ตร.ปีนหลังคา ตามจับหนุ่มปืนโหด รัว 6 นัดใส่เด็กวัย 13 สาหัส 2 ราย
ตำรวจนครบาลสืบฯ 7 ปีนหลังคา ตามรวบผู้ต้องหาชักปืนขนาด .38 รัวหมดโม่ใส่เด็ก 13 ปี สาหัส 2 ราย ซ้ำโพสต์ข่มขู่ “ถ้าเด็กทั้งสองคนไม่ตาย จะไม่ยอมติดคุก” ขณะที่เจ้าตัวอ้างรุ่นน้องถูกคู่อริชิงรถ จยย. จึงอาสาทวงคืน
พ.ต.อ.ไกรวิทย์ อุณหก้องไตรภพ ผู้กำกับการสืบสวนนครบาล 7 นำกำลังเข้าปิดล้อมจับกุมตัว นายอาศิระ หรือ บาส อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนยิงเยาวชนได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังสืบทราบว่าได้หลบหนีมากบดาน ที่บ้านหลังหนึ่ง ภายในซอยวัดประดิษฐาราม (วัดมอญ) ถนนอิสรภาพ แขวงหิรัญรูจี เขตธนบุรี กรุงเทพฯ
โดยทางตำรวจกำลังปิดล้อมอยู่นั้น เมื่อนายศิระ เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็รีบวิ่งหนีปีนหลังคาบ้านชาวบ้านในละเเวกดังกล่าวอย่างไม่คิดชีวิต แต่ในที่สุดก็หนีไม่พ้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจวางกำลังล้อมเอาไว้ทุกด้าน ทำให้ นายศิระ ยอมจำนวนมอบตัวแต่โดยดี
สำหรับพฤติการณ์คนร้ายรายนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ที่ผ่านมา นายศิระได้ใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38 ไปก่อเหตุรัวยิงกลุ่มคู่อริ ซึ่งเป็นเยาวชน จำนวน 6 นัด บริเวณท่าน้ำวัดชลอ พื้นที่อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ส่งผลให้มีเยาวชนอายุ 13 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส จำนวน 2 ราย ทั้งนี้ก่อนที่นายศิระ จะหลบหนียังโพสต์ข้อความผ่านทางโซเชียลมีเดียข่มขู่กลุ่มผู้เสียหายว่า “ถ้าเด็กทั้งสองคนไม่ตายจะไม่ยอมติดคุก”
จากการสอบสวน นายศิระ ให้การยอมรับว่า เป็นผู้ก่อเหตุยิงคู่กรณีเนื่องจากวันเกิดเหตุมีพรรคพวก มาฟ้องตนว่ากลุ่มคู่กรณี ได้ชิงทรัพย์เอารถ จักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นเอ็นเเม็ค ไป จึงอาสาไปติดตามเพื่อที่จะไปทวงเอารถคืน พอไปถึงจุดเกิดเหตุบริเวณท่าน้ำวัดชลอ เห็นกลุ่มคู่กรณีนับสิบคนนั่งเล่นกันอยู่ มีบางส่วนถืออาวุธมีดจะกรูเข้ามาทำร้ายตน ตนจึงต้องชักอาวุธปืนขนาด .38 ออกมายิงใส่เพื่อป้องกันตัวไปจำนวน 6 นัด ไม่รู้ว่ากระสุนถูกใครบ้าง ก่อนหลบหนีออกจากพื้นที่มากระทั่งถูกตามจับกุม
“ส่วนอาวุธปืนที่ใช้เป็นของเพื่อนรุ่นพี่ที่ซื้อมาจากในโซเชียลมีเดียราคากระบอกละ 10,000 บาท หลังก่อเหตุได้นำอาวุธปืนไปคืนเพื่อนรุ่นพี่แล้ว และทราบว่า ก่อนหน้านี้ไม่นาน เจ้าของปืนก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางกอกน้อย จับกุมตัวข้อหาครอบครองอาวุธปืนเถื่อน ได้พร้อมของกลางไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย
โดยตนอยากจะฝากขอโทษกลุ่มผู้ปกครองของผู้บาดเจ็บ ซึ่งสาเหตุที่ตนต้องยิงในวันนั้นเพราะว่าจำเป็นต้องป้องกันตัว สำหรับประเด็นการโพสต์ข่มขู่ในโลกโซเชียลนั้นไม่ใช่ฝีมือตนแต่อย่างใด” นายศิระ กล่าว เมื่อตรวจสอบประวัติของ นายศิระ พบว่า เคยต้องโทษจำคุกข้อหาชิงทรัพย์ ทั้งที่ สน.ชนะสงคราม มาแล้วครั้งหนึ่ง
เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร เพื่อนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางกรวย จ.นนทบุรี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป