การเมือง
'เจษฎ์' ชี้ เลือกตั้งแบบ 'รัฐธรรมนูญ 40' ส่อทำการเมืองไทย เป็นเหมือนสมัย 'ทักษิณ'
อดีตที่ปรึกษา กรธ. ประเมินการแก้รัฐธรรมนูญ วาระแรกอาจไปได้ แม้ฝ่ายค้าน-ฝ่ายรัฐบาล ไม่มีเอกภาพ แต่วาระเห็นชอบ ใช้ 20%ของฝ่ายค้าน ไม่ใช่ของง่าย พร้อมมองสถานการณ์ไทย หากแก้ระบบเลือกตั้ง ส่อทำ สภาผัว-เมีย-เผด็จการรัฐสภา
นายเจษฎ์ โทณะวณิก นักวิชาการด้านนิติศาสตร์ ฐานะ อดีตที่ปรึกษาคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีการยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล และ พรรคร่วมฝ่ายค้านที่ไม่มีเอกภาพ โดยเฉพาะประเด็นการแก้ไขระบบเลือกตั้ง ว่า การพิจารณาเนื้อหาอาจจะมีปัญหาพอสมควร แต่ในชั้นรับหลักการที่ใช้เสียงเห็นชอบไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภา เชื่อว่าจะผ่านไปได้ แม้ต้องมีเสียงส.ว.ร่วมเห็นชอบไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ก็ตาม แต่ในประเด็นความเห็นไม่ตรงกันต่อการปรับระบบเลือกตั้ง หากทำเนื้อหาไม่ดี ในชั้นเห็นชอบวาระสาม ที่ต้องใช้เสียง ส.ส. พรรคฝ่ายค้านร่วมด้วย ไม่น้อยกว่า 20% อาจมีปัญหา เพราะขณะนี้มีเพียงพรรคเพื่อไทยที่ต้องการ ส่วนฝ่ายค้านพรรคอื่น เช่น พรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย แสดงท่าทีชัดเจนว่าคัดค้าน อย่างไรก็ดีแม้พรรคเพื่อไทยระบุว่าจะลงมติเห็นชอบ ต้องพิจารณาด้วยว่า จำนวน ส.ส.ของพรรรคจะเห็นชอบทั้งหมดหรือไม่ เพราะอาจมีบางส่วนที่จะย้ายพรรค ไปร่วมงานกับพรรคของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคไทยสร้างไทย หรือ พรรคพลังประชารัฐที่มีกระแสข่าวว่า ถูกดึงตัวไปบางส่วน
นายเจษฎ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับการแก้ไขระบบเลือกตั้งให้กลับไปใช้แบบรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 หากทำได้จริงปรากฎการณ์ของการเมืองไทยหลังจากนั้นจะมีสภาพไม่ต่างจากยุคของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หลายคนมองว่าเป็นยุคเผด็จการรัฐสภา, สภาผัวสภาเมีย และองค์กรอิสระไม่มีอิสระ ไม่สามารถตรวจสอบใครได้.