สรุปไทม์ไลน์วิสามัญ 'รอซาลี หลำโสะ' แกนนำป่วนใต้ 9 หมายจับ
เหตุสถานการณ์ร้อน สรุปไทม์ไลน์วิสามัญ "รอซาลี หลำโสะ" แกนนำป่วนใต้ 9 หมายจับ
สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดปัตตานี กรณีก่อเหตุ 2 เหตุการณ์ โดยเหตุการณ์แรกเกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 2 ส.ค. 64 คนร้ายไม่ต่ำกว่า 4 ราย พร้อมอาวุธสงครามครบมือ เดินลัดจากป่าสวนยางข้างทาง ซึ่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับหน่วยบริการประชาชน ตำรวจทางหลวงบ่อทอง ที่ตั้งบ้านควนคูหา ม.1 ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี
คนร้ายจะใช้อาวุธทั้ง เอ็ม 16 และอาวุธปืนอาก้า ยิงใส่อาคารของตำรวจทางหลวง ซึ่งขณะนั้นมีเจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายใน จำนวน 10 นาย เสียงปืนทำให้เจ้าหน้าที่ต้องหลบหาที่กำบัง ก่อนที่จะเตรียมตัวเพื่อต่อสู้ป้องกันตัว หลังจากสิ้นเสียงปืน คนร้ายได้หลบหนีไป
หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบความเสียหาย พบว่า รถของทางราชการได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน และ รถยนต์ส่วนตัว จำนวน 1 คัน และพบว่าอาคารของหน่วยบริการประชาชน ตำรวจทางหลวง มีรูกระสุนจำนวนหลายแห่ง แต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ส่วนในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด เอ็ม 16 และอาก้า กว่า 70 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ไทม์ไลน์วิสามัญ รอซาลี หลำโสะ แกนนำป่วนใต้
เหตุการณ์ที่สอง เกิดขึ้นเมื่อเวลา 03.00 น. การปฏิบัติดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องมาจากแหล่งข่าวหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี รวมทั้งแหล่งข่าวภาคประชาชน แจ้งว่าในห้วงที่ผ่านมาได้ปรากฏความเคลื่อนไหวผู้ก่อเหตุรุนแรงเข้ามาหลบซ่อนในพื้นที่
จึงได้สนธิกำลัง 3 ฝ่าย เข้าพิสูจน์ทราบภายในบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านของภรรยา นายรอซาลี หลำโซะ และ นายรอซาลี ได้หลบซ่อนอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการตามกรรมวิธีขั้นตอนด้วยการ กันตัวบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากบ้านและบริเวณใกล้เคียง ใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก ด้วยการเจรจาเกลี้ยกล่อมให้นายรอซารี ออกมามอบตัว
โดยเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่ง ได้ไปหาบิดามารดาของนายรอซารี ที่ต.ลำไพล อ.เทพา จ.สงขลา เพื่อให้มาช่วยเจรจาเกลี้ยกล่อมอีกทางหนึ่ง แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ จึงได้ประสานให้ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา ซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงเข้าช่วยเจรจาเกลี้ยกล่อม โดยนายอุเซ็ง มะลี โต๊ะอิหม่าม พ่อตาเป็นเจ้าของบ้าน
