‘หาดทิพย์’โตพ้นเงาเครื่องดื่มภาคใต้ ปั้นธุรกิจใหม่บุกทั่วไทย-อาเซียน

‘หาดทิพย์’โตพ้นเงาเครื่องดื่มภาคใต้  ปั้นธุรกิจใหม่บุกทั่วไทย-อาเซียน

โควิด-19 ที่แพร่ระบาดทั่วโลก สร้างความเสียหายให้ธุรกิจมหาศาล โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยวและบริการ ฟันเฟืองสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เมื่อล็อกดาวน์ ปิดน่านฟ้า ผู้คนผวาไม่กล้าออกจากบ้าน ท่องเที่ยวจึงพังพาบ กระเทือนธุรกิจในห่วงโซ่เป็น “โดมิโน่ เอ็ฟเฟ็ก”

หาดทิพย์” หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มรายใหญ่ของไทย มี โคคา-โคล่า แฟนต้า สไปรท์ มินิทเมด น้ำดื่มน้ำทิพย์ฯ เป็นสินค้าเรือธง ทำตลาดใน 14 จังหวัด กินพื้นที่ 70,000 ตารางกิโลเมตร ของภาคใต้  หลีกเลี่ยงผลกระทบยากบริษัทต้องปรับตัวเพื่ออยู่รอดท่ามกลางวิกฤติให้ได้

พลตรีพัชร รัตตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หาดทิพย์ จำกัด(มหาชน) ฉายภาพแรกที่เกิดขึ้นจากพิษสงโควิด-19 ทำให้ตลาดเครื่องดื่มโดยรวม ติดลบ” 12.3% แต่6ละหมวดหมู่หดตัวแตกต่างกัน น้ำอัดลมติดลบ 5.7% น้ำดื่มติดลบ 16.3% น้ำผลไม้ติดลบมากสุดที่ 17.8% เพราะเงินในกระเป๋าผู้บริโภคลดลง บางส่วนหันไปบริโภคเครื่องดื่มราคาต่ำและฟรี เช่น น้ำดื่ม อาจบริโภคในร้านอาหารที่มีไว้บริการฟรี

พื้นที่ภาคใต้ ไม่ว่าจะเป็นภูเก็ต สมุย หาดใหญ่ กระบี่ ถือว่าได้รับผลกระทบค่อนข้างแรง   จากเศรษฐกิจพึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก เมื่อไร้เงานักเดินทางการบริโภคจึงลดลง

เฉพาะไตรมาสหาดทิพย์มียอดขายเชิงปริมาณ 15 ล้านลัง ลดลง 2.5%  แต่ส่วนแบ่งทางการตลาดในภาคใต้ยังแข็งปึ้ก! 82.2% โดยร้านค้าทั่วไปยอดขายเติบโต 16% การปรับตัวเร็ว ทำนอกกรอบในการกระจายสินค้าสู่ตลาด(Route To Market:RTM) ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น มีหน่วยงานหลากหลายทั้งขายผ่านโทรศัพท์หรือเทเลเซล หน่วยขายตามที่อยู่อาศัยเจาะทุกตรอกซอกซอย เพื่อให้ได้ปริมาณมากขึ้น

ด้านตลาดโรงแรม ร้านอาหาร ภัตตาคาร โรงภาพยนตร์ หรือ HORECA ลูกค้าหยุดกิจการหลายเดือน เริ่มฟื้นตัว 91% เทียบไตรมาส 2 บริษัทยังปรับตัวขยายช่องทางจำหน่ายสู่ออนไลน์ มีแพนด้ามาร์ท เฟซบุ๊ค ไลน์ สร้างวอลุ่มขายให้มาก ส่งผลให้รายได้รวมไตรมาส 3 อยู่ที่ 1,610 ล้านบาท ติดลบ 1% แต่อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 168% เติบโต 65%

