ขึ้นต่อ
แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)
คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้
คาดดัชนีฯ ขึ้นต่อ และมีโอกาสสร้างจุดสูงสุดใหม่เหนือกว่า 1513 จุด (จุดสูงสุดเดิมตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. 2020) และมีแนวต้านต่อไปที่ 1530 จุด แนวรับ 1492 / 1480 จุด แนะนำ เก็งกำไร IVL PTTEP BGRIM คาดหุ้นพลังงานนำขึ้น รับข่าวราคาน้ำมันดิบโลกพุ่งขึ้น 4.9% ส่วนสัญญาณทางเทคนิคอาจมีแรงขายทำกำไรระยะสั้น หลังดัชนีฯ พุ่งกว่า 70 จุด ภายใน 2 วันทำการ และกระจุกตัวเฉพาะหุ้นกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้า GPSC EA GULF BGRIM BCPG SUPER และหุ้นบลูชิพบางตัว เช่น DELTA เป็นต้น ปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ ผลการรับรองให้ไบเดนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของสภาคองเกรส รายงานภาคบริการเดือน ธ.ค. และจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศ
ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้
1) สภาคองเกรสสหรัฐฯ ประชุมวันนี้ เพื่อรับรองผลเลือกตั้งให้ไบเดนเป็นประธานาธิบดี คนใหม่ แต่ทรัมป์ส่งสัญญาณให้กลุ่มผู้สนับสนุนประท้วง เพราะถูกโกงการเลือกตั้ง (+หุ้นกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้าและพลังงานทางเลือก หากสภาฯ รับรองไบเดนชนะ)
2) จับตา รายงานภาคบริการเดือน ธ.ค. ของประเทศพัฒนาแล้ว คาดส่งผลบวกต่อตลาดหากออกมาดีกว่าคาดการณ์ (+/-หุ้นท่องเที่ยวและบริการ)
3) นายกฯ ยืนยันไม่มีการล็อกดาวน์ในการใช้มาตรการขั้นที่ 1 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 (+ตลาดหุ้นไทย)
4) ราคาน้ำมันดิบโลกวานนี้ปิดพุ่ง 4.9% รับข่าวกลุ่มโอเปคพลัสมีมติคงการผลิตที่ระดับเดิมจนถึงสิ้นเดือน ก.พ. และซาอุฯ ลดการผลิตน้ำมันดิบลง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตั้งแต่ วันที่ 1 ก.พ. (+หุ้นกลุ่มพลังงาน)
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ USA-สภาคองเกรสประชุมเพื่อรับรองผลเลือกตั้งประธานาธิบดี / FOMC Minute / รายงานภาคบริการเดือน ธ.ค. ของ จีน Caixin คาด 56.9 (Vs เดือน พ.ย. 57.8) ออสเตรเลีย คาด 57.4 (Vs เดือน พ.ย. 55.1) ญี่ปุ่น คาด 47.2 (Vs เดือน พ.ย. 47.8) อียู คาด 47.3 (Vs เดือน พ.ย. 41.7) USA คาด 55.3 (Vs เดือน พ.ย. 58.4) / USA-Factory Orders เดือน พ.ย. คาด +0.7% MoM (Vs เดือน ต.ค. +1% MoM) ADP Employment Change เดือน ธ.ค. คาด 88k (Vs เดือน พ.ย. 307k)
Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา
+ ตลาดหุ้นไทยปิดบวกต่อเนื่องเป็นวันที่สอง: ตลาดหุ้นไทยปรับสูงขึ้น จากแรงซื้อหุ้น บลูชิพขนาดใหญ่ กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ +21.2% สื่อและสิ่งพิมพ์ +4.99% ขนส่งและโลจิสติกส์ +3.2% พลังงานและสาธารณูปโภค +2.96% ก่อนมาปิดตลาดที่ระดับสูงสุด 1506.65 จุด +38.41 จุด หรือ +2.62% วอลุ่มซื้อขาย 1.15 แสนล้านบาท หุ้นบวก >4% EA GPSC GULF BGRIM SUPER BCPG BCP ESSO CPN WHA AMATA STARK VGI DELTA KCE HANA TMB AOT CKP TTCL ACE หุ้นร่วง >4% AEONTS INET ACAP SRICHA
