ลูกเสือโคร่ง 4 ตัว จากกลุ่มขบวนการค้าสัตว์ไปทำตุ๋นยาจีน หมอเผยอาการล่าสุด

ความคืบหน้าของ "ลูกเสือโคร่ง" 4 ตัว จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ทลายขบวนการค้าลูกเสือโคร่งผิดกฎหมายข้ามชาติ จากการติดต่อล่อซื้อจำนวน 4 ตัว เป็นเงิน 1.5 ล้านบาท จากนั้นได้นัดหมายส่งกันที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งใน จ.มุกดาหาร ก่อนเเสดงตัวจับกุม 

เจ้าหน้าที่เค้นผู้ต้องหาก่อนรับสารภาพว่า ลูกเสือโคร่งเพื่อไปตุ๋นยาจีนกินบำรุงกำลังเพราะมีความเชื่อว่ากินลูกเสือแล้วจะทำให้อายุยืน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา เบื้องตนคือ ฐานกระทำความผิดพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 17 ฐานร่วมกันมีสัตว์ป่าคุ้มครองและซากของสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และผิดตามมาตรา 29 ข้อหาร่วมกันค้าสัตว์ป่าคุ้มครองและซากของสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปีหรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

ส่วน "ความคืบหน้าของลูกเสือโคร่ง" ล่าสุด ทีมสัตวแพทย์สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี นำลูกเสือโคร่งทั้ง 4 ตัว แบ่งเป็นเพศผู้ 2 ตัวและเพศเมีย 2 ตัว อายุเดือนเศษที่ตรวจยึดได้มาอนุบาลที่คลิกนิกดูแลสัตว์ป่าของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อ.เมืองอุบลราชธานี พบว่า ลูกเสือโคร่งทั้ง 4 ตัวมีอาการอ่อนเพลียจากการเดินทางไกล และท้องเสียจากนมที่ไม่ถูกสุขลักษณะของขบวนการค้าสัตว์ป่าที่นำมาให้ลูกเสือกิน

นางสาวคชรินทร์ ราชสินธุ์ นายสัตว์แพทย์ปฎิบัติการประจำคลินิก ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี พร้อมทีมเจ้าหน้าที่กล่าวว่า หลังมีข่าวคลินิกรับลูกเสือโคร่งทั้ง 4 ตัวมาอนุบาลเลี้ยงไว้ ก็มีคนรักสัตว์นำนมใช้เลี้ยงแมว ซึ่งเป็นนมเหมาะใช้เลี้ยงลูกเสือ รวมทั้งผ้าใช้รองฉี่ รองอุจจาระของสัตว์มาบริจาคให้ลูกเสือโคร่งทั้ง 4 ตัวบ้างแล้ว

แต่ยังมีจำนวนไม่เพียงพอ เพราะลูกเสือทั้ง 4 ตัวซึ่งกำลังเริ่มปรับตัวจากที่เคยถูกเลี้ยงไม่ถูกสุขลักษณะ เคยได้รับนมไม่พอกับน้ำหนักตัวมาก่อน ทำให้กินจุมากขึ้น ซึ่งการให้นมแต่ละครั้งทีมสัตวแพทย์จะให้ไม่น้อยกว่า 240 ซีซี วันหนึ่ง 5-6 ครั้ง เพื่อให้ลูกเสือเติบโตได้ตามวัย

ส่วนความเป็นอยู่ของลูกเสือโคร่งทั้ง 4 ตัว เลี้ยงในลักษณะปล่อยในห้องเลี้ยง ทำให้มีความซุกซนเล่นหยอกล้อตามประสาสัตว์เล็ก และคาดเป็นลูกเสือจากแม่เสือที่ถูกเลี้ยงมาเพราะไม่มีอาการดุร้าย มีความคุ้นเคยกับคนเลี้ยงได้เร็ว สามารถดูดกินนมได้จากขวดนมอย่างคล่องแคล่วและเข้ามาหยอกล้อเล่นกับคนที่เลี้ยงเพราะเริ่มชินกลิ่นแล้ว

สำหรับระยะเวลาที่คลินิกต้องเลี้ยงดูลูกเสือทั้ง 4 ตัว คงต้องใช้เวลาสักระยะราว 1-2 เดือน จนกว่าลูกเสือจะมีเขี้ยวและสามารถกินเนื้อสัตว์ได้ก็จะถูกส่งไปอยู่ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าจุฬาภรณ์ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งขณะนี้ก็ได้ตั้งชื่อให้ลูกเสือทั้ง 4 ตัวว่า หุง อุ่น ตุ๋น ต้ม

ผู้ที่ต้องการบริจาคนมและของใช้ของสัตว์สามารถแจ้งความประสงค์หรือส่งมาได้ที่สัตวแพทย์หญิง คชรินทร์ ราชสินธุ์ ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี ถนนแจ้งสนิท ตำบลแจระแม อำเภอเมืองอุบลราชธานี 34000 หมายเลขโทรศัพท์ 086-468-7392, 045-311-677 ต่อ 553 ซึ่งสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆนี้ หากลูกเสือโตก็ยังสามารถนำไปช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ป่วยหรือบาดเจ็บที่ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่าได้รับมาจากพื้นที่ต่างๆในอีสานตอนล่างด้วย