ทั้งนี้ ย้อนมองการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่เดือน มี.ธุรกิจของหาดทิพย์มีการฟื้นตัวอย่างช้าๆ สิ่งที่บริษัทพยายามแก้ไขสถานการณ์ได้ดี คือ ปรับตัวอย่างรวดเร็ว” ทันการณ์ สามารถรับมือกับดิสรัปชันที่เกิดขึ้นและไม่เคยเผชิญมาก่อน ทำให้ผลการดำเนินงาน 9 เดือน สร้างยอดขาย 45.9 ล้านลัง ติดลบ 8% รักษาส่วนแบ่งทางการตลาดในภาคใต้ที่ 83% น้ำดื่มน้ำทิพย์มีส่วนแบ่ง 5% เพิ่มจาก 4% การขายผ่านร้านค้าทั่วไปโต 9%

160907419279

ผลการดำเนินงานของบริษัท

ทว่า โควิดพิษสงร้าย ทำให้ยอดขาย 9 เดือน อยู่ที่ 4,970 ล้านบาท ติดลบ 5% แต่กำไรสุทธิโดดเด่นที่ 480 ล้านบาท เติบโต 16% โดยกำไร 9 เดือน แซงทั้งปี 2563 เรียบร้อยแล้ว มาจากการลดต้นทุนคงที่ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การกระจายสินค้าสู่ตลาด โควิดทำให้งดกิจกรรมการตลาด จึงลดใช้จ่ายด้านโฆษณาสื่อสารการตลาดอัดอีเวนท์ 9% เฉพาะไตรมาส 3 ลดงบมากถึง 31%

เราอยู่ใกล้ชิดตลาด มองและประเมินสถานการณ์ข้างหน้า อุตสาหกรรมท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้...ไม่คิดว่าจะฟื้นตัวก่อนสิ้นปี 2564”

ปัจจัยลบรายล้อม บริษัทต้องเพิ่มประสิทธิภาพ ได้ยุบย้ายโรงงาน เครื่องจักรที่ใช้ผลิตเครื่องดื่มจาก หาดใหญ่” มาอยู่ที่ อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้เป็น “พื้นที่โรงงานใหญ่” หรือ Mega Plant เพียงแห่งเดียว ผลิตสินค้ามากขึ้น เช่น น้ำอัดลมกระป๋องจากกำลังการผลิต 350 กระป๋องต่อนาที เป็น 600 กระป๋องต่อนาที เป็นการลดความซ้ำซ้อนของค่าใช้จ่าย และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

การพึ่งพาเครื่องดื่มอย่างเดียวไม่พอ พลตรีพัชร” วางแผนกระจายความเสี่ยงให้ธุรกิจมากขึ้น จึงตั้งบริษัทลูกรุกกิจการใหม่ อย่าง หาดทิพย์ คอมเมอร์เชียล ลุยจัดจำหน่ายและกระจายสินค้าอุปโภคบริโภค ประเดิม 7 แบรนด์ เช่น จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ทาโร่ มีสินค้าราว 565 รายการ(เอสเคยู) เช่น กระดาษชำระ ขนมขบเคี้ยวฯ อนาคตจะยกระดับให้บริการ โลจิสติกส์ครบวงจร

160907421051

แนวรบใหม่ของ 'หาดทิพย์' โตพ้นเงาธุรกิจเครื่องดื่มภาคใต้

บริษัทจะนำที่ดินที่มีศักยภาพไปพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เต็มรูปแบบ มีการตั้งหาดทิพย์ ฟู้ด แอนด์ เบเวอเรจ ผนึก เซ็นเรสเตอร์รองโฮลดิ้ง ขยายร้านอาหาร เช่น เขียง ตั้งเป้าเปิด 60-80 สาขา ภายใน 2 ปี แต่โควิดอาจทำให้แผนธุรกิจล่าช้า

ศักยภาพที่เรามีในพื้นที่ภาคใต้ มีข้อมูลนำมาวิเคราะห์ตลาดเพื่อทำอะไรได้อีกมากสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน และขยายธุรกิจที่หลากหลายหรือ Diversify ใช้ศักยภาพ สินทรัพย์เดิมที่มีให้เกิดประสิทธิภาพ Do more in the same ทำให้เราโต ไม่ใช่การเอากะลามาครอบตัวเองให้อยู่แค่ภาคใต้ วิชั่นเรามองขยายธุรกิจได้ทั่วไทยและอาเซียน

ปี 2563 บริษัทคาดปิดรายได้ 6,500 ล้านบาท ส่วนการขยายธุรกิจใหม่ต้องการให้มีสัดส่วนรายได้ 10%