รถบรรทุกเซลล์เชื้อเพลิงแต้มต่อ'ฮุนได'ในตลาดยุโรป

รถบรรทุกเซลล์เชื้อเพลิงแต้มต่อ'ฮุนได'ในตลาดยุโรป

รถบรรทุกเซลล์เชื้อเพลิงแต้มต่อ'ฮุนได'ในตลาดยุโรป โดยค่ายรถยนต์เกาหลีใต้ต้องการเพื่อพิสูจน์ว่ารถบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ใช้พลังงานไฮโดรเจน จะสามารถแข่งขันกับบรรดารถประเภทเดียวกันจากค่ายรถยนต์คู่แข่งได้หรือไม่

"มาร์ค เฟรย์มุลเลอร์" ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร(ซีอีโอ) ฮุนได ไฮโดรเจน โมบิลิตี (เอชเอชเอ็ม)บริษัทในเครือฮุนได มอเตอร์ ค่ายรถยนต์ชั้นนำสัญชาติเกาหลีใต้ เตรียมส่งรถบรรทุกขับเคลื่อนด้วยเซลล์เชื้อเพลิงซีรีส์ใหม่ "Xcient"ไปยุโรปช่วงไตรมาส4ของปีนี้ หวังชิงส่วนแบ่งในตลาดและเพื่อพิสูจน์ว่ารถบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ใช้พลังงานไฮโดรเจนจะสามารถแข่งขันกับบรรดารถประเภทเดียวกันจากค่ายรถยนต์คู่แข่งได้หรือไม่

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้ รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฮโดรเจนยังคงตามหลังรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานรูปแบบต่างๆที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเนื่องจากมีราคาแพงมาก แต่กลุ่มสนับสนุนรถยนต์ที่ใช้พลังงานประเภทนี้มองว่าหากใช้รถบรรทุกสิ่งของจะได้ประโยชน์มากกว่าเนื่องจากมีสมรรถนะในการวิ่งที่ดีกว่ารถบรรทุกสิ่งของที่ใช้น้ำมันทั่วไป

เอชเอชเอ็ม เป็นหน่วยงานร่วมทุนระหว่างฮุนไก และเอช2 อีเนอร์ยี บริษัทไฮโดรเจนสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ที่พัฒนาและผลิตรถบรรทุกไฮโดรเจนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้แก่บรรดาลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมต่างๆในสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้วในโครงการนำร่องรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานชนิดนี้ที่มีความก้าวหน้ามากที่สุดของโลก

เฟรย์มุลเลอร์ เปิดเผยว่า เอชเอชเอ็มมีแผนที่จะเปิดตัวรถบรรทุกสินค้าใช้พลังงานไฮโดรเจนในประเทศอื่นๆของยุโรปในปีหน้า โดยเฉพาะในเยอรมนี และเนเธอร์แลนด์ ทั้งยังสนใจที่จะทำโครงการนำร่องรถนี้ในออสเตรีย นอร์เวย์ ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน และเดนมาร์กด้วย

การเคลื่อนไหวของฮุนไดล่าสุดจะเพิ่มแรงกดดันมากขึ้นแก่บรรดาค่ายรถในท้องถิ่นที่ขณะนี้กำลังเร่งพัฒนาและผลิตรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฮโดรเจน รวมถึง เดมเลอร์ของเยอรมนี วอลโว่ของสวีเดนและอิเวโคของอิตาลีที่จับมือกับนิโคลา บริษัทผลิตรถบรรทุกปล่อยไอเสียต่ำ

ด้านเดมเลอร์ ทรัค เอจี(Daimler Truck AG) และวอลโว่ กรุ๊ป( Volvo Group)ประกาศร่วมมือกันพัฒนาเซลล์เชื้อเพลิงสำหรับรถบรรทุกวิ่งระยะไกล ด้วยความหวังว่าจะเป็นผู้นำในการผลิตระบบเซลล์เชื้อเพลิง โดยวางแผนเริ่มต้นทำการผลิตเป็นอุตสาหกรรม ในปี 2568 รวมทั้งเร่งพัฒนาเซลล์เชื้อเพลิงชนิดใหม่ และกลุ่มผู้ถือหุ้นของทั้ง 2 บริษัทเรียกร้องให้สหภาพยุโรป(อียู) กำหนดแผนงานที่จะให้การสนับสนุนเทคโนโลยีนี้ ให้ดำเนินการอย่างเป็นจริงในเชิงพาณิชย์ได้

การร่วมมือกันผลิตและทำตลาดระบบเซลล์เชื้อเพลิงสำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่เดินทางระยะไกล และอุปกรณ์อื่นๆนั้น หุ้นส่วนทั้ง 2 ฝ่ายจะใช้ความรู้ความชำนาญที่ต่างก็ได้พัฒนามาเป็นระยะเวลานาน ร่วมกันพัฒนารถใช้พลังงานประเภทนี้ให้ประสบความสำเร็จ

การใช้พลังงานไฟฟ้าจากชุดแบตเตอรี และการใช้ไฮโดรเจนเป็นพลังงานเชื้อเพลิง จะให้ประโยชน์กับผู้ผลิตทั้ง 2 ฝ่าย ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้บริโภค โดยพลังงานจากชุดแบตเตอรี ส่วนใหญ่จะใช้กับรถบรรทุกที่มีน้ำหนักบรรทุกไม่มากนัก และเดินทางระยะทางสั้นๆ ขณะที่การใช้เซลล์เชื้อเพลิงจะช่วยให้สามารถบรรทุกน้ำหนักได้มากขึ้น รวมทั้งวิ่งระยะทางไกลขึ้น

บรรดาผู้ผลิตรถบรรทุกในยุโรป ต่างให้การสนับสนุนทั้งเดมเลอร์ ทรัค เอจีและวอลโว่ กรุ๊ป พร้อมทั้งเรียกร้องให้จัดตั้งสถานีเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจนประมาณ 300 แห่งภายในอียูภายในปี 2568 ก่อนจะเพิ่มเป็น 1,000 แห่งภายในเวลาไม่เกินปี 2573