'กระทงน้ำแข็ง' เรียกรอยยิ้ม 'วันลอยกระทง'
“ลอยกระทง” ปีนี้ ไอคอนสยาม ชวนเติมรอยยิ้ม รักษ์แม่น้ำ สืบสานประเพณี ด้วยการลอยกระทงผลิตจากวัสดุธรรมชาติ และ “กระทงน้ำแข็ง” ขนาดพอเหมาะ ให้ทันเซลฟี่-อธิษฐานได้ก่อนละลาย
ปีที่ผ่านๆ มา งานลอยกระทง เคยเป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อสืบสานประเพณี สร้างความสุขให้คนไทย และดึงดูดนักท่องเที่ยว แต่ปีนี้ ‘ประเทศไทย’ นอกจากเผชิญปัญหาเศรษฐกิจจากพิษโควิด-19 ยังถูกบั่นทอนด้วยสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมือง สร้างความหวั่นวิตกเป็นทุกข์กังวลให้กับคนทำธุรกิจทุกสาขาอาชีพ เจ้าของกิจการ คนทำงาน และคนใช้แรงงาน
แต่เมื่อ ‘วันลอยกระทง‘ มาถึง ทิพรัตน์ สุธรรมสมัย ผู้บริหารเรือนดอกไม้ (Flower Pavillion) ภายในไอคอนสยาม ก็เป็นคนไทยอีกหนึ่งคนที่พยายามต้อนรับเทศกาลลอยกระทงให้คนไทยมีรอยยิ้ม ด้วยการนำเสนอ กระทงน้ำแข็ง ลอยกระทงด้วยคอนเซปต์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สวยงาม เห็นแล้วสุขใจ มีรอยยิ้ม
“คอนเซปต์คืออยากเติมน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยา เหมือนมาช่วยกันคนละไม้คนละมือ เติมน้ำกลับลงไปให้แม่น้ำเจ้าพระยาผ่านการทำเป็นกระทงน้ำแข็งประดับดอกไม้ คงคอนเซปต์ความสวยงาม เทศกาลแห่งความสุข” คุณทิพรัตน์ กล่าวถึงที่มาของการสร้างสรรค์ ‘กระทงน้ำแข็ง’ สำหรับวันลอยกระทงปีนี้ในฐานะที่ไอคอนสยามตั้งอยู่ริมแม่น้ำ
คุณทิพรัตน์ใช้เวลาทดลองทำ ‘กระทงน้ำแข็ง’ อยู่ 3 สัปดาห์ อย่างแรกคือทดสอบกระทงน้ำแข็งต้องมีขนาดใดได้บ้างจึงจะลอยตัวเมื่ออยู่ในแม่น้ำ ประการถัดมาคือความหนาของน้ำแข็ง เพื่อให้ลูกค้าคุ้มค่าที่จะถือถ่ายรูปสำหรับเช็คอิน หรือโพสต์ได้ไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมงก่อนลอยลงแม่น้ำ และจะทำอย่างไรกระทงน้ำแข็งมีความสวยงาม ถืออยู่ในมือแล้วต้องดูสวย
“สำหรับกระทงน้ำแข็งเราตกแต่งด้วยดอกไม้ความหมายมงคล ขนมประเภทเยลลี่ ผลไม้ ถั่วลิสงแกะเปลือก อะไรก็ตามที่ไม่เป็นพิษกับสิ่งแวดล้อม เมื่อน้ำแข็งละลาย ดอกไม้กระจายไป ขนม ผลไม้ ถั่วลิสง ก็เป็นอาหารปลาต่อไปได้” คุณทิพรัตน์กล่าวและว่า ซึ่งในการตกแต่งกระทงน้ำแข็งด้วยสิ่งต่างๆ เหล่านี้ยังต้องพิจารณาจุดอ่อนจุดแข็งของวัสดุต่างๆ อีกด้วย เช่น ชนิดดอกไม้ที่จะไม่เกิดความเหม็นอับ ไม่เน่า ไม่เกิดเชื้อรา สีไม่ดำคล้ำเมื่อเจอความเย็นติดลบไม่ต่ำกว่า 24 ชั่วโมง
การถือกระทงน้ำแข็งไม่ลำบาก คุณทิพรัตน์เตรียม จานใบไม้อัด ให้รองถือกันความเย็นขณะอธิษฐานและระหว่างโพสต์ท่าถ่ายรูป
“จานใบไม้อัดนี้ไม่ต้องลอยไปด้วยนะคะ เรามีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกช่วยเก็บให้ แต่ถ้าต้องเอา ‘จานใบไม้’ ลงน้ำ ก็ไม่แปลก เพราะเป็นวัสดุธรรรมชาติที่ย่อยสลายได้”
