หุ้น ‘เช่าซื้อ-ลิสซิ่ง’ พุ่ง ผลตอบแทนหรู 30.04%
หุ้นกลุ่มเช่าซื้อ-ลิสซิ่ง” ราคาพุ่ง นำทีม “ศรีสวัสดิ์ฯ” บวกแรง 30.04% “เอเซีย พลัส” ชี้ปัจจัยบวกไตรมาส 2/64 เศรษฐกิจฟื้น-ฤดูจับจ่ายใช้สอย หนุนสินเชื่อโต 3-4% “กสิกรไทย” มอง “เงินติดล้อ” น้องใหม่ระดมทุนมิ.ย.นี้
ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นกลุ่มเช่าซื้อ-ลิสซิ่ง ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (ณ วันที่ 2 เม.ย.64) พบว่า บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) ปรับขึ้น 30.04% มาอยู่ที่ 85.50 บาท บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) ปรับขึ้น 16.10% มาอยู่ที่ 68.50 บาท บมจ.ราชธานีลิสซิ่ง (THANI) ปรับขึ้น 8.17% มาอยู่ที่ 4.50 บาท และ บมจ.เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง (ASK) ปรับลง 3.15% มาอยู่ที่ 21,50 บาท
นายเอนกพงศ์ พุทธาภิบาล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2 ปี 64 กลุ่มเช่าซื้อ-ลิสซิ่งมีโอกาสโตมากกว่า 20% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากสินเชื่อแนวโน้มโตราว 3-4% จากภาระตั้งสำรองลดลง รวมถึงกิจกรรมเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวหลังโควิด-19 คลี่คลาย ได้แก่ หยุดเทศกาลสงกรานต์ การเดินทางท่องเที่ยว และเปิดภาคเรียน คาดประชาชนมีความต้องการใช้เงินมากกว่าไตรมาสแรก และหนึ่งในทางเลือกการนำรถจักรยานยนต์มาจำนำทะเบียน
อย่างไรก็ดี การแข่งขันอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยลบกดดันธุรกิจไตรมาส 2 ล่าสุด SAWAD จับมือกับธนาคารออมสินปรับลดดอกเบี้ยรถยนต์และจักรยานยนต์ไม่เกิน 18% ตั้งแต่ 1 เม.ย.เป็นต้นมา รวมถึงออกโปรโมชั่นช่วง 3 เดือนแรกดอกเบี้ยเหลือ 15% ต่อปี ส่งผลให้ MTC ประกาศปรับลดดอกเบี้ยลงเช่นกัน
ขณะที่ผู้เล่นรายใหม่อย่าง SAK คาดนำเงินขายหุ้น IPO เร่งปล่อยสินเชื่อและขยายสาขา โดยเฉพาะภาคกลาง เดิมกระจุกตัวภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งแข่งขันด้านดอกเบี้ยเพื่อสู้รายใหญ่
ทั้งนี้ คาดกำไรสุทธิปี64 SAWAD โต 23% อยู่ที่ 5,545 ล้านบาท MTC โต 15.2% อยู่ที่ 6,007 ล้านบาท ,THANI โต 10.8% อยู่ที่ 2,061 ล้านบาท แ
นายกรกช เสวตร์ครุตมัต ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า คาดแนวโน้มกำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 64 โตทั้งเทียบปีก่อนและไตรมาสก่อน จากตั้งสำรองลดลง และสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย แต่มองไตรมาส 2 ปี 64 คาดผลงานทรงตัวถึงอ่อนตัวลงเล็กน้อย เพราะการแข่งขันด้านดอกเบี้ยในอุตสาฯ ที่สูงขึ้น หลังธนาคารออมสินเข้ามาในตลาด
นอกจากนี้ ผู้เล่นรายใหม่ บมจ.เงินติดล้อ (TIDLOR) คาดจะเข้าระดมทุนไตรมาส 2 เป็นปัจจัยกดดันต่อกลุ่มทั้งในแง่ตัวเลือกลงทุนเพิ่มขึ้นในหุ้นกลุ่มเช่าซื้อ-ลิสซิ่ง รวมถึงในแง่ปัจจัยพื้นฐานคาดการแข่งขันในอุตสาหกรรมยิ่งดุเดือด เพราะฐานทุนที่ดีขึ้นของเงินติดล้อจากการขาย IPO ส่งผลให้บริษัทมีเงินนำไปขยายธุรกิจได้มากขึ้น