สบน.มั่นใจคุมกรอบหนี้ปีนี้ไม่เกิน60%
สบน.มั่นใจระดับหนี้สาธารณะของไทยจะอยู่ภายใต้กรอบยั่งยืนการคลัง โดยปีนี้จะอยู่ที่ 56% ขณะที่ ประเทศอื่นในเอเชียพุ่ง 67% ระบุ การก่อหนี้ไม่กระทบแหล่งเงินเอกชน
นางแพตริเซีย มงคลวณิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.)ยืนยันระดับหนี้สาธารณะของไทยในปีงบประมาณ 2564นี้ จะอยู่ในกรอบความยั่งยืนทางการคลังที่ไม่เกิน 60%ต่อจีดีพี โดยจะอยู่ที่ประมาณ 56% อย่างไรก็ดี ระดับหนี้สาธารณะของไทยได้ทยอยปรับสูงขึ้นจากระดับประมาณ 40%ต่อจีดีพีหลังจากรัฐบาลได้กู้เงินฉุกเฉินวงเงิน 1 ล้านล้านบาท ซึ่งถือเป็นความจำเป็น เนื่องจาก นำมาใช้เพื่อดูแลสถานการณ์โควิด-19 เนื่องจาก วงเงินในงบประมาณในปี 2564 มีไม่เพียงพอ
เธอกล่าวว่า การที่ระดับหนี้สาธารณะของไทยทยอยปรับสูงขึ้นนั้น เป็นทิศทางเดียวกันกับประเทศอื่นๆทั่วโลก ซึ่งทุกประเทศได้ก่อหนี้เพื่อนำมาใช้จ่ายในสถานการณ์เดียวกัน ทำให้ระดับหนี้สาธารณะสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยประเทศในกลุ่มเอเชียนั้น ระดับหนี้สาธารณะเฉลี่ยก็อยู่ในระดับสูงเกินกว่า 60% หรือ ปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 67% ขณะที่ ประเทศไทยยังอยู่ในกรอบที่ไม่เกิน 60% ต่อจีดีพี
“อยากสร้างความเข้าใจว่า หนี้สาธารณะของไทยนั้น ยังอยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลัง ซึ่งเราบริหารอย่างรอบคอบ โดยถือว่า มีวินัยคลังสูงมาก ซึ่งสบน.เองต้องมั่นใจที่จะหาเงินให้รัฐบาลจนครบ ในต้นทุนที่เหมาะสม กระจายความเสี่ยงไปยังเครื่องมือมือต่างๆในช่วงเวลาเหมาะสม และ ไม่แย่งเงินเอกชน”
ทั้งนี้ มาตรการทางการคลังยังถือเป็นพระเอกในการดูแลเศรษฐกิจในขณะนี้ เมือเราเติมเงินไปในระบบ เศรษฐกิจเริ่มขยายตัว หนี้สาธารณะจะทยอยลดลง ขณะที่ ความสามารถในการชำระหนี้เรายังเดินต่อไปได้ เพราะเราไม่ได้เป็นประเทศที่ปั๊มเงินออกมาเอง
ผอ.สบน.กล่าวด้วยว่า ในภาวะปกติระดับหนี้สาธารณะที่อยู่ในระดับใกล้ 60% ต่อจีดีพี อาจจะถือเป็นความเสี่ยง และเป็นระดับที่เป็นการเตือนภัย แต่ในภาวะที่ประเทศเกิดวิกฤตนี้ ถือเป็นความจำเป็นที่รัฐบาลต้องกู้เพื่อนำเงินมาดูแลเศรษฐกิจ ซึ่งแต่ละโครงการที่มีการใช้จ่ายเงินนั้น จะมีคณะกรรมการกลั่นกรองดูแลอย่างรอบคอบ ชณะที่ ไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่ยังมีเครดิตที่ดี
“ปัจจุบัน ทุกคนยังให้เรากู้ เครดิตเรายังดี เป็นหนึ่งในประเทศที่เครดิตไม่ลดลงเลย อาจจะมีการปรับมุมมองเป็นคงที่ แต่ยังมองเราบริหารจัดการได้ดี ด้านการคลังเราแข็งแกร่งมาก”
ปัจจุบัน ระดับหนี้สาธารณะของไทยอยู่ที่ประมาณ 8.1 ล้านล้านบาท หรือ 51.9% ต่อจีดีพี ในจำนวนหนี้เป็นหนี้ภาครัฐโดยตรงประมาณ 6 ล้านล้านบาท และเป็นการก่อหนี้ที่ใช้เพื่อการลงทุนของประเทศประมาณ 73%