‘โจ ไบเดน’ พลิกนำในรัฐมิชิแกน หลังเริ่มนับบัตรทางไปรษณีย์

สำนักข่าวเอ็นบีซี รายงานว่า ผลการนับคะแนนล่าสุด พบว่า คะแนนเสียงของนายโจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต เริ่มแซงหน้าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในรัฐมิชิแกน ซึ่งเป็นรัฐสำคัญใน Swing State หรือ Battleground State ซึ่งเป็นรัฐที่ไม่ใช่ฐานเสียงของทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน

หลังจากมีการนับคะแนนบัตรเลือกตั้งไปแล้ว 89% ปรากฎว่า นายไบเดนได้รับคะแนนเสียง 2,485,743 คะแนน หรือ 49.2% ขณะที่ปธน.ทรัมป์ได้รับ 2,478,801 คะแนน หรือ 49.1%

คะแนนเสียงที่เพิ่มขึ้นของนายไบเดนมาจากการนับคะแนนบัตรเลือกตั้งที่มีการส่งทางไปรษณีย์

รัฐมิชิแกนมีจำนวนคณะผู้เลือกตั้ง 16 เสียง โดยผู้ที่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐจะต้องได้รับ 270 เสียง

ด้านสำนักพนันหลายแห่งพากันปรับราคาต่อรองการคว้าชัยชนะของนายไบเดน หลังจากพบว่าคะแนนเสียงเพิ่มขึ้นอย่างมากจากการนับคะแนนบัตรเลือกตั้งที่มีการส่งทางไปรษณีย์ โดยตลาดพนันบางแห่งให้โอกาสนายไบเดนคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้สูงถึง 70%

แม้ว่าคะแนนเสียงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ตีตื้นขึ้นมาในระยะแรก แต่พรรคเดโมแครตก็เริ่มแสดงความมั่นใจเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี

นายเทอร์รี แมคออลิฟฟ์ อดีตผู้ว่าการรัฐเวอร์จิเนีย กล่าวว่า “โจ ไบเดนจะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนต่อไป” พร้อมกับเชิญชวนให้สมาชิกพรรครีพับลิกันไปพนันผลการเลือกตั้ง

หลังจากที่คะแนนเสียงของนายไบเดนไหลเข้ามาในรัฐวิสคอนซิน และมิชิแกน OddsChecker ก็เพิ่มโอกาสที่นายไบเดนจะคว้าชัยชนะในการเลือกตั้ง โดยปรับราคาต่อรองอยู่ที่ 1/2 ขณะที่ BetOnline ให้ราคาต่อรองของนายไบเดนที่ -330 ขณะที่ปธน.ทรัมป์อยู่ที่ +275

นอกจากนี้ Smarkets ปรับราคาต่อรองให้นายไบเดนกลับมาเป็นต่อปธน.ทรัมป์เป็นครั้งแรก โดยให้โอกาสที่นายไบเดนจะคว้าชัยชนะสูงถึง 59% หลังจากที่ก่อนหน้านี้ให้ปธน.ทรัมป์มีโอกาสชนะมากถึง 80%

นายซาร์บจิต บาคห์ชี หัวหน้าฝ่ายตลาดการเมืองของ Smarkets กล่าวว่า “ขณะนี้มีแนวโน้มว่านายไบเดนจะคว้าชัยชนะในรัฐมิชิแกนและวิสคอนซิน ส่งผลให้โอกาสที่ปธน.ทรัมป์จะคว้าชัยชนะลดลงเหลือ 41% ทำให้นายไบเดนมีโอกาสมากกว่าปธน.ทรัมป์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เมื่อวานนี้ และขณะนี้เขามีโอกาสชนะการเลือกตั้งมากถึง 59%”

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า จากการนับคะแนนเลือกตั้งทั่วประเทศล่าสุด นายไบเดนยังคงมีคะแนนนำปธน.ทรัมป์ โดยได้คะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้ง 238 เสียง ขณะที่ปธน.ทรัมป์ได้ 213 เสียง โดยผู้ที่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐจะต้องได้รับ 270 เสียง