เพิกถอนวีซ่า 2 สื่อต่างชาติ รับผิดบุกรุกที่เกิดเหตุ "กราดยิงหนองบัวลำภู"

จากกรณีดราม่าในโลกโซเชียล ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าว CNN เข้าไปรายงานข่าว เหตุ “คนร้ายกราดยิง” ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต. จังหวัดหนองบัวลำภู เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 38 ราย ซึ่งมีภาพถ่ายขณะปีนรั้วออกมา และแชร์ วิพากษ์วิจารณ์ ถึงความไม่เหมาะสมอย่างหนัก

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางเข้าสอบปากคำทีมข่าวต่างชาติ หลังควบคุมตัว ตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (9 ตุลาคม 2565)  ขณะพักอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่ง ของจังหวัดอุดรธานี  พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ได้เปิดเผยความคืบหน้า ตนเองได้สั่งการให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่าง ถึงได้เข้าพื้นที่ "คนร้ายกราดยิง" ซึ่งได้ทราบรายละเอียด และมีข้อมูลที่จะแจงต่อสื่อมวลชน

ขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า หลังจาก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มอบหมายให้ตรวจสอบ จึงตรวจสอบการเดินทาง ทราบว่าเข้ามาเมื่อวันที่ 6 ซึ่งเป็นวันที่เกิดเหตุ "คนร้ายกราดยิง" ซึ่งเดินทางมาจากฮ่องกง ส่วนวันที่เดินทางเข้าไปในพื้นที่ "คนร้ายกราดยิง" จนเกิดดราม่านั้น เข้าไปวันที่ 7 ตุลาคม ช่วงเวลา 10.30 น.- 12.00 น. สอบปากคำทราบว่า ไม่มีเจตนาจำบุกรุกเข้าไป เข้าไปช่วงประตูเปิดอยู่ ไม่มีเส้นกั้นไว้ และเห็นมีประชาชนอยู่ด้านใน 7-10 คน ซึ่งตรงกับภาพที่สื่อบางท่านถ่ายได้ ซึ่งทั้ง 2 ได้สอบถามว่าเข้าไปได้มั้ย ซึ่งการสื่อสารอาจจะตรงหรือไม่ตรงบ้าง อาจจะใช้เวลาถ่ายด้านในเยอะ ออกมาจึงมีการกั้นพื้นที่แล้ว 

ซึ่งการตรวจสืบสวนสอบสวนขณะนี้ ทำให้ทราบว่า ทั้ง 2 ราย ไม่มีเจตนาบุกรุก หรือละเมิดคำสั่ง หรือไปเกี่ยวข้องกับพยายหลักฐานต่างๆ  ส่วนหนึ่งที่พบคือเรื่องการใช้วีซ่าท่องเที่ยว จึงมีความผิดในเรื่องของการเข้ามาทำงาน "คนร้ายกราดยิง" ในดินแดนไทย ผิด พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 มีอัตราโทษปรับ 5,000-10,000

ผบ.ตร.จึงสั่ง ตม.ให้เพิกถอนวีซ่า ซึ่งทั้ง 2 รายให้การรับสารภาพ ถึงการทำงานที่ผิดกฎหมาย และยินยอมเสียค่าปรับ พร้อมทั้งสมัครใจกลับไปยังประเทศของตนเอง คือออสเตรเลีย เขาต้องการเก็บภาพให้ได้มากที่สุด เพราะเป็นงานของตัวเอง