หนังเล่าโลก:Falling Inn Love 'ชีวิตดีที่นิวซีแลนด์'
ประเทศหนึ่งๆ จะน่าอยู่ได้ปัจจัยเบื้องต้นคือสภาพแวดล้อมและสภาพธรรมชาติงดงาม ซึ่งนิวซีแลนด์ขึ้นชื่อในเรื่องนี้ ดูได้จากภาพยนตร์เรื่อง Falling Inn Love ที่กล่าวถึงการย้ายประเทศไปอยู่นิวซีแลนด์
Falling Inn Love เป็นภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดีปี 2562 ผลงานการกำกับของ Roger Kumble บอกเล่าเรื่องราวของกาเบรียลลา สถาปนิกสาวจากซานฟรานซิสโกผู้ดวงตก งานแป็ก บริษัทปิดกิจการ แถมคนรักที่คบหากันมานานก็อยากคบกันไปเรื่อยๆ แบบนี้ไม่อยากผูกมัด แต่คนเราเมื่อโชคร้ายประเดประดังกันเข้ามาก็ต้องมีโชคดีอยู่บ้าง กาเบรียลลาร่วมสนุกชิงรางวัลบ้านพักตากอากาศในชนบทอันห่างไกลของนิวซีแลนด์ซึ่งโชคหล่นทับเธอเข้าอย่างจัง เธอได้เป็นเจ้าของบ้านหลังนั้นแบบไม่ทันตั้งตัว จึงต้องบินไปรับรางวัลที่นิวซีแลนด์ ที่นี่เธอได้พบกับชุมชนชนบทที่น่ารักพร้อมเจ็ค ชายหนุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่กลายมาเป็นหุ้นส่วนปรับปรุงบ้านร้างให้กลายเป็นอสังหาริมทรัพย์สวยงามพร้อมขาย เจ็คทำให้กาเบรียลลาต้องคิดหนักว่าจะกลับไปซานฟรานซิสโกหรืออยู่นิวซีแลนด์ ซึ่งหนุ่มหล่อมั่นใจอย่างมากว่าเสน่ห์ของนิวซีแลนด์ต้องมัดใจสาวเจ้าไว้ได้
ก็จะไม่ให้สาวมั่นจากเมืองใหญ่หลงรักชุมชนนี้ได้อย่างไร ที่นี่มีแต่ความอบอุ่นทุกคนรู้จักกันหมด แน่นอนว่าเมื่อเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ต้องเมาธ์กันหมดทั้งหมู่บ้าน แต่เมื่อเกิดฉุกเฉินขึ้นมาอย่างเหตุไฟไหม้ ชาวบ้านขาเมาธ์นั่นล่ะที่แปลงร่างเป็นจิตอาสามาช่วยกันดับไฟ นี่แค่ส่วนหนึ่งของเสน่ห์นิวซีแลนด์ในหนัง ซึ่งในโลกจริงนิวซีแลนด์ได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองน่าอยู่อยู่บ่อยๆ อย่างเมื่อกลางเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา อีไอยู (Economist Intelligence Unit) จัดทำดัชนีเมืองน่าอยู่ของโลกประจำปี 2564 เมืองโอคแลนด์ของนิวซีแลนด์ครองอันดับ 1 ส่วนกรุงเวลลิงตันอยู่ในอันดับ 4 ส่วนใหญ่เป็นเพราะนิวซีแลนด์สกัดโควิด-19ได้ประสบผลสำเร็จ
เมื่อต้นเดือน ก.ค.ดิอีโคโนมิสต์ จัดอันดับประเทศที่กลับคืนสู่ภาวะปกติหลังจากโควิดได้ดีที่สุด พิจารณาจาก 8 เกณฑ์ได้แก่ การร่วมงานกีฬา เวลาที่อยู่บ้าน รถติด การค้าปลีก การใช้สำนักงาน เที่ยวบิน รายได้จากการฉายภาพยนตร์ และการขนส่งสาธารณะ พิจารณาจาก 50 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจ คิดเป็น 75% ของประชากรโลก และ 90% ของจีดีพีโลก ปรากฏว่านิวซีแลนด์ครองอันดับ 2 ขณะที่ดัชนีหนังสือเดินทางของเฮนลีย์ นิวซีแลนด์อยู่ในอันดับ 7 ร่วมกับเบลเยียม สวิตเซอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐ ไปได้ 187 ประเทศโดยไม่ต้องใช้วีซ่า
จะว่าไปแล้วนิวซีแลนด์ในยุคของนายกรัฐมนตรีหญิงจาซินดา อาร์เดิร์น โดดเด่นมาก เธอเป็นนายกฯคนที่ 40 ของนิวซีแลนด์ ด้วยวัย 37 ปี เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2560 เป็นนายกฯ หญิงคนที่ 3 และอายุน้อยที่สุดในประศาสตร์นิวซีแลนด์ ตั้งแต่เป็นนายกฯ นิวซีแลนด์ผ่านเรื่องร้ายๆ มามากแต่อาร์เดิร์นก็จัดการด้วยดี ไม่ว่าจะเป็นเหตุกราดยิงในมัสยิดเมืองไครส์ตเชิร์ช มีผู้เสียชีวิต 51 คน วิกฤติภูเขาไฟระเบิดบนเกาะไวต์ และล่าสุดคือการระบาดของโควิด-19 นิวซีแลนด์เป็นประเทศแรกๆ ที่ประกาศล็อกดาวน์และคุมการระบาดได้ เมื่อเดือน พ.ค.นิตยสารฟอร์จูนยกให้เธอเป็นนายกรัฐมนตรีผู้บริหารงานดีที่สุดในโลก
ล่าสุดในฐานะที่ปีนี้นิวซีแลนด์เป็นเจ้าภาพกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิก (เอเปค) ซึ่งต้องจัดการประชุมผู้นำแบบออนไลน์ในเดือน พ.ย. แต่เนื่องจากหลายประเทศในเอเชียแปซิฟิกเจอโควิดสายพันธุ์เดลตาระบาดหนัก เธอในฐานะเจ้าภาพจึงเรียกประชุมด่วนทางออนไลน์ในวันศุกร์ (16 ก.ค.)นี้ เพื่อหารือกันเรื่องแก้วิกฤติโควิดและเศรษฐกิจ ได้ข่าวว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย และนายกรัฐมนตรีลี เซียนหลุงของสิงคโปร์ตอบรับแล้ว
เห็นอย่างนี้ก็ต้องขอชมเชยกับการทำงานอย่างฉับไวของผู้นำนิวซีแลนด์ ประชาชนของเธอน่าจะพากันติดแฮชแท็ก #ผนฉรจรกม (ผู้นำฉลาดเราจะรอดกันหมด) จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนิวซีแลนด์ถึงได้ครองอันดับต้นๆ ในแทบทุกดัชนี สมกับที่เป็นเมืองน่าอยู่