เชียงใหม่ ออก 7 มาตรการ ช่วง "เทศกาลยี่เป็ง" ห้ามปล่อยโคมลอยเด็ดขาด 6 อำเภอเสี่ยง
ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ กำชับ 7 มาตรการปล่อยโคมลอย ทุกอำเภอเตรียมการป้องกันอุบัติภัยในช่วงเทศกาล “เทศกาลยี่เป็ง” คุมเข้มจุดพลุ-ห้ามขายประทัดยักษ์ ห้ามปล่อยโคยลอยเด็ดขาดในพื้นที่เขตปลอดภัยในการเดินอากาศ และพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษ ระดับ 1 ครอบคลุม 6 อำเภอ
เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เน้นย้ำถึงการปล่อยโคมลอย ในช่วงเทศกาลยี่เป็งเชียงใหม่ว่า มาตรการทุกอย่างเป็นไปตามแนวทางเดิมเหมือนปีที่ผ่านมา จึงขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศของการท่องเที่ยว หากพบว่ามีการฝ่าฝืน จะดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะในเขตวิสัยการบินมีการตกลงกันอยู่แล้ว ไม่อนุญาตให้ขาย และปล่อย โดยเน้นย้ำกับผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยงให้ทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยว โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจการกระทำความผิด หากพบว่ามีการขาย หรือ ปล่อยโคมลอยในพื้นที่ห้ามปล่อยก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายทันที
พร้อมกันนี้ ยังได้มีข้อสั่งการให้ทุกอำเภอเตรียมการป้องกันอุบัติภัย ในช่วงเทศกาลเดือนยี่เป็ง 2565 คือ 1.เข้มงวดกวดขันการพิจรณาออกใบอนุญาต หรือ ต่ออายุใบอนุญาต ให้ทำ สั่ง นำเข้า หรือ ค้าซึ่งดอกไม้เพลิง รวมทั้งตรวจสอบสถานที่เก็บทำ หรือ ค้าดอกไม้เพลิง
2.ตรวจตราอาคารสถานที่ โป๊ะ ท่าเทียบเรือ พร้อมออกตรวจความปลอดภัย ซ่อมแซมให้มั่นคงแข็งแรง
3.เตรียมพร้อมบุคลากร อุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ เพื่อให้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที
4.ให้ผู้จัดงาน เตรียมการป้องกันและระมัดระวังเพื่อมิให้เก็บอุบัติภัย พร้อมจัดหน่วยเคลื่อนที่เร็ว อุปกรณ์ดับเพลิง อุปกรณ์กู้ภัยทางบก ทางน้ำ และ ไฟฟ้าส่องสว่าง และต้องมีหน่วยบริการการแพทย์ ฉุกเฉินประจำบริเวณสถานที่จัดงาน
5.กำหนดมาตรการความปลอดภัย จากการปล่อยโคมลอยหรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน ในช่วงวันลอยกระทง เช่น ขอบเขตพื้นที่สำหรับปล่อยโคมลอย ข้อห้าม และ บทลงโทษทางกฎหมาย รวมถึงแนวทางการขออนุญาต
6.จัดชุดปฏิบัติการบูรณาการกำลังทุกหน่วย ให้ อส.และอปพร.เฝ้าระวังสถานที่เสี่ยงเกิดอัคคีภัย และ อุบัติภัยอื่นๆ จัดระเบียบการจราจร เฝ้าระวังความปลอดภัยบริดวณที่มีประชาชนหนาแน่น
7.รณรงค์ ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้ประชาชนทราบถึงมาตรการความปลอดภัย ร่วมแสดงออกในการประพฤติปฏิบัติตามแบบวัฒนธรรมอันดีงามแห่งท้องถิ่น
ขณะนาย อัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กล่าวว่า ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ได้วางมาตรการรักาความปลอดภัย โดยเฉพาะเรื่อง การจุดพลุ ห้ามขายประทัดยักษ์ โดยจะมีการใช้กล้องวงจรปิด กำลังพล เข้ามาอยู่ในพื้นที่ เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และการกระทำผิดกฎหมายต่าง ซึ่งการจัดงาน ยี่เป็งในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ปีนี้ยังเป็นงานที่ปลอดแอลกอฮอล์ เหมือนทุกๆปี
