กูรูเตือน'โควิดอินเดีย'คุกคามเศรษฐกิจโลก
กูรูเตือนโควิดอินเดียคุกคามเศรษฐกิจโลก ด้านสภาหอการค้าอเมริกันเตือนวิกฤตสาธารณสุขในอินเดียอาจฉุดเศรษฐกิจสหรัฐให้ตกต่ำตามเนื่องจากบริษัทอเมริกันจำนวนมากจ้างแรงงานอินเดียหลายล้านคน
ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ายอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ ต้นตอโรคโควิด-19ในอินเดียที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอาจจะลุกลามกลายเป็นปัญหาของโลกเพราะอาจจะบั่นทอนความพยายามที่จะยุติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ของทุกประเทศทั่วโลก ในฐานะที่อินเดียมีประชากรประมาณ 1,400 ล้านคนหรือ 18% ของประชากรทั่วโลก ทั้งยังอาจนำไปสู่การกลายพันธุ์ไปสู่สายพันธุ์ใหม่ๆของเชื้อไวรัส เป็นอุปสรรคต่อความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนและคุกคามเศรษฐกิจโลก
องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ)ระบุว่า อินเดียมีผู้ติดเชื้อรายใหม่คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมดทั่วโลก และมีตัวเลขผู้เสียชีวิตประมาณ 1 ใน 3 ของจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลก
ยอดติดเชื้อรายใหม่เพิ่มกว่า400,000ราย
ด้านกระทรวงสาธารณสุขอินเดีย เปิดเผยวานนี้(6พ.ค.)ว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่เพิ่มอีก 412,262 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อทั่วประเทศขณะนี้ทะยานทะลุ 21 ล้านราย โดยนับเป็นครั้งที่ 2 ในเดือนนี้ที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่า 400,000 ราย ขณะเดียวกัน อินเดียพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 3,980 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นแตะ 230,168 ราย
สำหรับผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลหลังได้รับการรักษาจนหายดีแล้วอยู่ที่ 17,280,844 ราย ส่วนผู้ที่ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลมีจำนวน 3,566,398 ราย เพิ่มขึ้น 79,169 รายในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันในอินเดียยังคงเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรง ส่งผลให้รัฐบาลกลางอินเดียดำเนินมาตรการล็อกดาวน์เต็มรูปแบบเพื่อควบคุมสถานการณ์ แม้ว่าบางรัฐบังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิวและมาตรการล็อกดาวน์บางส่วนก็ตาม โดยในกรุงนิวเดลี ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์รอบที่ 3 ไปจนถึงวันที่ 10 พ.ค. การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ย่ำแย่ในปัจจุบัน ส่งผลให้โรงเรียนต่างๆ ยกเลิกการจัดสอบ ส่วนการจัดกิจกรรมอื่นๆก็ถูกเลื่อนออกไปเช่นกัน
ในส่วนของความคืบหน้าด้านการฉีดวัคซีนให้ประชาชนในประเทศ อินเดียเริ่มโครงการฉีดวัคซีนทั่วประเทศเมื่อวันจันทร์ที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยฉีดวัคซีนให้ประชาชนทั่วประเทศไปแล้วจำนวน 162 ล้านรายด้วยกัน
นักวิทย์เตือนรับมือระบาดระลอกที่3
อย่างไรก็ตาม “เค.วีเจย์ รักฆาวาน” นักวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลอินเดีย เตือนว่าจะเกิดการระบาดระลอกที่ 3 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อพิจารณาจากการแพร่ระบาดในขณะนี้
นอกจากนี้ เมื่อวันอังคาร(4 พ.ค.) “อรุณทาตี รอย” นักเขียนชื่อดังของอินเดีย แสดงความคิดเห็นในเว็บไซต์ข่าวอิสระ Scroll.in เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อวิกฤติสาธารณสุขครั้งรุนแรงที่สุดนี้ โดยบอกว่านายกฯ อินเดียไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา แต่ยิ่งทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลง
นายกรัฐมนตรีโมดี และพรรคภารติยะชนตา ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล ถูกวิจารณ์อย่างหนักในการรับมือการระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผิดพลาดจนนำไปสู่การระบาดครั้งใหม่ รวมทั้งการปล่อยให้นักการเมืองรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งในรัฐเบงกอลตะวันตกในช่วงที่ผ่านมา ที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข มองว่า เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อในรัฐดังกล่าวเพิ่มขึ้นมาก
วิกฤตอินเดียบั่นทอนศก.โลก
คำเตือนและการคาดการณ์ต่างๆในแง่ลบเกี่ยวกับสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19ในอินเดีย เป็นเรื่องที่มีโอกาสเป็นไปได้และน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ในฐานะที่อินเดียมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่สุดอันดับ6ของโลกทั้งยังเป็นฟันเฟืองสำคัญขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจโลกด้วย
นักเศรษฐศาสตร์บางคนหั่นตัวเลขคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของอินเดียลง แต่ยังคงมองแง่ดีเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจตลอดทั้งปีนี้ ที่ทางการอินเดียออกมาตรการคุมเข้มมากมายเพื่อสกัดการระบาดของโรคโควิด-19 อย่างมีเป้าหมายมากขึ้นเมื่อเทียบกับการออกมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศเมื่อปีที่แล้ว