แฉความแตก! พ่อค้าไก่หมุนปลอมเป็นทนาย ถูกจับขังคุก-แม่ไม่มีเงินประกันตัว
ฮอตโซเชียล แฉความแตก! พ่อค้าไก่หมุนปลอมเป็นทนาย ถูกจับแล้วขังคุก-แม่ร้องไห้ไม่มีเงินประกันตัว ทำผิดก็ว่าไปตามผิด
สะเทือนกระบวนการยุติธรรม พ่อค้าไก่หมุนปลอมเอกสารเป็นทนายความ แต่มาความแตกหลังผู้เสียหายแจ้งตำรวจจับทนายปลอมลวงโลกเข้าคุก ขณะที่แม่ถึงกับร้องไห้โฮ ลูกเลิกอาชีพพ่อค้าไก่หมุนไปว่าความเลี้ยงครอบครัว แต่เมื่อทำผิดก็ว่าไปตามผิด อยากประกันตัวลูกแต่ไม่มีเงิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกระแสข่าวมีการจับกุม นายพรเทพ ปลอมเป็นทนายความ สวมรอยเลขคนอื่นรับว่าความหลายคดี โดยมีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดกำแพงเพชร ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร จากสอบถามพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี พ.ต.ท.สุวิศ พิชอ่อน ให้ข้อมูลว่า เรื่องราวดังกล่าวเกิดจาก ผู้ต้องหาได้ รับว่าความให้ผู้เสียหายในคดีแพ่งในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ จากนั้นได้แจ้งผู้เสียหายว่าชนะคดีได้ให้ผู้เสียหายดูคำพิพากษาของศาล พร้อมเรียกรับเงินจากผู้เสียหายเป็นค่าดำเนินการ
ต่อมาผู้เสียหายได้ตรวจสอบคำพิพากษาดังกล่าวปรากฏว่า ไม่มีคำพิพากษาในคดีดังกล่าวและไม่มีคดีดังกล่าวในสารระบบของศาลจังหวัดกำแพงเพชร จึงเข้าพบพนักงานสอบสวนที่จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อแจ้งความดำเนินคดี
จากนั้นพนักงานสอบสวนจังหวัดนครสวรรค์ จึงประสานมายัง สถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร เมื่อทราบเรื่องดังกล่าวศาลจังหวัดกำแพงเพชร จึงได้ทางการทำการตรวจสอบเลขที่คดี ซึ่งพบว่าไม่มีคดีดังกล่าวอยู่ในสารระบบ และได้ทำการตรวจสอบรายชื่อทนาย ไม่พบปรากฏว่าผู้ต้องหาอยู่ในรายชื่อของสภาทนายความแต่อย่างใด
ดังนั้น จึงทราบว่าผู้ต้องหาได้ปลอมแปลงตั๋วทนาย เพื่อใช้ในการว่าความ ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับศาลเป็นอย่างยิ่ง จึงได้แจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร และถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ผู้ต้องหาถูกฝากขังอยู่ที่เรือนจำกลางจังหวัดกำแพงเพชรเรียบร้อยแล้ว
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ เดินทางมาตรวจสอบที่บ้านของผู้ต้องหา ในพื้นที่ตำบลคณฑี อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร พบว่า เป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีประตูกระจกติดติดข้อความว่า รับว่าความทั่วราชอาณาจักร คดีแพ่ง-อาญา พร้อมกับเบอร์ติดต่อ ภายในบ้านพบแม่ของผู้ต้องหา และลูกสาวของผู้ต้องหา อีก 2 คน
โดยแม่อยู่ด้วยอาการเสียใจ ขอร้องด้วยน้ำตาไม่อนุญาตให้บันทึกภาพ เพียงแต่ให้ข้อมูลว่า ผู้ต้องหาเป็นลูกชายได้เลิกอาชีพไก่หมุน แล้วมามีอาชีพรับว่าความ หาเลี้ยงครอบครัวเพียงคนเดียว จึงเป็นเสาหลักของบ้าน ส่วนเรื่องความผิดว่ากันไปตามความผิด แต่ในหัวอกแม่ลูกชายเป็นที่รักและคนหาเลี้ยงครอบครัวมาโดยตลอด
หลังจากลูกชายถูกควบคุมตัวไป ไม่ได้ติดต่อกันเลย ตนเองก็ไม่รู้จะไปติดต่ออย่างไรทางไหน โดยขนาดนี้รู้สึกเป็นห่วงลูกชายอยากจะไปประกันตัวออกมา ยอมรับว่า ชีวิตขณะนี้ลำบากมาก เพราะตนเป็นผู้พิการไม่สามารถเดินได้ และหลานสาวอีก 2 คน ตกอยู่ในสถานที่ลำบากเช่นกัน ได้เพื่อนบ้านนำอาหารและสิ่งของจำเป็นมาแบ่งจนเจือให้พอมีกินอิ่มไปเป็นมื้อ