13 ปีสู่วันพิพากษา นปช. วันนี้ จากเหตุปะทะเดือด 'บ้านสี่เสา' 

13 ปีสู่วันพิพากษา นปช. วันนี้ จากเหตุปะทะเดือด 'บ้านสี่เสา' 

ภายหลังถูกเลื่อนมาแล้ว 4 ครั้ง ในคดีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ชุมนุมปิดล้อมบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ผู้ล่วงลับ เมื่อปี 2550

วันนี้ 26 มิ.ย.2563 เวลา 09.00 น. ศาลอาญา รัชดาภิเษก นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำ อ.3531/2552 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้อง นายนพรุจ หรือนพรุฒ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 นายวีระศักดิ์ เหมะธุลิน นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธาน นปช. นายวันชัย นาพุทธา นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท นพ.เหวง โตจิราการแกนนำ นปช. และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. เป็นจำเลยที่ 1-7 ความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง

ความคืบหน้าวันนี้ เมื่อเวลา 11.55 น. ด่วน! ศาลฎีกาสั่งจำคุกไม่รอลงอาญา 'วีระกานต์-นพ.เหวง-ณัฐวุฒิ' และพวก คดีบุกบ้านสี่เสาฯ

หากย้อนไปสำหรับการตัดสินคดี ก่อนหน้านี้มีการเลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลฎีกามาแล้ว 4 ครั้ง ตั้งแต่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 31 ก.ค.2562 จากเหตุที่นายวีระกานต์ จำเลยที่ 4 แจ้งป่วย จากนั้นได้เลื่อนมาวันที่ 23 ก.ย.2562 แต่จำเลยที่ 4-7 ขอกลับคำให้การเดิมจากปฏิเสธสู้คดี เป็นขอรับสารภาพผิด ทำให้ “ศาลอาญา” ต้องส่งคำพิพากษากลับไปให้ศาลฎีกาพิจารณาใหม่อีกครั้ง ก่อนนัดอ่านคำพิพากษาฎีกาวันที่ 6 ก.พ.2563

แต่แล้วต้องเลื่อนอ่านคำพิพากษาฎีกา เมื่อนายนพรุจ จำเลยที่ 1 ย้ายที่อยู่ ไม่สามารถส่งหมายนัดให้นายนพรุจได้ ทำให้ต้องเลื่อนนัดวันที่ 30 เม.ย.2563 แต่อยู่ในช่วงการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค“โควิด-19” ซึ่งศาลได้ประกาศให้ใช้ดุลพินิจเลื่อนคดี มาถึงนัดล่าสุดในวันศุกร์ที่ 26 มิ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.

มาวันนี้ เหตุการณ์ครั้งนั้นผ่านมากว่า 13 ปี หากย้อนไปในวันชุมนุมที่เกิดขึ้นเมื่อ 22 ก.ค.2550 จุดเริ่มต้นจากแกนนำ นปช.ใช้ชื่อในขณะนั้นว่า “กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ” หรือ “นปก.” ทั้ง 15 คน พร้อมกลุ่มผู้ชุมนุมหลายพันคน ประกาศเคลื่อนขบวนจากการชุมนุมที่สนามหลวงไปปิดล้อมบริเวณหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ ซึ่งเป็นบ้านพักของ “พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์” กดดันให้ลาออกจากตำแหน่งประธานองคมนตรี เพราะเชื่อว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการก่อรัฐประหาร วันที่ 19 ก.ย.2549

การเคลื่อนขบวนผู้ชุมนุม เป็นตัวเร่งให้สถานการณ์ที่หน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ ตึงเครียดมากขึ้น โดยเฉพาะการปราศรัยจากแกนนำ นปก. โดยใช้เครื่องขยายเสียงขนาดใหญ่ ที่ถูกติดตั้งไว้บนรถบรรทุก โจมตีผู้เกี่ยวข้องกับการทำรัฐประหาร 19 ก.ย.2549  ซึ่งขณะนั้นตำรวจพยายามเจรจาให้ยุติการชุมนุม ไปจนถึงการใช้แก๊สน้ำตา แต่กลับไม่ทำให้สถานการณ์ชุมนุมยุติลง

