‘ลูกนัท’ประกาศเป็น‘ควายแดง’ไล่‘บิ๊กตู่’สันติวิธี-REDEM ชุมนุมใหม่ 4 ก.ย.

‘ลูกนัท’ประกาศเป็น‘ควายแดง’ไล่‘บิ๊กตู่’สันติวิธี-REDEM ชุมนุมใหม่ 4 ก.ย.

แนวร่วม มธ.-ทะลุฟ้า ยืนยัน 3 ข้อเรียกร้อง “ครูใหญ่ อรรถพล” ปราศรัยปัญหา ม.112 โทษสูง-ตีความกว้าง “ลูกนัท” เผยฟัง “เต้น” ถึงกับหลั่งน้ำตา ประกาศตัวเป็น “ควายแดง” ลั่นไล่ “บิ๊กตู่” อย่างสันติ ด้าน REDEM นัดชุมนุมใหม่ 4 ก.ย. หน้าสถานทูตสวิสฯ

เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม กลุ่มทะลุฟ้า และกลุ่ม Restart Democracy (REDEM) ที่นัดชุมนุมบริเวณแยกราชประสงค์ ในเวลาประมาณ 16.00 น. โดยจัดกิจกรรม ‘ไม่ไว้วางใจมึง’ ในลักษณะตั้งเวทีปราศรัย อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม นอกสภาผู้แทนราษฎร ควบคู่ไปกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาฯ พร้อมกับยืนยันจัดการชุมนุมด้วยแนวทางสันติวิธี ไม่รุนแรง และเน้นการดูแลความปลอดภัยจากผู้ชุมนุม โดยยังคงยืนยันจุดยืน 3 ข้อเรียกร้องคือ ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เปิดสภาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และปฏิรูปสถาบันฯ

สำหรับบรรยากาศการชุมนุมตั้งแต่ช่วง 15.00 น. ที่ผ่านมา เริ่มมีประชาชนทยอยเข้าร่วม เช่นเดียวกับพ่อค้า แม่ค้า มาตั้งของขายบริเวณแยกราชประสงค์ โดยมีทีมการ์ด We-Volunteer (วีโว่) ดูแลความปลอดภัยรอบบริเวณที่ชุมนุม

หลังจากนั้นเวลาประมาณ 15.45 น. บริเวณแยกราชประสงค์ กลุ่มผู้ชุมนุมมีการนำแผงเหล็กปิดกั้นการจราจรเพื่อใช้พื้นที่ตั้งแต่แยกราชประสงค์ไปจนถึงแยกประตูน้ำ ถ.ราชดำริ เพื่อเป็นจุดชุมนุม โดยมีการนำผืนผ้ามากางที่พื้นที่ให้ผู้ชุมนุมเขียนรัฐธรรมนูญตามที่ต้องการ และมีการจัดกิจกรรม ‘ปล่อยเพื่อนเรา’ หลังจากนั้นจึงมีการปราศรัยของแกนนำ เช่น น.ส.วรรณวลี เอมจิตต์ (ตี้ พะเยา), นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (เป๋า ผจก.ไอลอว์) , น.ส.เบนจา อะปัญ,นายอรรถพล บัวพัฒน์ (ครูใหญ่), นางศรีไพร นนทรีย์, นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย (ลูกนัท), นายเกียรติชัย ตั้งภรณ์พรรณ (บิ๊ก), นายชนินทร์ วงษ์ศรี (บอล) และนายทรงพล สนธิรักษ์ เป็นต้น

โดยไฮไลต์ในการชุมนุมวันนี้ เมื่อวันที่ 17.57 น. นายอรรถพล บัวพัฒน์ (ครูใหญ่) ขึ้นปราศรัยและชู 3 นิ้ว พร้อมนำผู้ชุมนุมประกาศว่า “ศักดินาจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ” พร้อมระบุว่า สิ่งที่ประเทศนี้ไม่เปิดโอกาสให้เราพูด คิด และตั้งคำถาม คือการตั้งคำถามกับบุคคลสาธารณะ มีการใช้กฎหมายปิดปากประชาชน หลังจากนั้นนำมวลชนชู 3 นิ้วยืนเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติ

ต่อมานายอรรถพล ปราศรัยระบุถึงปัญหาของการใช้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่อยู่ในหมวดความมั่นคง มีอัตราโทษสูง และถูกนำไปตีความในขอบเขตกว้างมากเกินไป