+ ตลาดหุ้นโลกส่วนใหญ่ปิดบวก: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาปิดบวก DJIA +0.55% (+167.71 จุด) S&P500 +0.71% Nasdaq +0.95% หลังรายงาน ISM Mfg PMI เดือน ธ.ค. ดีกว่าคาด และข่าวซาอุฯ ลดการผลิตลง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดคละ DAX -0.55% FTSE +0.6% CAC40 -0.44% วิตกการแพร่ระบาด COVID-19 ในอียูและการประกาศล็อกดาวน์ของอังกฤษ
+ ตลาดน้ำมันดิบและทองคำปิดบวก: WTI +USD2.31 +4.9% ปิดที่ USD49.93/บาร์เรล Brent +USD2.51 +4.9% ปิดที่ USD53.60/บาร์เรล รับข่าวผลประชุมกลุ่มโอเปคพลัสมีมติคงการผลิตที่ระดับเดิมจนถึงสิ้นเดือน ก.พ. ส่วนราคาทองคำขึ้นต่อ +USD7.80 ปิดที่ USD1954.40 ต่อออนซ์ เพื่อซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยก่อนทราบผลเลือกตั้งส.ว. รัฐจอร์เจีย
ประเด็นสำคัญ
+ COVID-19: ศบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อวันอังคารที่ 5 ม.ค. มีจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงจากวันก่อน โดยเพิ่มขึ้น 527 ราย (จากวันก่อนหน้า 745 ราย) และครม. อนุมัติงบประมาณให้สธ. จัดหาวัคซีนเพิ่ม เพื่อฉีดให้คนไทย 50% ของทั้งหมด
+ USA: ISM Mfg PMI เดือน ธ.ค. สูงขึ้น และดีกว่าคาดเป็น 60.7 สูงสุดตั้งแต่เดือน ส.ค. 2018 (Vs คาด 56.5 และเดือน พ.ย. 57.5) ได้แรงหนุนจากคาสั่งซื้อใหม่และการจ้างงานที่สูงขึ้น
- UK: นายกฯ จอห์นสัน ประกาศล็อกดาวน์ทั้งประเทศ หลังพบผู้ติดเชื้อสูงกว่า 5 หมื่นราย เป็นวันที่เจ็ด มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เที่ยงคืนวันจันทร์ จนถึงกลางเดือน ก.พ.
- Germany: คาดนายกฯ เมอร์เคิล จะขยายมาตรการล็อกดาวน์ไปจนถึงสิ้นเดือน ม.ค.
- Pfizer: เตือนว่าการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 นานกว่ากำหนด 21 วัน ไม่สามารถยืนยันได้ว่า ประสิทธิภาพในการต้าน COVID-19 จะเป็นเช่นเดิมหรือไม่ เพราะไม่เคยทดลองมาก่อน
+ Denmark: เป็นชาติที่สองต่อจาก UK ที่ใช้วิธีเลื่อนการฉีดวัคซีนต้าน COVID-19 เข็มที่สอง ออกไปเป็น 6 สัปดาห์ ขณะที่เยอรมนีอยู่ระหว่างการศึกษา
- USA: FDA ยืนยันไม่เปลี่ยนแปลงโดส และระยะเวลาในการฉีดวัคซีนให้ประชาชน เพราะไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนมารองรับและทำให้ประชาชนอยู่ในความเสี่ยง
+ ไทย: ครม. มีมติเห็นชอบกรอบงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2022 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท -5.66% จากปีก่อน แบ่งเป็นรายจ่ายประจำสัดส่วน 75.95% รายจ่ายลงทุน 20% และรายจ่ายชำระคืนเงินต้น 3.22%
+ เงินเฟ้อไทย: เดือน ธ.ค. หดตัว -0.27% YoY (Vs ตลาดคาด -0.4% YoY) ส่งผลให้เงินเฟ้อทั้งปี 2020 หดตัว -0.85% YoY (Krungthai COMPASS คาด -0.9%)
กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)
หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: RBF INTUCH SYNEX
หุ้นแนะนำเก็งกำไร: IVL GPSC BGRIM
Derivatives: แนะทยอยปิด Long S50H21 เพื่อทำกำไรบริเวณ 950 จุดขึ้นไป ราคาวิ่งมาถึงเป้าหมายแล้ว (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)