อาจมีผู้สงสัยเกี่ยวกับ อุณหภูมิของแม่น้ำ หลังลอยกระทงน้ำแข็งลงไปแล้ว ว่าจะส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำหรือไม่อย่างไร
ในเรื่องนี้เฟซบุ๊กแฟนเพจ อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ เคยนำข้อมูลของคุณ ECOS แห่งเว็บบอร์ดพันทิปดอทคอม มาแบ่งปันไขข้อข้องใจดังกล่าวไว้ สรุปความได้ว่า
- หากกำหนดว่า อุณหภูมิน้ำลดลงกระทันหัน 5 องศาเซลเซียส แล้วอาจก่อให้เกิดปัญหากับสัตว์น้ำ
- กำหนดให้กระทงน้ำแข็ง หนัก 1 กิโลกรัม มีอุณหภูมิเย็นจัดที่ -10 องศาเซลเซียส ขณะที่อุณหภูมิน้ำปกติกำหนดให้เป็น 25 องศาเซลเซียส
- น้ำแข็งดังกล่าว จะทำให้น้ำปริมาณเท่าใดที่เคยมีอุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส ลดลง 5 องศาเซลเซียส เหลือ 20 องศาเซลเซียสได้
- จากสมการ “ความร้อนที่ดูด = ความร้อนที่คาย” การจะลดอุณหภูมิน้ำในสระน้ำจุฬาฯ ให้ลดลง 5 องศาเซลเซียสอย่างเฉียบพลัน ต้องใช้กระทงน้ำแข็งขนาด 1 กิโลกรัม จำนวน 5 แสนกระทง ลอยลงไปพร้อมกัน
- ดังนั้น การลอยกระทงน้ำแข็ง ไม่ได้น่ากังวลในเรื่องการลดอุณหภูมิของน้ำที่จะก่อให้เกิดอันตรายต่อสัตว์น้ำ ยิ่งถ้าเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติที่มีปริมาณน้ำมากกว่าสระน้ำจุฬาฯ มหาศาล และน้ำก็ไหลได้ด้วย ยิ่งไม่น่ากังวล เพราะปลาหรือสัตว์น้ำต่างๆ ก็ว่ายหลบบริเวณที่น้ำเย็น หนีไปได้
- อ่านข้อมูลฉบับเต็มได้ที่ https://www.facebook.com/OhISeebyAjarnJess/posts/739765673173155
นอกจาก ‘กระทงน้ำแข็ง’ คุณทิพรัตน์ยังเตรียมกระทงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไว้อีก 2 แนวคิด
“อย่างน้อยๆ ด้วยความเป็นเทศกาลลอยกระทง เราเลี่ยงไม่ได้กับ กระทงใบตอง ตามธรรรมเนียมนิยม แต่ด้วยความที่เราบริหารเรือนดอกไม้ (Flower Pavillion) เราได้แนวความคิดจากคุณแป๋ม-ชฎาทิพ(จูตระกูล)ที่ให้แนวทางเสมอว่าหน้าที่เราคือ โค-ครีเอท (Co-Creation สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์หรือนวัตกรรมที่มีคุณค่าร่วมกัน) กับชาวบ้านกับชุมชน"
"นอกจากกระทงใบตองรูปกลีบบัวปกติแล้ว เรายังนำเสนอกระทงใบตองที่เย็บแบบกลีบกระทงขึ้นมาเหมือนแผ่นกระจกของตัวอาคารไอคอนสยาม เพิ่มคุณค่า เป็นลิมิเต็ดอิดิชั่น เราใส่ความคิดสร้างสรรค์เข้าไป แต่ยังคงอนุรักษ์ความเป็นกระทงใบตอง เป็นผลงานของน้องๆ จากวิทยาลัยบพิตรพิมุข (มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตบพิตรพิมุข จักรวรรดิ หรือที่ในอดีตเรียกว่า โรงเรียนวัดบพิตรพิมุข) เราให้ไอเดียแล้วให้น้องๆ ลองทำมา แล้วปรับแบบกัน เราอยากให้น้องๆ มีประสบการณ์ทำงานเชิงธุรกิจ”