เมื่อเวลาประมาณ 18.20 น. นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย (ลูกนัท) ขึ้นปราศรัยโดยระบุถึงการชุมนุม ‘คาร์ม็อบ’ เมื่อคืนวันที่ 2 ก.ย. 2564 ว่า หลังจากฟังนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ปราศรัยจบที่แยกอโศก ถึงกับน้ำตาคลอเบ้า กว่าจะรู้สึกก็ลงมาถึงแก้ม จึงเลือกใส่เสื้อแดงวันนี้ ขอเป็นลูกหลานคนเสื้อแดง ขอสมัครเป็นควายแดงอีกคน ที่ผ่านมาไม่มีโอกาสได้พูดว่า ซาบซึ้งถึงความเสียสละของคนเสื้อแดงขนาดไหน การเสียดวงตา เทียบไม่ได้กับการเสียสละของคนเสื้อแดงและครอบครัว เมื่อถนนกลายเป็นทุ่งสังหาร คนสั่งการยังไม่ได้รับโทษ ความผิดของเพื่อนเราอย่างนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ (เพนกวิน) ของนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา (ไผ่ ดาวดิน) และคนอื่น ๆ ในเรือนจำ มาจากสาเหตุเพียงแค่ไม่สยบยอมต่ออำนาจ

นายธนัตถ์ ระบุถึงกรณีการแจ้งข้อกล่าวหาแก่ประชาชน การใช้กระสุนยาง และแก๊สน้ำตาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ล้วนเป็นความรุนแรงที่รับไม่ได้ เป็นการย่ำยีศักดิ์ศรี และเป็นหลักฐานว่ารัฐบาลไม่เห็นประชาชน เป็นคนที่มีประโยชน์แค่เวลาเลือกตั้ง จึงไม่ยอมให้รัฐบาลชุดนี้ย่ำยีศักดิ์ศรีประชาชนอีกต่อไป พร้อมกับยืนยันว่า หากพรุ่งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับความไว้วางใจ ประชาชนจะทนไม่ไหว ขอให้สัญญาได้ไหมว่าจะไม่ใช้ความรุนแรงตอบโต้ต่อรัฐ ต่อให้มีการยิงแก๊สน้ำตา หรือกระสุนจริง ขอยืนยันว่าสันติวิธีเท่านั้นจะนำชัยชนะสู่ประชาชน เพราะสิ่งที่เผด็๗การกลัวคือ ความคิด ที่เปรียบเหมือนเมล็ดพันธุ์แห่งความเปลี่ยนแปลง

“ผมออกมาใส่เสื้อแดง เพราะทนไม่ไหวแล้ว ผมจะแสดงออกทุกวิถีทางสู้เผด็จการ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันพรุ่งนี้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมจะไม่ทรยศคนเสื้อแดงและราษฎรทุกคนต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิต อิสรภาพ เสรีภาพ” นายธนัตถ์ ระบุ

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. กลุ่ม เยาวชนปลดแอก-Free Youth และ REDEM เผยแพร่ข้อมูลผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ ระบุว่า ในวันที่ 4 ก.ย. 2564 เวลา 16.00 น. นัดชุมนุมอีกครั้งบริเวณหน้าสถานทูตสวิตเซอร์แลนด์ (ถ.วิทยุ) และจะเคลื่อนพลไปหน้ารูปปั้นรัชกาลที่ 6 บริเวณสวนลุมพินี โดยยืนยัน 3 ข้อเรียกร้องคือ ปฏิรูปสถาบันฯ สร้างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน และสร้างรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า รัฐต้องจัดหาวัคซีนฟรีและมีคุณภาพให้ทุกคน

พร้อมกับระบุแนวทางการต่อสู้ว่า เป็นการต่อสู้แบบไม่มีเแกนนำ เน้นขับเคลื่อนโดยพลังมวลชนเป็นหลัก และเป็นเจ้าของขบวนการร่วมกัน โดยในหน้างานจะมีทีมคอยจัดการ และประสานการเคลื่อนไหวกับมวลชนผ่าน TELEGRAM หากมีใจสมาทานในแนวทางและข้อเรียกร้องเดียวกัน คุณคือชาว REDEM และจะใช้สันติวิธีแบบสากล หลีกเลี่ยงความรุนแรงต่อชีวิต แต่หากถูกรัฐกระทำอันตราย ก็พร้อมโต้กลับเพื่อปกป้องตัวเองและมวลชนให้ปลอดภัย และเคลื่อนไหวต่อได้