ตม. จับชาวต่างชาติ หลอกคนไทยลงทุนสินค้าแบรนด์เนม
หนุ่มใหญ่เมืองน้ำหอม หลอกคนไทยลงทุนสินค้าแบรนด์เนม สอบสวนพบมีผู้เสียหายจำนวนหลายราย
การควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มอบหมายให้ สดม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยใน
ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่
ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
วันที่ 5 ธ.ค.65 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบข.สตม. พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.อาภากร โกมลสิทธิ รอง ผบก.สส.สตม. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สส.สตม. ร่วมแถลงข่าวการจับกุมคนร้าย ดังนี้
ผบก.สส.สตม.สั่งการให้เจ้าหน้า บก.สส.สตม. กวดขันจับกุมคนต่างด้าวที่แฝงเข้าอยู่ในประเทศไทยเพื่อใช้เป็นสถานที่ก่ออาชญากรรมในรูปแบบต่างๆ สร้างความเสียหายให้กับประชาชนและภาพลักษณ์ของประเทศ โดยเนันย้ำสถานที่พักอาศัยที่คนต่างด้าว พักอาศัย เจ้าของหรือผู้ครอบครองดูแลต้องแจ้ง ต่อสำนักงานตรวจดนเข้าเมืองภายใน 24 ชั่วโมง ตามมาตรา 38 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องมืออันสำคัญในการดวบคุม ป้องกันและปราบปราม กลุ่มอาชญากรที่แฝงเข้ามาในรูปแบบต่างๆ
พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2565 เจ้าพนักงานตำรวจตรวจเข้าเมืองชุดจับกุม ได้รับการร้องขอจากผู้เสียหายซึ่งได้รับความเสียหาย จากการถูกนายชาเกล อายุ 41 ปี สัญชาติฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลแขวงพระนครได้ ที่ 196/2565
ลงวันที่ 2 พฤษภาคม 2565 กระทำความผิดฐาน "ฉ้อโกง" สืบเนื่องจากผู้เสียหายประสงค์ปกปิดนามได้รู้จักกับผู้ต้องหา ที่สถานท่องเที่ยวย่านสุขุมวิท จนกระทั่งมีความสนิทสนมและเดินทางไปยังประเทศฝรั่งเศส ซึ่งผู้ต้องหาแจ้งว่าตนสามารถนำสินดำาแบรนด์เนม ประเภทกระเป๋า รองเท้า น้ำหอม จากฝรั่งเศสมาจำหน่ายยังประเทศไทยได้ จนกระทั่งผู้เสียหายหลงเชื่อ และร่วมลงทุน กับผู้ต้องหารายนี้ จำนวน 2,000,000 บาท
ต่อมา ผู้ต้องหาไม่สามารถส่งสินด้ให้ได้ผู้เสียหายได้ทวงถามเรื่อยมา ต่อมาผู้เสียหายจึงได้ตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหาเคยดีสนิทกับดนไทย และใช้อุบายเช่นนี้เพื่อให้คนไทย
ร่วมลงทุนด้วย และไม่เคยมีสินค้าให้กับผู้ร่วมลงทุนเลย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ร่วมกันสืบสวนหาตัว นายชาเกลฯ เรื่อยมา
ต่อมาได้ตรวจสอบการแจ้งที่พักคนด่างด้าว ซึ่ง กฎหมายกำหนลให้เจ้าของและผู้ดรอบครอง สถานที่เป็นผู้แจ้งในระบบสำนักงานตรวจดนเข้าเมือง ตามมาตรา 38 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 จากฐานข้อมูลในระบบตรวจคนเข้าเมือง พบว่าผู้ต้องหาปรากฎตัวอยู่บริเวณสถานที่จับกุม เมื่อได้รับแจ้งดังนั้น เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้รายงานให้ผู้บังดับบัญซาทราบและร่วมวางแผนการจับกุม โดยจัดเจ้าหน้าที่ ชุ่มดูอยู่บริเวณดังกล่าว ต่อมาพบบุคคลต่างด้าวมีรูปพรรณ ตามหมายจับ
ปรากฏตัวอยู่ หน้าโรงแรมเท็น เอกมัย สวีทบาย แอสพิรา แขวงดลองต้นเหนือ เขตวัฒนา กพม. เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้แสดงตัว
เป็นเจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมือง สอบถามแล้วทราบชื่อชายคนดังกล่าว คือนายชาเกล ตรวจสอบ
ดูแล้วเป็นบุคคลตามหมายจับข้างต้น ซึ่งได้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2565 ประเภทการ
อนุญาต ผผ.30 ครบกำหนดการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรวันที่ 7 ธันวาคม 2565 (การอนุญาตยังไม่สิ้นสุด) จึงได้ทั้ง
แสดงหมายจับ ให้ผู้ถูกจับตรวจสอบดู ผู้ถูกจับรับว่าเป็นบุดคลตามหมายจับดังกล่าว และไม่เคยถูกจับดามหมายนี้มาก่อน
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ร่วมกันจับกุมตัวนาย นายชาเกล เซลอมอง ส่งศาลแขวงพระ นครใต้ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
ต่อไป
สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมทั้งตำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ
60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านใหม่ อำเกอปากเกร็ต จังหวัดนนทบุรี 11120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่
www.immigration.go.th