สหภาพ อสมท อ้าง มติบอร์ด ยังไม่รองรับ เงินเยียวยา 3 พันล้าน
สหภาพ อสมท อ้าง มติบอร์ด ยังไม่รองรับ เงินเยียวยา 3 พันล้าน
ยังไม่มีทีท่าว่าจะได้ข้อยุติแต่อย่างใด กรณีเรื่องของ บมจ.อสทม. หลังจากที่เมื่อวานนี้ (11 มิถุนายน 2563) สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บมจ.อสมท. ออกแถลงการณ์ แสดงความกังขาต่อการรักษาผลประโยชน์ของรัฐ ล่าสุดในวันนี้ นายสุวิทย์ มิ่งผล ฝ่ายประสานงานประธานสหภาพแรงงาน ทำหนังสือขอให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้แจ้งข้อสรุปเงินเยียวยาคลื่น 2600 MHz กับ บมจ.อสมท อย่างเป็นทางการอีกครั้ง ทั้งยังระบุให้ระมัดระวังกระบวนการที่อาจขัดต่อกฎหมาย และนโยบาย ของนายกฯ
เรียน คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
ตามที่ กสทช. มีข้อสรุปของวงเงินเยียวยา คลื่น 2600 MHz กับ บมจ.อสมท จำนวน 3,235 ล้านบาท และยังมีมติถึงกำหนดการแบ่งเงินเยียวยากับ บริษัทคู่สัญญา ตามหนังสือที่ทาง บมจ.อสมท ส่งไปยัง กสทช. โดยนายเขมทัตต์ พลเดช ที่อ้างว่า กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท เป็นผู้มีอำนาจตามกฎหมายในการชดใช้ และจ่ายค่าตอบแทน ลงวันที่ 4 มิถุนายน 2563 นั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บัดนี้ มีข้อเท็จจริงปรากฏว่า ในการประชุม คณะกรรมการบริหาร บมจ. อสมท เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2563 คณะกรรมการบริษัท มิได้มีมติรับรองอำนาจของนายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท ตามที่กล่าวอ้าง
ประกอบกับ นายกรัฐมนตรี มีบัญชาให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ปรากฏโดยให้ดำเนินการเรื่องเงินเยียวยาอย่างรอบคอบโดยยึดถือประโยชน์สูงสุดกับประเทศชาติ
เพื่อความถูกต้องและรอบคอบ สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บมจ.อสมท เห็นว่าขณะนี้ กสทช.ควรดำเนินการเพียงแจ้งสรุปวงเงินเยียวยามายัง บมจ.อสมท อย่างเป็นทางการ เพื่อให้คณะกรรมการบริหาร บมจ.อสมท ประชุมและสรุปว่า จะตอบสนองต่อวงเงินเยียวยาและต้องมีการเรียกประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งมีทั้งผู้ถือหุ้นรายย่อย และกระทรวงการคลัง ผู้ถือหุ้นใหญ่ อยู่ในฐานะผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
เพื่อความถูกต้องและรอบคอบ สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บมจ.อสมท เห็นว่า ขณะนี้ กสทช.ควรดำเนินการเพียงแจ้งสรุปวงเงินเยียวยามายัง บมจ.อสมท อย่างเป็นทางการ เพื่อให้คณะกรรมการบริหาร บมจ.อสมท ประชุม และสรุปว่าจะตอบสนองต่อวงเงินเยียวยาและต้องมีการเรียกประชุมผู้ถือหุ้นซึ่งมีทั้งผู้ถือหุ้นรายย่อย และกระทรวงการคลัง ผู้ถือหุ้นใหญ่ อยู่ในฐานะผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ทั้งนี้ หาก กสทช. มีมติก้าวล่วงถึงสัดส่วนการชดเชยโดยอ้างอิงเอกสารการมอบและใช้อำนาจที่อาจมิชอบของ ประธานคณะกรรมการบริษัท และนายเขมทัตต์ พลเดช แล้วเกิดข้อเท็จจริงว่า เป็นการมอบและใช้อำนาจที่ไม่เป็นไปตามกฎระเบียบจนความเสียหายขึ้นภายหลังก็จะทำให้ กสทช. ต้องเสียหายไปด้วย
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา ยืนยันวงเงินเยียวยาให้ บมจ.อสมท อย่างเร่งด่วนและทบทวนมติในการกำหนดแบ่งสัดส่วนชดเชยเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบคอบ และเห็นควรรอความเห็นจากการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีบัญชาให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ดำเนินการด้วย เพื่อความรอบคอบและผลประโยชน์สูงสุดของทุกฝ่าย