เมื่อเวลา 04.00 น. เจ้าหน้าที่ เข้าปิดล้อมบ้านเป้าหมาย และเรียกคนในบ้าน
เวลา 05.50 น. บุคคลภายในบ้าน ออกมาจากบ้าน มี 6 คน คือ อิหม่าม , ภรรยา , น.ส.อามีเนาะ ลูกสาวอีหม่ามและเป็นภรรยาผู้ตาย , ลูกสาวอามีเนาะ 4 เดือน และ หลาน อายุ 16 ปี 2 คน
เวลา 06. 49 น. นายมูฮัมหมัด ไซฟูดิน อายุ 16 ปี หลาน 1 ใน 2 ให้ข้อมูลพร้อมชี้ภาพยืนยันว่า สามีของ น.ส.อามีเนาะ คือ นายรอซารี หลำโสะ และยังคงอยู่ภายในบ้านเพียงคนเดียว
เวลา 07. 00 น. น.ส.อามีเนาะ ยอมรับว่า สามีตนเองคือ นายรอซาลี หลำโสะ และ พร้อมจะสู้ตาย ไม่ยอมออกมา
ทางด้าน ชาย อายุ 43 ปี หนึ่งในญาติ ผู้เสียชีวิตกล่าวว่า เขาไปดีแล้ว เหลือแต่เราที่ต้องสู้กันต่อไป เรารักเขาอัลลอฮ์รักเรามากกว่า สักวันเราจะเจอกัน ไม่ต้องห่วงทางนี้ พวกเราอีกมากที่จะต่อสู้แทน
นายรอซารี หลำโซะ ผู้ก่อเหตุรุนแรง ระดับแกนนำสั่งการและปฏิบัติการ มีหมายจับ ป.วิอาญา 9 หมาย ที่สำคัญ ประกอบด้วย
- เหตุขว้างระเบิดเพลิง และใช้อาวุธปืนสงคราม ยิงใส่สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี
เมื่อ 30 ส.ค. 61
- คดีฆ่าชิงทรัพย์เอาศพไปทิ้งคลอง เสียชีวิต 2 ศพ และนำรถยนต์ประกอบระเบิด พื้นที่ ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อ 1 มี.ค. 60
- เหตุปล้นรถจากเต็นท์รถวังโต้ คาร์เซ็นเตอร์ พื้นที่ ต.นาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา เมื่อ 16 ส.ค. 60
- สภ.ควนโดน จับกุม ผกร.และยึด M-16 พื้นที่ ม.1 ต.วังประจัน อ.ควนโดน จ.สตูล เมื่อ 16 พ.ย. 60
- เหตุปล้นร้านทองสุธาดาพื้นที่ อ.นาทวี จว.สงขลา เมื่อ 24 ส.ค. 62
- เหตุขว้างระเบิดใส่ฐานฯ จนท.ตร.นปพ. พื้นที่ บ.นาจวก ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อ 19 เม.ย. 60
- เหตุตรวจค้นรถยนต์ พบกระสุนปืนขนาด 5.56 มม. จำนวน 90 นัด พื้นที่ ต.ลำไพล อ.เทพา จ.สงขลา
เมื่อ 14 ก.ย. 62
- เหตุยิง ส.ต.อ.เฉลิมพล คมขำ เสียชีวิต และยิงเข้าใส่ สภ.นาประดู่ พื้นที่ ม.1 ต.ทุ่งพลา อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เมื่อ 13 ม.ค. 62
- เหตุยิง ร.ต.ท.วีระศักดิ์ สารพร รองสารวัตร สภ.โคกโพธิ์ เสียชีวิต ถนนสาย 42 หน้า รพ.โคกโพธิ์ บ.มะกรูด ม.6 ต.มะกรูด อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี. เมื่อ 7 ธ.ค. 63
ภายหลังทราบเหตุ พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ มทภ.4 ผอ.รมน.ภาค 4 ได้แสดงความเสียใจมายังญาติและครอบครัวของผู้เสียชีวิต ทั้งยังกำชับหน่วยให้ดำเนินการตามขั้นตอน โดยใช้กำลังเท่าที่จำเป็นใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก ตลอดจนเชิญผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนาพื้นที่ รวมทั้งญาติของผู้ก่อเหตุรุนแรง พูดคุย เจรจาเกลี่ยกล่อม ให้ยอมเข้ามอบตัว และมีการปฏิบัติอย่างรัดกุม แต่คนร้ายได้เปิดฉากยิงใส่ก่อน จึงจำเป็นต้องตอบโต้ จนนำไปสู่ความสูญเสียดังกล่าว