รวบหนุ่มใหญ่สวีเดน แต่งข้อมูลทางบัญชีปลอม หอบเงินหลบหนีกบดานไทย
ตำรวจ สตม. รวบหนุ่มใหญ่สวีเดน แต่งข้อมูลทางบัญชีปลอม หอบเงินหลบหนีกบดานไทย
ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย
วันที่ 7 ธ.ค.65 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.. พล.ต.อ. รอย อิงคไพโรจน์. รอง ผบ.ตร มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่หมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิตกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองโดย พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พันธนะ นุขนารถ รอง ผบช.สตม.. พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม. , พ.ต.อ.อาภากร โกมลสุทธิ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.พิสิษฐ์ ศรีอ่อน ผกก.2 บก.สส.สตม. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.สส.สตม. ร่วมแถลงข่าวการจับกุมคนร้าย ดังนี้
ผบก.สส.สตม, สั่งการให้เจ้าหน้าที่ บก.สส.สตม. กวดชันจับกุมคนต่างตัาวที่แฝงเข้าอยู่ในประเทศไทยเพื่อใช้เป็นสถานที่ก่ออาชญากรรมในรูปแบบต่าง ๆ สร้างความเสียหายให้กับประชาชนและภาพลักษณ์ของประเทศ โดยเนันย้ำสถานที่พักอาศัยที่คนต่างด้าว พักอาศัย เจ้าของหรือผู้ครอบครองดูแลต้องแจ้ง ต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองภายใน 24 ชั่วโมง ตามมาตรา 38 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องมืออันสำคัญในการควบคุม ป้องกันและปราบปราบกลุ่มอาชญากรที่แฝงเข้ามาในรูปแบบต่างๆ
กล่าวคือ สืบเนื่องมาจากฝ่ายกิจการตำรวจกลุ่มประเทศนอร์ดิกประจำสถานทูตสวีเคน ได้ประสานขอดวามร่วมมือในการติดตามตัวนาย ไฮซ์ อายุ 52 ปี สัญชาติสวีเดน เป็นผู้ต้องหาในความผิดทางบัญชีอย่างร้ายแรง โดยละเลยการจัดทำหรือทำปลอมทางบัญชีและมิได้นำส่งหลักฐานทางบัญชีของบริษัท ตามที่กฎหมายกำหนด โดยมีการจ้างผู้อื่นมาเป็นตัวแทนมาดำเนินการแทนและลงนามเกี่ยวกับบริษัทแทนตนเอง ในส่วนของมูลคำดวามเสียหายยังไม่ทราบแน่ชัด แต่จำนวนเงินที่หมุนเวียนในบริษัททั้งที่แจ้งและยังไม่ได้แจ้งที่มาของรายได้เข้า-ออกตั้งแต่ปี 2017-2019 รวมเป็นเงินโดยประมาณ 35,000,000 บาท ต่อมาบริษัทดังกล่าวได้มีการแจ้งลัมละลายในปี 2019 ทางการสวีเดนจึงได้ออกหมายจับและเพิกถอนหนังสือเดินทางของบุคคลดังกล่าว
ในวันที่ 4 ธันวาคม 2565 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กก.2 สืบทราบว่านาย ไฮซ์ หลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านเช่าแห่งหนึ่งใน ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน จว.ประจวบดีรีขันธ์ เมื่อเจ้าหน้าที่ฯ เดินทางไปถึงสถานที่ดังกล่าว พบบุคคลต่างตัาวลักษณะตรงตามเป้าหมาย เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตรวจดนเข้าเมือง ขอตรวจสอบ หนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง บุดลลดังกล่าวได้แสดงหนังสือเดินทางสัญชาติสวีเดนให้แก่เจ้าหน้าที่ฯ ตรวจสอบ ปรากฎชื่อนาย ไฮซ์ อายุ 52 ปี สัญชาติสวีเดน เป็นบุคคลตามหมายจับของทางการสวีเดน เจ้าหน้าที่ฯจึงได้แสดงเอกสารของทางการสวีเดนให้แก่นาย ไฮซ์ ดูจนเป็นที่พอใจและรับว่าตนเองเป็นบุดคลตามเอกสารดังกล่าวจริง เจ้าหน้าที่ฯ จึงทำการควบคุมตัวเพื่อดำเนินการตาม พ.ร.บ.กนเข้าเมือง ต่อไป
สตม. ขอเรียนให้ท่นหราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในต้านต่าง ๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใด
พบเห็นเบาะแสการกระทำความผิดกรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th