่นล้านบาท นั้น อภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. อธิบายว่า โครงการดังกล่าวที่ ธ.ก.ส. ดำเนินการจะประกอบด้วย โครงการเสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหารและชุมชน โครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านธุรกิจชุมชน เพิ่มประสิทธิภาพวิสาหกิจชุมชน และโครงการสร้างความยั่งยืนด้านเศรษฐกิจฐานราก
- โครงการเสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหารและชุมชน โดยสร้างศูนย์การเรียนรู้ โครงการ 459 มีกินมีใช้ 1,200 แห่ง จัดสินเชื่อพิเศษสนับสนุน กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบกว่า 3 แสนราย และสร้างเกษตรคนรุ่นใหม่อีก 5 แสนราย
- โครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านธุรกิจชุมชน เพิ่ประสิทธิภาพวิสาหกิจชุมชน 1.6 หมื่นกลุ่ม กลุ่มละไม่เกิน 1 ล้านบาท เพื่อพัฒนาด้านเทคโนโลยี ขับเคลื่อนธุรกิจชุมชนระดับหมู่บ้าน
- โครงการสร้างความยั่งยืนด้านเศรษฐกิจฐานราก สร้างหัวขบวนด้านการตลาด บริการทางการเกษตรและท่องเที่ยวชุมชน กลุ่มเป้าหมายสถาบันเกษตรกรกว่า 7,200 แห่ง ได้แก่ สหกรณ์การเกษตร 1,000 แห่ง วิสาหกิจชุมชนที่พร้อมเป็นหัวขบวน 6,000 แห่ง และลูกค้าเอสเอ็มอี. โดยใช้งบสนับสนุนสถาบันละไม่เกิน 3 ล้านบาท รวม 2.1 หมื่นล้านบาท
สำหรับเกษตรกรที่มีข้อสงสัย หรือคำถามเกี่ยวกับมาตรการเยียวยาเกษตรกรต่างๆ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.moac.go.th หรือสอบถามโทร. 0 2281 5884