กต.ยัน นักการทูตไม่ใช่ VIP ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนด ศบค. ทั้งสิ้น
โฆษกกระทรวงต่างประเทศ ยืนยัน นักการทูตได้รับคุ้มครองตามอนุสัญญาเวียนนา แต่ไม่ได้หมายความว่า เป็น VIP และต้องปฏิบัติตามกฎหมายประเทศเจ้าบ้านทั้งสิ้น พร้อมเผย กต. เตรียมเรียกตัวแทนสถานทูตเข้าฟังคำชี้แจง ระเบียบปฏิบัติบ่ายนี้
วันนี้ (17 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ระหว่างการแถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 ประจำวัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ได้กล่าวเปิดเผยกรณีที่เกิดขึ้นเคสอุปทูตซูดาน ว่า จากเคสดังกล่าว กระทรวงต่างประเทศ ได้ทำการหารือและปรับมาตรการให้เข้มข้นมากขึ้น และได้ส่งจดหมายเวียนไปยังสถานทูตต่างๆ ว่า เมื่อเดินทางมาถึงไทยและรับการตรวจคัดกรองแล้ว ขอให้ "รอผล" ยืนยันก่อนว่า ผลตรวจเป็นลบ จึงจะออกจากสนามบินได้
เช่นเคสล่าสุดของนักการทูตจากเอสโตเนีย ก็ได้รับการตรวจและได้ผลเป็นลบแล้ว จึงได้ออกจากสนามบินกลับที่พัก ซึ่งเป็นที่กักตัว 14 วัน ตามที่หน่วยงานต้นสังกัดกำหนด โดยโฆษก กต. ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า หลังจากคณะกรรมการนิติบุคคลมีมติไม่ให้เข้าพัก กระทรวงต่างประเทศได้เข้าไปช่วยประสานงาน หารือและส่งตัวนักการทูตรายนี้ไปเข้าพักในโรงแรมที่เป็นสถานที่กักกันที่รัฐกำหนด ASQ (Alternative State Quarantine) และอยู่ภายใต้มาตรการการดูแลด้านสาธารณสุข
พร้อมกล่าวยืนยันว่า นักการทูตทุกรายที่เข้ามา การเข้ามาจะต้องทำภายใต้กรอบ กฎระเบียบที่ ศบค. วางไว้
"นักการทูตไม่ใช่วีไอพี แต่ได้รับการคุ้มครองตามอนุสัญญาเวียนนา ซึ่งในเรื่องของเอกสิทธิ์ เป็นเพียงเพื่อคุ้มครองให้เขาสามารถปฏิบัติหน้าที่โดยมีประสิทธิภาพในฐานะตัวแทนทางการทูต ในฐานะผู้แทนของรัฐ
อย่างไรก็ตาม ภายใต้อนุสัญญาเวียนนา นักการทูตจะต้องเคารพ และปฏิบัติตามระเบียบและกฎหมายของประเทศเจ้าบ้านด้วย ซึ่งในกรณีนี้ ก็หมายถึงการต้องปฏิบัติตามมาตรการที่ ศบค. กำหนดมา"
และเผยว่า นับจากนี้ เจ้าหน้าที่จะดำเนินมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้น ทบทวนมาตรการให้เข้มข้นมากขึ้น ซึ่งที่ประชุม สมช. จะทำการประชุมหาข้อสรุปที่ชัดเจนในบ่ายวันนี้ (17 ก.ค.)
"แต่ระหว่างนี้ ซึ่งเป็นช่วงระหว่างเปลี่ยนผ่าน เรายังใช้ตามระเบียบเดิมอยู่ คือ การใช้ที่พักเป็นที่กักตัว 14 วันภายใต้การดูแลของหน่วยงานต้นสังกัด แต่สิ่งที่เราได้ดำเนินการหลังจากกรณีของซูดาน คือ ปรับมาตรการที่เข้มข้นมากขึ้น โดยเราได้ส่งจดหมายเวียนไปยังสถานทูตต่างๆ ว่า เรามีเพิ่มมาตรการ เช่น เมื่อเดินทางมาถึงไทยและรับการตรวจคัดกรองแล้ว ขอให้ "รอผล" ยืนยันก่อนว่า ผลตรวจเป็นลบ จึงจะออกจากสนามบินได้
และได้พยายามโน้มน้าวให้กักตัวในพื้นที่เป็นส่วนแยก ที่เรียกว่า Isolate Facilities ที่ไม่ต้องสัมผัสกับใคร แต่อย่างไรก็ตาม นี่คือช่วงของการเปลี่ยนผ่าน หลังจากการประชุมคณะกรรมการผ่อนคลายในบ่ายวันนี้ก็จะมีความชัดเจนมากขึ้น"
พร้อมกันนี้ ยังได้เปิดเผยว่า ในบ่ายวันนี้ กระทรวงต่างประเทศ ได้เชิญตัวแทนคณะทูต จากสถานทูตในประเทศไทย มาฟังการบรรยายสรุป เพื่อทำความเข้าใจ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น