ราคาน้ำมันพุ่ง 2.49 ดอลล์ขานรับซาอุฯเดินหน้าลดการผลิต

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ พุ่งขึ้น 2.49 ดอลลาร์ หรือ 4% ปิดที่ราคา 63.78 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 2.68 ดอลลาร์ หรือ 4.15% ปิดที่ราคา 66.73 ดอลลาร์/บาร์เรล

แหล่งข่าวระบุว่า ซาอุดีอาระเบียสมัครใจที่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1 ล้านบาร์เรล/วันต่อไปอีก 1 เดือนในเดือนเม.ย.

นอกจากนี้ ในการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัสในวันนี้ เจ้าชายอับดูลาซิส บิน ซัลมานจากซาอุดีอาระเบีย ได้เรียกร้องให้สมาชิกโอเปกพลัสใช้ความระมัดระวังในการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการผลิตน้ำมัน ท่ามกลางความไม่แน่นอนของอุปสงค์ อันเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ก่อนหน้านี้ มีการคาดการณ์กันว่า ที่ประชุมโอเปกพลัสจะมีมติผ่อนคลายมาตรการปรับลดกำลังการผลิต เนื่องจากขณะนี้ราคาน้ำมันได้ฟื้นตัวขึ้นแล้ว โดยคาดว่าโอเปกพลัสจะเพิ่มกำลังการผลิต 1.5 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนเม.ย.

อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวระบุว่า ที่ประชุมจะตัดสินใจคงกำลังการผลิต เนื่องจากการฟื้นตัวของราคาน้ำมันยังคงมีความเปราะบาง

นอกจากนี้ มีความกังวลกันว่าการดีดตัวของราคาน้ำมันในระยะนี้มีสาเหตุจากการเก็งกำไรของนักลงทุน แทนที่จะเกิดจากปัจจัยพื้นฐานในตลาด

ขณะเดียวกัน โอเปกคาดว่าอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในปีนี้จะเพิ่มขึ้น 5.8 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 96 ล้านบาร์เรล/วัน โดยต่ำกว่าอุปสงค์ในปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่ระดับ 100 ล้านบาร์เรล/วัน

นักลงทุนยังคงจับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ โดยสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติให้ความเห็นชอบต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของวุฒิสภา ก่อนที่จะส่งให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดนลงนามรับรองเป็นกฎหมาย

นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ คาดว่า กระบวนการอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะเสร็จสิ้นก่อนวันที่ 15 มี.ค. ซึ่งเป็นวันที่มาตรการช่วยเหลือผู้ว่างงานที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จะหมดอายุลง