แนวคิดที่สองคือการใช้ วัสดุธรรมชาติ ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม คือกระทงทำจากกระดาษไบโอ เปลือกข้าวโพด การใช้ใบเตยหอมม้วนเป็นรูปดอกกุหลาบประดับทั่วตัวกระทง หรือสานเป็นตัวปลาตะเพียนสำหรับตกแต่งเพิ่ม ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นงานฝีมือจากชุมชนท้องถิ่นที่ ‘เรือนดอกไม้’ เดินทางไปร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์
“เรือนดอกไม้เป็นเวทีสนับสนุนชุมชน ให้คนไม่มีพื้นที่ ไม่หน้าร้าน ไม่มีร้านค้า มีโอกาสได้แสดงออก มีเวทีของการจำหน่ายสินค้า โดยเราเข้าไปช่วยในส่วนพัฒนาผลิตภัณฑ์ ในปีนี้เราได้ กระทงข้าวโพด จากชุมชนในพิษณุโลก” คุณทิพรัตน์ กล่าว
นอกจากได้กระทงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาแล้ว ยังไม่พอ ยังมีการเพิ่มลูกเล่นน่ารักด้วยการหยอด อาหารปลา ใส่ไว้ในกระทง
“เราอยากให้คนไทยออกมามีความสุขกับเทศกาล หลายคนไปทำบุญปล่อยปลา ลอยกระทงครั้งนี้ก็ให้อาหารปลาไปด้วยเลย เป็นความสุขความสนุกสำหรับคนที่มาไอคอนสยาม”
กระทงทั้ง 3 ประเภท ราคาเริ่มต้นกระทงละ 100 บาท ทั้งนี้ ‘เรือนดอกไม้’ จัดเตรียมกระทงน้ำแข็งขนาด 3-8 นิ้วไว้รวมประมาณ 1,000 ใบ ณ จุดจำหน่ายกระทงในงานเทศกาลลอยกระทง ICONSIAM Chao Phraya River of Eternal Prosperity ประจำปีพ.ศ.2563 บริเวณ ริเวอร์พาร์ค ไอคอนสยาม ถนนเจริญนคร วันเสาร์ที่ 31 ตุลาคมนี้ ซึ่งร่วมกันจัดโดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ ไอคอนสยาม
ภายในงานยังมีการแสดงที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ การแสดงชุด Show Of Eternal Prosperity บอกเล่าเรื่องราววิวัฒนาการของประเพณีลอยกระทงผ่านยุคสมัยจากอดีตอันรุ่งเรืองสู่ปัจจุบันที่รุ่งโรจน์ และ The ICONIC Multimedia Water Features การแสดงระบำสายน้ำเต็มรูปแบบทั้งแสง สี เสียง และมัลติมีเดีย ตลอดความยาวของน้ำพุกว่า 400 เมตร ที่หลายคนรอคอย
ขณะที่ภายในพื้นที่ เมืองสุขสยาม ชั้น G จัดงาน รื่นแสง เริงศิลป์ อเมซิ่ง สุขสยาม ร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง ตระการตากับ กระทงสายประกายแสง เนรมิตกระทงกาบกล้วยจากชุมชนแม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม, ตื่นตาตื่นใจการแสดงกระทงลอยฟ้า นวัตกรรมรูปแบบใหม่ที่มาถ่ายทอดความมหัศจรรย์แห่งวิจิตรศิลป์ พร้อมกับความสวยงามของกระทง 4 ภาค จากประติมากรรุ่นใหม่ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ การประกวดนางนพมาศแบบมาเป็นคู่ แม่ลูก ยายหลานผูกพัน พร้อมรับความสนุกสุขสร้างสรรค์จากการแสดง สุนทรีย์ดนตรี ครื้นเครงบรรเลงสุข และร่วมสุขสมหวังกับกระทงเซียมซี ดวงดีดั่งใจ รับคำทำนายจากสายน้ำผ่านการลอยกระทง กิจกรรมจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2563