"พายุโนรู" พ่นพิษ "เขื่อนวังยาง" ปักธงแดง เตือนวิกฤตเฝ้าระวังระดับน้ำชี

"พายุโนรู" พ่นพิษ "เขื่อนวังยาง" ปักธงแดง เตือนวิกฤตเฝ้าระวังระดับน้ำชี

กาฬสินธุ์เตรียมพร้อมรับมวลน้ำจากชัยภูมิและขอนแก่น กำชับทุกหน่วยงานเฝ้าระวังระดับน้ำชีตลอด 24 ชั่วโมง ขณะที่เขื่อนวังยางปังธงแดง เตือนเข้าสู่ภาวะวิกฤติ หลังหลายพื้นที่ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลพายุ “โนรู” ส่งผลให้ระดับน้ำชีเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 29 ก.ย. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามสถานการณ์อิทธิพลของพายุ “โนรู” ซึ่งหลายพื้นที่ยังคงได้รับผลกระทบ เนื่องจากยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ และแม่น้ำสายต่างๆเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง

ขณะที่ นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้มอบหมายให้ นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วย นายธนทร ศรีนาค หัวหน้าสำนักงานปภ.กาฬสินธุ์ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำชี บริเวณเขื่อนวังยาง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ เพื่อประเมินสถานการณ์ และเตรียมพร้อมรับมวลน้ำที่คาดว่าจะเริ่มไหลมาจาก จ.ชัยภูมิ และ จ.ขอนแก่น ในอีก 2-3 วันข้างหน้า รวมทั้งเฝ้าระวังระดับน้ำในพื้นที่ หลังจากได้รับอิทธิพลพายุ “โนรู”ซึ่งส่งผลให้ระดับน้ำชีเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยจากการติดตามสถานการณ์น้ำเขื่อนวังยางล่าสุดมีระดับน้ำอยู่ที่ 140.16 ม.รทก. (เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง) จากระดับกักเก็บปกติ 137 ม.รทก. โดยเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งมีสถิติระดับน้ำสูงสุดอยู่ที่ 141.16 ม.รทก.ยังต่ำกว่าปี 2564 อยู่อีกกว่า 1 ม.รทก. และขณะนี้ยังสามารถรับน้ำได้อีกมาก รวมทั้งยังสามารถบริหารจัดการจราจรน้ำได้อย่างเป็นระบบ แต่เจ้าหน้าที่ได้ปักธงสีแดงไว้ เป็นการประกาศเตือนสถานการณ์ระดับน้ำอยู่ในภาวะวิกฤต เพื่อเตือนให้ประชาชนระมัดระวังอย่างสูงสุดต่อไป

นอกจากนี้นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ยังได้กำชับให้ทางอำเภอฆ้องชัย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้นำชุมชนจัดกำลังเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำ โดยเฉพาะพื้นที่ริมแม่น้ำชี และฝายวังยางตลอด 24 ชั่วโมง โดยให้เตรียมพร้อมการจัดตั้งศูนย์พักพิงในพื้นที่เสี่ยงภัย จัดเตรียมอุปกรณ์ช่วยเหลือหากประสบภัย และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิดอีกด้วย
 

ขณะที่สถานการณ์อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ เขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ ล่าสุดมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเพิ่มขึ้นอีก 24.99 ล้าน ลบ.ม. ส่งผลให้ปัจจุบันเขื่อนลำปาวมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 1,563 ล้าน ลบ.ม.หรือคิดเป็น 78.99 เปอร์เซ็นต์ จากความจุระดับกักเก็บ 1,980 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งยังสามารถรับน้ำได้อีกกว่า 400 ล้าน ลบ.ม.ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดกลางทั้ง 17 แห่ง ซึ่งล่าสุดพบว่ามี 6 แห่งที่มีปริมาณน้ำมากกว่าความจุ 100 เปอร์เซ็นต์ ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำห้วยโพธิ์, อ่างเก็บน้ำห้วยสังเคียบ, อ่างเก็บน้ำห้วยจาน, อ่างเก็บน้ำหนองหญ้าปล้อง, อ่างเก็บน้ำหนองหมาจอก และอ่างเก็บน้ำหนองบ้านสา ขณะนี้ระดับน้ำยังสามารถบริหารจัดการและยังสามารถพร่องน้ำลงสู่แม่น้ำธรรมชาติได้ ยังมีความมั่นคงแข็งแรง และยังไม่มีผลกระทบกับพื้นที่การเกษตร รวมทั้งบ้านเรือนประชาชน