"กรมที่ดิน" ลุยสอบ "นอมินี" ซื้อหมู่บ้านหรู-คอนโดฯแทนแก๊ง "ตู้ห่าว"
"กรมที่ดิน" สั่งสอบด่วน! หาตัว "นอมินี" กว้านซื้อหมู่บ้านหรูและคอนโดมิเนียมแทนกลุ่มทุนจีนสีเทาในเครือข่าย "ตู้ห่าว"
จากกรณีที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านหรูของเครือข่ายกลุ่มทุนจีนสีเทา ที่มีความเชื่อมโยงกับนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ "ตู้ห่าว"
ซึ่งจากการตรวจค้นบ้านหรูของเครือข่ายกลุ่มทุนจีนสีเทา หรือ แก๊งตู้ห่าว ดังกล่าวจะเป็นบ้านหรูราคากว่า 50 ล้านบาท โดยตรวจค้นจำนวน 10 หลัง ในพื้นที่กรุงเทพฯ , สมุทรปราการ และยังมีห้องชุดสุดหรู (คอนโด) มูลค่า 100 ล้านบาท ย่านเจริญนคร ซึ่งรายงานระบุว่ากลุ่มจีนสีเทามักจะกว้านซื้อบ้านหรูตามโครงการใหญ่ หรือคอนโดมิเนียมหรูใจกลางกรุง ในลักษณะเหมาเฟส หรือหากเป็นคอนโดฯก็จะซื้อแบบเหมายกชั้น โดยจะมีการซื้อขายผ่านนายหน้าหรือตัวแทน
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ นางพนิตาวดี ปราชญ์นคร รองอธิบดีกรมที่ดิน ได้ชี้แจงถึงกรณีการถือครองที่ดินแทนคนต่างด้าวว่า ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับคนต่างด้าวซื้อที่ดินในหมู่บ้านจัดสรรเกือบทั้งโครงการนั้น จากการตรวจสอบชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโครงการหมู่บ้านจัดสรรพบว่าเป็นบุคคลไทยทั้งหมด ซึ่งกรมที่ดินจะต้องดำเนินการตรวจสอบต่อไปว่าคนไทยเหล่านี้ถือครองที่ดินแทนคนต่างด้าวหรือไม่ หากพบว่าเป็นการถือครองที่ดินแทนคนต่างด้าวจริงก็จะมีการดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
รองอธิบดีกรมที่ดิน กล่าวอีกว่า ปัจจุบันการถือครองที่ดินของบุคคลต่างด้าวบางประเภท สามารถดำเนินการได้ตามกฎหมายเฉพาะ เช่น
- กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าว พ.ศ. 2545
- พระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ 2520
- พระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2561 เป็นต้น
แต่บุคคลต่างด้าวยังมิอาจได้มาตามประมวลกฎหมายที่ดินได้ ซึ่งในการตรวจสอบกรณี นิติบุคคลขอได้มาซึ่งที่ดินว่าจะเป็นนิติบุคคลต่างด้าวหรือไม่นั้น มีแนวทางปฏิบัติให้ตรวจสอบว่า มีคนต่างด้าวถือหุ้นเกิน 49% หรือไม่ และมีหุ้นส่วนคนต่างด้าวเกิน 50% ของผู้เป็นหุ้นส่วนหรือไม่ ทั้งนี้หากตรวจสอบแล้วไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ถือว่านิติบุคคลดังกล่าวเป็นนิติบุคคล สัญชาติไทย สามารถถือครองที่ดินในประเทศไทยได้ ตามมาตรา 97 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน
สำหรับการได้มาซึ่งที่ดินของนิติบุคคลที่มีเหตุที่น่าสงสัยคนไทยเป็นผู้ถือหุ้นแทนคนต่างด้าว พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องสอบสวนให้ปรากฏข้อเท็จจริงว่า คนไทยเหล่านี้เป็นผู้ถือหุ้นที่แท้จริง มิได้ถือแทนคนต่างด้าว โดยสอบสวนผู้ถือหุ้นคนไทยที่ถือหุ้นส่วนใหญ่ในประเด็น มีอาชีพใด , รายได้ต่อเดือนเท่าไหร่ โดยแสดงหลักฐานประกอบ เงินที่ซื้อหุ้นมีที่มาอย่างไร เป็นต้น ส่วนกรณีบุคคลต่างด้าวเช่าที่ดินหรือถือสิทธิประเภทอื่นในระยะยาว พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องสอบสวนว่าวัตถุประสงค์ในการเช่าที่ดินเพื่อนำไปประกอบกิจการใด ผู้ให้เช่าถือกรรมสิทธิ์แทนบุคคลต่างด้าวผู้เช่าหรือไม่ หรือขัดต่อ พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว หรือไม่
จากกรณีกลุ่มทุนจีนสีเทาที่เป็นข่าว "กรมที่ดิน" ได้มีหนังสือสั่งการให้พนักงานเจ้าหน้าที่ใช้ความรอบคอบและสอบสวนข้อเท็จจริงให้ปรากฏชัดเจนกรณีที่คนไทยซื้อที่ดิน ว่าจะเข้าลักษณะเป็นการถือครองที่ดินแทนบุคคลต่างด้าวหรือไม่ ทั้งนี้ตามประมวลกฎหมายที่ดินและประมวลกฎหมายอาญา รวมถึงบุคคลต่างด้าวก็มีความผิด ซึ่งมีอัตราโทษทั้งจำและปรับ ส่วนที่ดินที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้นก็จะต้องจำหน่าย แต่ถ้าหากไม่จำหน่าย อธิบดีกรมที่ดินก็มีอำนาจจำหน่ายที่ดินนั้นได้