ทำไม “กองทุนรวม” จึงเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นลงทุน
เปิดข้อดีของการเลือก "กองทุนรวม" จุดเริ่มต้นความมั่งคั่งของนักลงทุนมือใหม่
ใครๆก็อยากมีเงินเก็บ และมีความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว แต่ปัญหาหนึ่งที่ใครต่อใครต่างประสบเช่นเดียวกันนั่นคือการไม่รู้ว่าจะเริ่มลงทุนอย่างไรดี โดยเฉพาะผู้เริ่มต้นทำงาน นักลงทุนหน้าใหม่ที่ยังไม่มีความรู้ในการลงทุนมากนัก
ในบทความนี้ เราขอเสนอการลงทุนใน “กองทุนรวม” ซึ่งถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการริเริ่มลงทุน ทั้งนี้เพราะในภาพรวมแต่ละกองทุนจะมีผู้เชี่ยวชาญคอยบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนให้ แถมการเริ่มต้นยังใช้เงินเริ่มต้นไม่มากนัก ซึ่งจากนี้ไปเราจะมาอธิบายเพิ่มเติมว่า เหตุใดมันถึงเป็นเช่นนั้น
ทำไมต้องกองทุนรวม
สำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ ควรต้องเข้าใจเสียก่อนว่า การลงทุนในกองทุน คือการรวบรวมเงินทุนจากนักลงทุนทั่วไป เพื่อรวมเป็นเงินก้อนขนาดใหญ่ แล้วนำเงินที่รวบรวมนั้นไปกระจายลงทุนตามนโยบายการลงทุนที่ได้ตกลงเอาไว้ ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทจัดการกองทุนซึ่งมีหน้าที่ลงทุนแทนเราตามนโยบายของกองทุนที่เราเลือกตามความเสี่ยงที่ตัวเองสามารถรับได้ ซึ่งกองทุนแต่ละกองจะได้ผลตอบแทนแตกต่างกันไปตามความเสี่ยง ประเภทกองทุน และสถานการณ์ตลาด โดยมีโอกาสได้รับผลตอบแทนตั้งแต่ 2-12% ต่อปี (ผลตอบแทนแต่ละปีจะแตกต่างกัน ตามประเภทสินทรัพย์ที่ลงทุน สภาวะตลาด และปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง)
เคยมีการรวบรวมตัวอย่างผลตอบแทนย้อนหลังที่เกิดขึ้นจริงของกองทุนประเภทต่างๆ พบว่า ผลตอบแทนในการลงทุนย้อนหลัง 10 ปี ของกองทุนที่มีความเสี่ยงต่างกัน หากแต่ถ้าเป็นการลงทุนระยะยาวจะทำให้ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับเป้าหมายมากกว่าการออมทรัพย์ธรรมดา ซึ่งนั่นคือเหตุผลแรกที่ผู้คนต่างนิยมใช้ “กองทุนรวม” เป็นเครื่องมือแรกๆสำหรับการเก็บออมและเริ่มลงทุนอย่างจริงจัง
เฉลี่ยลงทุนได้
ในการซื้อ “กองทุนรวม” จะมีคำว่า "DCA" (Dollar-Cost Averaging) ซึ่งคือการตั้งระบบลงทุนแบบอัตโนมัติ เป็นงวดๆ งวดละเท่าๆ กัน ทุกเดือน และแต่ละเดือนก็สามารถเฉลี่ยซื้อในราคาไม่สูงนัก เช่น 1000 บาทต่อเดือน
ในการเฉลี่ยลงทุนถ้าราคาหุ้นปรับตัวต่ำลงจะซื้อหน่วยลงทุนได้มากขึ้น และเมื่อราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นจะซื้อหน่วยลงทุนได้น้อยลง ซึ่งการซื้อต่อไปเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง และสม่ำเสมอ จะช่วยถัวเฉลี่ยต้นทุนหน่วยลงทุนที่เราซื้อให้เท่าๆ กัน ทำให้ไม่ต้องมาคอยเฝ้าราคาขึ้นๆ ลงๆ ของกองทุน แถมมีผู้จัดการกองทุนช่วยบริหาร ทำให้ไม่ต้องมานั่งเฝ้าตลาดหุ้นด้วยตัวเอง
ซึ่งข้อดีของการลงทุนในกองทุนแบบ DCA จะช่วยตัดอารมณ์ความรู้สึกในการตัดสินใจลงทุนออกไป, ช่วยลดความเครียด ไม่จำเป็นต้องมีเงินก้อนใหญ่, ทำให้มีวินัยในการลงทุน ไม่หลงไปกับความผันผวนของตลาดในระยะสั้น ๆ
ทางเลือกหลากหลาย
เอาแค่เฉพาะในประเทศไทย ผู้ลงทุนมีตัวเลือกในการลงทุนกองทุนรวมมากมาย
เช่น กองทุนรวมตราสารทุน ซึ่งเน้นลงทุนในตราสารทุนหรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า “หุ้น” กองทุนรวมตราสารหนี้ที่จะนำเงินไปลงทุนในตราสารหนี้เอกชน ผสมกับตราสารหนี้ภาครัฐ กองทุนรวมแบบผสม ที่รวมสินทรัพย์หลายประเภทข้างต้นเข้าด้วยกัน ทั้งตราสารหนี้ระยะสั้น ตราสารหนี้ระยะยาว ทั้งยังมีกองทุนที่"Robo Advisor" (Robot + Advisor) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีทางการเงิน (Fintech) ที่ให้บริการแนะนำการลงทุนแบบออนไลน์แก่นักลงทุนทั่วไปอีก นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการลงทุนใน กองทุนรวมจึงมีความหลากหลาย
มีผู้เชี่ยวชาญจัดการให้
หากคุณมีเพื่อนหรือคนใกล้ชิดเป็นนักลงทุนก็อาจจะข้ามข้อนี้ไป แต่สำหรับผู้ที่ไม่มี การลงทุนในกองทุนรวมนี่แหละ จะทำให้เราได้มีที่ปรึกษาในการลงทุน โดยพวกเขาเหล่านั้น (ทีมงานหลักทรัพย์ซึ่งมีผู้จัดการกองทุนเป็นหัวหน้าทีม) จะบริหารเงินของเราด้วยนโยบายที่เหมาะสมกับความเสี่ยงที่เรารับได้ มีการกระจายความเสี่ยงที่ดีจากการกระจายการลงทุนในสินทรัพยที่หลากหลายของกองทุน ทั้งยังมีมีกลไกปกป้องผู้ลงทุนตามกฎระเบียบของสำนักงานสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
ข้างต้นเราคัดเฉพาะเหตุผลหลักๆ ที่จะอธิบายทั้งหมดคือเหตุผลหลักๆว่า ทำไมการลงทุนใน “กองทุนรวม” จึงเหมาะสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ หรือผู้เริ่มต้นลงทุน ถึงเช่นนั้นการลงทุนทั้งหมดล้วนมีความเสี่ยง ดังนั้นผู้สนใจจึงต้องศึกษาให้ดีก่อนการลงทุน
แบบฟอร์มแจ้งความประสงค์ขอรับข้อมูลการลงทุน
บลจ.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จํากัด คลิกที่นี่
บลจ พรินซิเพิล Principle คลิกที่นี่
สนใจเปิดบัญชีลงทุนกองทุน เริ่มต้น 1,000 บาท คลิกที่นี่