ด้านนายวิจิตต์ แก้วไทรเทียม ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กล่าว่า ขอให้ประชาชน ปฏิบัติตามมาตรการ โดยการห้ามปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศ ในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ และพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษระดับ 1 คือบริเวณแนวขึ้น-ลง สนามบิน ที่อยู่ห่างจากทางขึ้น-ลงของเครื่องบิน ข้างละ 4.6 กิโลเมตร เป็นระยะทางยาว 18.5 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ 16 ตำบล อำเภอสารภี 5 ตำบล อำเภอสันทราย 1 ตำบล อำเภอหางดง 11 ตำบล อำเภอแม่ริม 5 ตำบล อำเภอสันป่าตอง 1 ตำบล
ส่วนพื้นที่ ที่ปล่อยได้ในช่วงเทศกาลยี่เป็งวันที่ 8 และ 9 พฤศจิกายน 2565 ระหว่างเวลา 19.00-01.00 น. โดยต้องแจ้งขออนุญาตจากนายอำเภอท้องที่ก่อน 30 วัน หลังจากได้รับอนุญาตจากนายอำเภอท้องที่ ต้องแจ้งท่าอากาศยานเชียงใหม่ หรือศูนย์ควบคุมการบินเชียงใหม่ก่อน 14 วัน เพื่อจะได้ออกประกาศเตือนนักบิน ต่อไป
สำหรับการรณรงค์เรื่องการปล่อยโคมลอยให้ปลอดภัย ก่อนหน้านี้ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้มีหนังสือขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่อยู่ในเขตความปลอดภัยในการเดินอากาศ ประชาสัมพันธ์แก่ประชาชนให้รับทราบถึงแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการปล่อยโคมลอยในช่วงเทศกาลลอยกระทง
ขณะเดียวกัน ยังได้เพิ่มรอบความถี่ในการตรวจสอบบริเวณพื้นที่ของสนามบินทั้งภายในเขตการบินและนอกเขตการบิน โดยเฉพาะในเขตการบินหรือ Airside จะมีการออกตรวจทางวิ่งทางขับจากเดิมวันละ 4 ครั้ง เป็น 10 ครั้ง เพื่อตรวจเก็บซากโคมที่อาจถูกกระแสลมพัดมาตก ในพื้นที่เขตการบิน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังการเก็บโคมลอยและโคมควัน โดยพร้อมออกไปเก็บซากโคมลอยได้ทันที หากได้รับแจ้งจากหอบังคับการบินหรือจากนักบิน
นอกจากนี้ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ยังได้ขอความร่วมมือสายการบินต่างๆ พิจารณาปรับเปลี่ยนเวลาทำการบินในช่วงเทศกาลลอยกระทงเพื่อลดความเสี่ยงและหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น โดยระหว่างวันที่ 8-9 พฤศจิกายน 2565 มีเที่ยวบินที่แจ้งยกเลิกและเปลี่ยนแปลงเวลาการบิน รวมทั้งสิ้น 69 เที่ยวบิน คิดเป็นร้อยละ 31 ของเที่ยวบินที่ทำการบินทั้งหมดในช่วงเวลาดังกล่าว เป็นเที่ยวบินยกเลิกจำนวน 55 เที่ยวบิน และเปลี่ยนแปลงเวลาทำการบิน 14 เที่ยวบิน และมีเที่ยวบินพิเศษเพิ่มเติม 6 เที่ยวบิน
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าสายการบินจะยกเลิกและเปลี่ยนแปลงเวลาทำการบิน ในช่วงเวลาดังกล่าวแล้ว แต่สนามบินเชียงใหม่ก็ยังเป็นสนามบินสำรองให้อากาศยานที่มีเหตุขัดข้องจำเป็นต้องขอลงจอดฉุกเฉิน ตลอด 24 ชั่วโมง จึงไม่สามารถปล่อยโคมลอยในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนปล่อยโคมลอยในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ และพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษระดับ 1 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