ธ.ก.ส.เร่งปรับหนี้ยืนหนี้เสีย4%
ธ.ก.ส.จะเร่งปรับโครงสร้างหนี้ที่อยู่ระหว่างพักชำระหนี้ เพื่อรักษาระดับหนี้เสียให้อยู่ไม่เกิน4%ในปีนี้
นายสุรชัย รัศมี รักษาการแทนผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)กล่าวว่า
ธ.ก.ส.จะตรึงหนี้เสียภาคเกษตรในปีนี้ให้อยู่ในระดับไม่เกินปีที่แล้ว หรือราว 4% โดยมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ที่จะดำเนินการภายในปีนี้
ทั้งนี้ ณ 30 ก.ย.ที่ผ่านมาหนี้เสียของธนาคารอยู่ที่ 3.95% ของพอร์ตสินเชื่อ 5 ล้านล้านบาท จากสิ้นปีบัญชีที่แล้วหรือ ณ 31 มี.ค.2563ที่มีหนี้เสียอยู่ที่ 4.03%
เขากล่าวว่า มาตรการพักหนี้เกษตรเป็นเวลา 1 ปี จะสิ้นสุดในเดือนมิ.ย.ปีหน้า ซึ่งมีเกษตรกรที่เข้าโครงการพักหนี้ 3.25 ล้านราย คิดเป็นมูลหนี้ 1.45 ล้านล้านบาท
"ธ.ก.ส. จะดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ ให้กับลูกที่พักหนี้ในกลุ่มที่ถูกจัดว่าเป็นสีเขียวคือยังสามารถชำระหนี้ได้ตามปกติ เพื่อป้องกันการไหลมาเป็นหนี้เสียและกลุ่มสีเหลือง ที่ต้องปรับโครงสร้างหนี้ ให้จบภายในธ.ค.นี้ ซึ่งการปรับโครงสร้างหนี้ก่อนเป็นหนี้เสีย ทางธปท.จะไม่นับเป็นหนี้เสีย"
นอกจากนี้ สำหรับลูกค้าที่มีปัญหามนการชำระหนี้ ธ.ก.ส. ก็มีโครงการปรับลดดอกเบี้ยให้รวมถึงยืดขยายเวลาการผ่อนชำระเพื่อให้ค่างวดการผ่อนชำระลดลง สอดคล้องกับรายได้ที่ลดลงและในกรณีที่เป็นลูกค้าที่สามารถชำระหนี้ได้ตามปกติ ธ.ก.ส. ก็มีโครงการ "ชำระดีมีคืน" หรือการคืนดอกเบี้ยให้กับลูกค้ามี่มาชำระหนี้ตามปกติ ซึ่งอาจคืนดอกเบี้ยให้ 10-20%ของดอกเบี้ยจ่าย ทั้งนี้ ฝ่ายบริหารจะนำโครงการนี้ให้บอร์ดอนุมัติในปลายเดือนนี้
เขากล่าวอีกว่า ในปีนี้ธนาคารมีโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ รวมเป็นดม็ดเงินสินเชื่อ2.2แสนล้านบาท โดยเป็นสินเชื่อเพื่อรองรับคนที่กลับสู่ชนบท(สินเชื่อnew.gen.hug.บ้านเกิด)คาดว่ามีราว2ล้านคน เป็นวงเงิน1.7แสนล้านบาท ซึ่งคิดดอกเบี้ยเท่ากับmrrซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 6.5% และสินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทยเพื่อผู้ประกอบการในท้องถิ่น วงเงิน 5หมื่นล้านบาท ดอกเบี้ย 0.01%
ทั้งนี้ ธ.ก.ส.ถือเป็นธนาคารที่ให่้สินเชื่อภาคการเกษตรที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ มีเม็ดเงินสินเชื่อลงสู่ภาคการเกษตร 1.5 ล้านล้านบาท ครอบคลุมลูกค้า 6 ล้านครัวเรือน ในจำนวนนี้เป็นลูกค้าที่แอคทีพ 4 ล้านครอบครัว หากคิดเป็นจำนวนรายที่เกี่ยวโยงกับสินเชื่อราว 20 ล้านคน
นายสมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ธนาคารได้ให้พนักงานลงสแกนสถานะของลูกหนี้ในโครงการพักหนี้ ซึ่งจนถึงปัจจุบันสแกนไปแล้ว 2.9ล้านราย สามารถแยกเป็นกลุ่มได้ดังนี้ คือ กลุ่มลูกค้าสีเขียว ซึ่งถือเป็นลูกค้าที่สามารถกลับมาชำระหนี้ได้ตามปกติ คิดเป็นสัดส่วน 72% กลุ่มสีเหลืองที่ต้องดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้สอดคล้องกับรายได้ที่ลดลง มี 23% กลุ่มสีส้ม ซึ่งจำเป็นต้องเข้าช่วยฟื้นฟูรายได้และช่วยปรับโครงสร้างหนี้ มี3% กลุ่มสีแดงซึ่งเป็นลูกหนี้ที่มีปัญหาในการชำระหนี้ อาจต้องช่วยลดภาระหนี้ให้ มี2% และกลุ่มสีดำ เป็นกลุ่มที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตำต้องตัดหนี้สูญมีไม่ถึง1%
สาเหตุสำคัญที่ทำให้ระดับหนี้เสียของธ.ก.ส.ในปีบัญชีนี้ ที่เริ่มเม.ย.สิ้นสุดมี.ค.ปีหน้า ไม่กระโดดสูงกว่าปีที่ผ่านมา เพราะธนาคารเร่งดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้