ทอท.เดินหน้าขยายสุวรรณภูมิ สร้างเทอร์มินัล 2
ทอท.เดินหน้าขยายสุวรรณภูมิ สร้างเทอร์มินัล 2 ด้านทิศเหนือ หลังโควิด -19 มีแนวโน้มคลี่คลาย วัคซีนจ่อคลอดกลางปีหน้า ประเมินผู้โดยสารในปี 2566 จะพลิกกลับสถานการณ์ปกติ 65 ล้านคนต่อปี เกินขีดความสามารถรองรับ
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการพัฒนาอาคารผู้โดยสารส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ (North Expansion) (เทอร์มินัล 2) กรอบวงเงินลงทุน 4.4 หมื่นล้านบาท โดยระบุว่า ปัจจุบัน ทอท.อยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุงแผนการลงทุนพัฒนา North Expansion หลังจากที่ทางสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) มีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมในเรื่องการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบกับอุตสาหกรรมการบิน
อย่างไรก็ดี ผลกระทบจากโควิด -19 ทำให้แผนพัฒนา North Expansion มีความจำเป็นต้องปรับปรุง เพื่อคำนึงถึงการออกแบบให้สอดคล้องกับ New Normal หรือการใช้ชีวิตภายใต้วิถีใหม่ รวมถึงจะต้องจัดทำรายละเอียดเพิ่มเติมถึงความจำเป็นในการดำเนินการก่อสร้างส่วนต่อขยายด้านตะวันออก (East Expansion) และส่วนต่อขยายด้านตะวันตก (West Expansion) ของอาคารผู้โดยสารหลังเดิม
ทั้งนี้ตนคาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการปรับปรุงแผนประมาณ 1-2 เดือน หลังจากนั้นจะส่งให้ สศช.พิจารณา โดย ทอท.ยืนยันว่ายังมีความจำเป็นในการก่อสร้าง North Expansion ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เนื่องจากเชื่อมั่นว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะเริ่มคลี่คลายหลังจากมีวัคซีนป้องกัน ซึ่งปัจจุบันหลายประเทศมีความก้าวหน้าเรื่องพัฒนาวัคซีนแล้ว
อีกทั้ง ประเทศชั้นนำในยุโรป และสหรัฐอเมริกาก็มั่นใจว่าจะเริ่มใช้วัคซีนได้อย่างเป็นทางการในปี 2564 ขณะที่รัฐบาลไทยล่าสุดยังได้ลงนามในสัญญากับแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) บริษัทผลิตวัคซีนสัญชาติอังกฤษ-สวีเดน
สำหรับการก่อสร้าง North Expansion จะต้องดำเนินการก่อสร้างตามแผนเพื่อรองรับการเติบโตของผู้โดยสารในอนาคต ซึ่งภายหลังจากที่มีวัคซีนป้องกันแล้วคาดว่าปลายปี 2565 สถานการณ์อุตสาหกรรมการบินจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และในปี 2566 คาดว่าผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะกลับมาอยู่ในระดับเดียวกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ที่มีผู้โดยสารราว 65 ล้านคน ซึ่งเกินความสามารถในการรองรับผู้โดยสารของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่รองรับได้เพียง 45 ล้านคน ขณะที่โครงการก่อสร้าง North Expansion หากได้รับการอนุมัติ และดำเนินการก่อสร้างตามแผนก็จะแล้วเสร็จประมาณปี 2567-2568 คาดว่าผู้โดยสารอาจจะเติบโตมากกว่า 65 ล้านคน
ส่วนการก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1 : SAT-1) ภายใต้โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.ระยะ 2) คาดว่าจะแล้วเสร็จเปิดให้บริการในปี 2565 ซึ่งรองรับผู้โดยสารได้เพียง 15 ล้านคน หากรวมกับผู้โดยสารของเฟสแรก 45 ล้านคน ก็เท่ากับรองรับผู้โดยสารได้เพียง 60 ล้านคน ดังนั้น ทอท.จึงมองถึงความจำเป็นในการก่อสร้าง North Expansion ที่มีความสามารถในการรองรับผู้โดยสารราว 30 ล้านคน
รวมถึงการก่อสร้างส่วนต่อขยายด้านตะวันออก และส่วนต่อขยายด้านตะวันตกของอาคารผู้โดยสารหลังเดิมรองรับผู้โดยสารรวมกัน 30 ล้านคน ซึ่งจะส่งผลให้ความสามารถในการรองรับผู้โดยสารรวมกันทั้งหมดเป็น 120 ล้านคน แต่อย่างไรก็ตาม การพัฒนาโครงการ North Expansion ส่วนต่อขยายด้านตะวันออก และส่วนต่อขยายด้านตะวันตก ขึ้นอยู่กับ สศช.และกระทรวงคมนาคมจะพิจารณาว่าจะเห็นชอบหรือไม่อย่างไร