“อาคม”มั่นใจเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวไตรมาสสี่

“อาคม”มั่นใจเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวไตรมาสสี่

“อาคม” มั่นใจเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวไตรมาสสี่ปีนี้ ระบุ วัคซีนโควิดและการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึง การส่งออกที่ดีขึ้นจะเป็นปัจจัยสำคัญกระตุ้นเศรษฐกิจไทย

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังระบุ หลังจากไทยเริ่มมีการฉีดวัคซีนในประเทศ ส่งผลให้ ประชาชนมีความมั่นใจมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดการเดินทางในประเทศเพิ่มขึ้นด้วย โดยขณะนี้ ได้รับรายงานว่า ในช่วงเทศสงกรานต์ในเดือนเม.ย.นี้ ทางสายการบินต่างๆ ถูกจับจองเที่ยวบินเต็มทุกเที่ยวบินแล้ว และปริมาณการเดินทางไปต่างจังหวัดในช่วงนี้ก็เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลดีเพราะทำให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ สถาบันจัดอันดับเครดิตรวมทั้งศูนย์วิจัยหลายแห่งประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะเริ่มกลับมาดีขึ้นเรื่อยๆ ประชาชนเริ่มมีความเชื่อมั่น รวมทั้งประชาชนกลุ่มฐานรากจะมีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ส่วนที่จะออกมาตรการฟื้นฟู หรือเดินหน้ามาตรการคนละครึ่ง เฟส 3 ต่อเนื่องหรือไม่นั้น จะต้องรอติดตามสถานการณ์ก่อน และยังต้องติดตามดัชนีตัวเลขเศรษฐกิจอีกครั้ง

“ช่วงนี้จะยังไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา ขอรอติดตามตัวเลขดัชนีเศรษฐกิจก่อน ซึ่งคาดการณ์ว่า ดีขึ้นแน่นอน ซึ่งเมื่อเศรษฐกิจดีขึ้นภาคการส่งออกก็ต้องฉวยโอกาสไว้ เพราะรายได้จากภาคการท่องเที่ยวยังไม่กลับมา โดยการส่งออกไม่ได้มีข้อจำกัดเรื่องไวรัส แต่การท่องเที่ยวมีข้อจำกัดอยู่ ถ้า ศบค. ผ่อนปรนมาตรการจำกัดการเดินทางได้ คาดว่า เศรษฐกิจไตรมาส 4 ดีขึ้นแน่นอน”

เขากล่าวด้วยว่า เหตุที่เชื่อว่าเศรษฐกิจไตรมาส 4 จะดีขึ้นแน่นอน เนื่องจากประเทศไทยจะสามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวได้ ซึ่งเป็นผลมาจากมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 และนักท่องเที่ยวมีใบรับรองการฉีดวัคโควิด ขณะเดียวกัน ประเทศไทยจะต้องไปเจรจากับประเทศต้นทางที่คนไทยอยากจะเดินทางท่องเที่ยวเพื่อส่งคนททยออกไป เพื่อแลกกับต่างชาติให้เข้ามาเที่ยวในประเทศ เพื่อช่วยธุรกิจสายการบินระหว่างประเทศด้วย

ส่วนกรณีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ตลาดบางแคนั้น ตนมองว่า รัฐบาลจะใช้มาตรการควบคุมเฉพาะพื้นที่เหมือนกรณีการระบาดรอบที่แล้วที่จังหวัดสมุทรสาคร และเชื่อว่า กระทรวงสาธารณสุขจะสามารถควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดได้ ขณะที่ รูปแบบการจัดงานเทศกาลสงกรานต์นั้น ยังต้องรอศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. ชี้แจงรายละเอียดอีกครั้ง ซึ่งจะมีการประชุมวันที่ 19 มี.ค.นี้

สำหรับกรณีที่ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่า จะส่งผลดีต่อการส่งออกของประเทศไทย ซึ่งขณะนี้ เป็นทางเดียวที่สร้างรายได้ เนื่องจากการท่องเที่ยวยังไม่กลับมา

“วันนี้ที่ผมไปฉีดวัคซีนโควิด-19 ผมสบายดี และไม่มีผลข้างเคียงอะไรเลย ไม่รู้สึกปวดแขน ก็ฉีดวัคซีนอย่างอื่นอยู่บ่อยๆ เมื่อมีวัคซีนแล้วส่งผลดีต่อเศรษฐกิจแน่นอน และจะได้รับความคุ้มกันด้วยวัคซีนซึ่งทำให้คนมั่นใจมากขึ้น”