ธปท.อีสาน เปิดภาพรวมเศรษฐกิจอีสานขยายตัวดีขึ้นกว่าไตรมาสก่อน
ภาพรวมเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือไตรมาส 3 มีการปรับดีขึ้นจากไตรมาสก่อน กิจกรรมทางเศรษฐกิจทยอยฟื้นตัว ขณะที่ผลกระทบน้ำท่วมคิดเป็น0.7-0.8 เปอร์เซ็นต์ ของมวลรวมภาคอีสาน
เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 65 นายศรัณย์ ธำรงรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยภาพรวมเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือไตรมาส 3 ว่า มีการปรับดีขึ้นจากไตรมาสก่อน ตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมที่ทยอยฟื้นตัว โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวต่อเนื่อง จากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวและรายได้เกษตรที่ยังขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ดี ขณะที่การผลิตหดตัวมากขึ้น จากปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ (supply disruption) ที่ยังมีอยู่ อย่างไรก็ตาม ค่าครองชีพที่อยู่ใน ระดับสูงยังเป็นแรงกดดันต่อการฟื้นตัวของการบริโภคภาคเอกชน
นายศรัณย์ ธำรงรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยอีกว่า นอกจากนี้ยังพบว่า ตัวเลขการอุปโภคบริโภคขยายตัวต่อเนื่อง ตามการใช้จ่ายในหมวดบริการ สินค้าคงทน และสินค้าอุปโภคบริโภคเป็นสำคัญ ส่วนการลงทุนภาคเอกชน หดตัวเล็กน้อยตามการลงทุนด้านการก่อสร้างที่หดตัวต่อเนื่อง และการลงทุนด้านเครื่องจักรที่ชะลอตัวลง ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐ หดตัวต่อเนื่อง ตามรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุน ด้านการค้าผ่านด่านศุลกากร หดตัวน้อยลงทั้งการส่งออกและนำเข้าจากจีนเป็นสำคัญ
อีกประเด็นคือรายได้เกษตรกร ขยายตัวต่อเนื่อง จากด้านราคาเป็นสำคัญ ตามราคาปศุสัตว์และมันสำปะหลัง ขณะที่ผลผลิตชะลอลง ภาคอุตสาหกรรม หดตัวมากขึ้น ตามการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ลดลงจากปัญหา Supply Disruption ในจีนที่เพิ่มขึ้น การจ้างงานเพิ่มขึ้น ตามจำนวนผู้มีงานทำในระบบที่เพิ่มขึ้น (ม.33) และจำนวนผู้ว่างงานใหม่ในระบบที่ลดลง (ม.38) สิ่งที่น่าเป็นห่วงคืออัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นร้อยละ 6.89 ตามราคาอาหารสด ได้แก่ เนื้อสัตว์ และผักสดเป็นสำคัญ ขณะที่ราคาพลังงานชะลง ภาคการเงิน ฝากเงินชะลอตัว ทั้งเงินฝากออมทรัพย์และกระแสรายวัน ส่วนสินเชื่อขยายตัวเล็กน้อย ตามความต้องการเงินทุนของธุรกิจที่เริ่มฟื้นตัว หลังจากสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย
นายศรัณย์ ธำรงรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยด้วยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เศรษฐกิจไตรมาส 4 ปี 2565 คาดว่า ปรับดีขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน ตามการบริโภคภาคเอกชนที่ได้รับผลดีจากความเชื่อมั่นที่ปรับดีขึ้น ขณะเดียวกันรายได้เกษตรยังขยายตัวดีจากผลผลิตที่จะออกสู่ตลาดมากขึ้น จะช่วยให้เศรษฐกิจทยอยฟื้นตัวแม้ยังมีแรงกดดันจากภาวะค่าครองชีพ ที่อยู่ในระดับสูง สำหรับการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ อาทิ การผลิตอาหารและเครื่องดื่มคาดว่า ขยายตัวตามกิจกรรมการทางเศรษฐกิจในประเทศ ที่ฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม การผลิตเพื่อส่งออกยังมีความเสี่ยงจากผลกระทบมาตรการ Zero-COVID ในจีน และความเสี่ยงจากเศรษฐกิจคู่ค้าที่ชะลอตัว
ส่วนปัญหาน้ำท่วมยอมรับว่ากระทบภาพรวมเศรษฐกิจน้อยมาก คิดเป็น 0.7-0.8 เปอร์เซ็นต์ ของมวลรวมภาคอีสาน แต่ผู้ที่ได้รับผลกระทบภาครัฐก็ต้องให้การช่วยเหลือเป็นรายกรณีไป ส่วนมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ ซึ่งเป็นความร่วมมือร่วมใจของธนาคารแห่งประเทศไทยกับกระทรวงการคลัง มีธนาคารเข้าร่วม60 กว่าสถาบัน ธนาคารของรัฐทุกแห่งเข้ามาร่วมด้วย สำหรับท่านที่เป็นหนี้และยังไม่ได้รับการช่วยเหลือขอให้ลงทะเบียนในระบบออนไลน์ โดยการค้นหาคำว่ามหกรรมร่วมใจแก้หนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย สามารถลงทะเบียนตามหน้าจอ และภายใน18 วัน ธนาคารของเจ้าหนี้จะติดต่อมาคุยกับท่าน