เหตุการณ์เริ่มบานปลายขึ้นเรื่อยๆ จากเหตุปะทะของผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ ทำให้ตำรวจและผู้ชุมนุม ได้รับบาดเจ็บหลายราย จนในที่สุดตำรวจได้เข้าจับกุมนายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล แกนนำกลุ่มพิราบขาว2006 สำเร็จ ส่วนแกนนำ นปก.คนอื่น ประกาศให้ผู้ชุมนุมล่าถอยกลับไปที่ตั้งท้องสนามหลวงอีกครั้ง

ต่อมาตำรวจ ได้ตั้งข้อหาซ่องสุมเกินกว่า 10 คน ต่อแกนนำ นปก. ประกอบด้วย นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย พ.อ.ดร.อภิวันท์ วิริยะชัย นายจรัล ดิษฐาอภิชัย นายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายจักรภพ เพ็ญแข นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายแพทย์เหวง โตจิราการ ซึ่งแกนนำทั้งหมดได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวในเวลาต่อมา แต่ขณะนั้นอัยการได้พิจารณาสำนวนคดี และสั่งไม่ฟ้องแกนนำ นปช. เนื่องจากผู้ต้องหาได้ยื่นหลักฐานเอกสารร้องขอความเป็นธรรมให้อัยการพิจารณาจึงมีคำสั่งไม่ฟ้อง และส่งเรื่องให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพิจารณา

แต่แล้ว พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ขณะนั้น กลับมีความเห็นแย้งให้ฟ้องผู้ต้องหา และส่งความเห็นแย้งให้ นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด ขณะนั้น พิจารณาชี้ขาด จนกระทั่งอัยการสูงสุด มีความเห็น “ชี้ขาด” สั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมดในข้อหามั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายหรือก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง และข้อหาอื่นตามความเห็นแย้งของ ผบ.ตร.

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนมีความเห็นสมควรสั่งฟ้องแกนนำ นปช. 10 คน ในข้อหามั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ให้เกิดการวุ่นวายขึ้นประกอบด้วย 1.นายวีระ มุสิกพงศ์ 2.นายจตุพร พรหมพันธุ์ 3.นายจักรภพ เพ็ญแข 4.นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ 5.นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย 6.นพ.เหวง โตจิราการ7.พ.อ.ดร.อภิวันท์ วิริยะชัย 8.นายจรัล ดิษฐาอภิชัย9.นายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ และ 10.นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล

 

นอกจากนี้ ได้ส่งฟ้องผู้ร่วมชุมนุมก่อความวุ่นวายอีก 5 คน ในข้อหามั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ประกอบด้วย 1.นายบรรจง สมคำ 2.หม่อมหลวงวีระยุทธ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา 3.นายศราวุธ หลงเส็ง4.นายวีระศักดิ์ เหมะธุลิน และ 5.นายวันชัย นาพุทธา

จากนั้นเมื่อวันที่ 9 ม.ค.2560 ศาลอุทธรณสั่งจำคุก นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายวีระ มุสิกพงศ์ นพ.เหวง โตจิราการ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทยเป็นเวลา 2 ปี 8 เดือน แต่จำเลยประกันตัวออกไปยื่นต่อศาลฎีกา ในคดีหมายเลขดำ อ.3531/2552

กระบวนการเลื่อนอ่านคำพิพากษาที่ผ่านมาแล้วทั้งหมด 4 ครั้ง แต่ในวันที่ 26 มิ.ย. เวลา 09.00 น.ศาลอาญา นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีแกนนำ นปช. ชุมนุมหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ เพื่อสรุปผลแห่งคดีจากเหตุการณ์ปะทะเดือดบ้านสี่เสาเทเวศน์ เมื่อวันที่ 22 ก.ค.2550 เมื่อจำเลย 4-7 ยื่นคำร้องขอ “กลับคำให้การ” ใหม่เป็นรับสารภาพ

มหากาพย์คดีชุมนุมใหญ่กลุ่ม นปช.เมื่อปี 2550 กำลังรอคำพิพากษา ผลแห่งการกระทำเมื่อ 13 ปี สุดท้ายจะมีชะตากรรมอย่างไร