เก็บเงินแบงก์ 50 ใส่ในถังน้ำ ครบ 1 ปีเอามานับ อึ้งได้เงินกว่า 2.7 แสน
แม่ค้าไก่สดสุดดีใจ เก็บเงินแบงก์ 50 ไว้ในถังน้ำ ครบ 1 ปีเอามานับ อึ้ง! ได้เงินกว่า 2.7 แสน เผยการเก็บเงินครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้ว
วันที่ 4 มกราคม 2566 มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Parinatra Soonklang ได้โพสต์ภาพของถังน้ำดื่มขนาดใหญ่ที่ภายในมี ธนบัตรฉบับละ 50 บาท หรือ แบงก์ 50 เป็นจำนวนมาก พร้อมระบุข้อความว่า "ปิดถังเป็นที่เรียบร้อย 1 ม.ค.65 ถึง 31 ธ.ค.65 ปีนี้ลุ้นว่าจะได้เท่าไหร่ #ของขวัญปีใหม่66 #แบงก์สีฟ้าพารวย #เงินทั้งหมดอนาคตลูกชาย" และอีกข้อความระบุว่า "รอลุ้นเปิดถังนับเงินแบงก์ 50 ของปี 65 ในวันอังคารที่ 3 ม.ค.66 น๊า"
ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อไปยังเจ้าของโพสต์ดังกล่าวเพื่อขอเป็นส่วนหนึ่งในการบันทึกภาพการเปิดถังนับเงิน ซึ่งเจ้าของโพสต์ก็ยินดีและอนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปพบที่บ้าน เมื่อเดินทางไปพบกับเจ้าของโพสต์ทราบชื่อคือ น.ส.ปริณตรา อายุ 37 ปี ชาว ต.บ้านไร่ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านน้องอั่งเปาไก่สด
โดย น.ส.ปริณตรา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเป็นแม่ค้าขายไก่สดตามตลาดนัดต่าง ๆ และได้เก็บออมแบงก์ 50 หรือ ธนบัตรฉบับละ 50 บาท ไว้ในถังน้ำดื่มขนาดใหญ่ที่นำมาทำเป็นกระปุกออมสิน โดยเขียนข้อความไว้บนถังว่า 1 ม.ค.65 ซึ่งเป็นวันที่เริ่มต้นหยอดแบงก์ 50 ลงไป การเก็บออมเงินครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้ว หลังจากได้แรงบันดาลใจจากชาวเน็ตที่ได้ออกมาแชร์การเก็บเงินไว้ในถังบรรจุน้ำ ซึ่งตนได้ลองทำดูบ้างและประสบความสำเร็จมาแล้ว 2 ครั้ง
น.ส.ปริณตรา เล่าต่อว่า ส่วนวิธีการเก็บเงินก็มาจากเงินของลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแบงก์ 50 บาท โดยตนจะเลือกใบที่ใหม่ ๆ นำมาหยอดใส่ถังน้ำเอาไว้ วันไหนได้มากก็หยอดมาก วันไหนได้น้อยก็หยอดน้อย ประกอบกับแม่ค้าด้วยกันและผู้ที่ทราบข่าวว่าตนชอบเก็บแบงก์ 50 ก็จะนำแบงก์ 50 มาให้ตนแลกเอาไว้ โดยตนเริ่มหยอดใส่ถังน้ำดื่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 เป็นต้นมา จนถึงกำหนด 31 ธันวาคม 2565 ซึ่งเป็นเวลา 1 ปีเต็ม และเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2565 ตนก็ได้ถือฤกษ์เวลาประมาณ 15.39 น. นำค้อนมาทุบเพื่อเปิดปากถัง และนำธนบัตรทั้งหมดที่อยู่ข้างในถังออกมา พอนับดูแล้วปรากฏว่าได้เงินสะสมทั้งหมด จำนวน 278,100 บาท ก็รู้สึกดีใจมาก เพราะว่าลองเก็บเป็นครั้งที่ 4 แล้ว และครั้งนี้เก็บได้เพียง 1 ปี ไม่คิดจะได้เงินมากขนาดนี้
"ตนทำงานอย่างหนักแบบไม่ได้พักเหมือนคนอื่นเขา ตั้งใจหยอดทุกวัน และไม่กระทบกับเงินทุนที่ต้องใช้ซื้อของแต่ละวัน สิ่งแรกของการจะออมเงินคือความตั้งใจ เงินที่นำมาหยอดนี้ต้องไม่เดือดร้อนกับเงินทุน หรือเงินที่ใช้สำหรับใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน มีเหลือมากเราก็เก็บมาก มีน้อยเราก็เก็บน้อย ที่สำคัญเราต้องไม่ไปคิดว่าเรามีถังใบนี้อยู่และเก็บเงินเอาไว้ ให้ทำเป็นลืม และตั้งใจทำงานก็จะประสบความสำเร็จได้ โดยตนขอให้กำลังใจกับคนที่เก็บแล้วหมดหวัง ให้อดกลั้นนำเงินที่พอเหลือหยอดเก็บไว้ เชื่อว่าจะสามารถเก็บได้แน่นอน"
น.ส.ปริณตรา เผยต่ออีกว่า สำหรับการเก็บเงินแบงก์ 50 บาท ครั้งแรกปี 2561 เก็บได้จำนวน 68,000 บาท ครั้งที่ 2 ปี 2562 - 2563 จำนวน 2 ปี เนื่องจากอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 เก็บเงินได้จำนวน 147,800 บาท ครั้งที่ 3 ปี 2564 เก็บได้จำนวน 180,850 บาท และครั้งที่ 4 ปี 2565 เก็บได้จำนวน 278,100 บาท
โดยเงินจำนวนนี้ตนจะนำไปฝากธนาคารและจะนำเงินมาซื้อความสุขให้กับตนเองและครอบครัว จะพาแม่และลูกชายไปเที่ยว ทำบุญตามสถานที่ต่าง ๆ และอีกส่วนหนึ่งจะเก็บไว้เป็นค่าเล่าเรียนของลูกชาย และใช้ในครัวเรือนส่วนหนึ่ง เงินก้อนนี้แม้มันอาจจะดูไม่มาก แต่ตนก็ภูมิใจที่ได้เก็บเงิน ถือว่าเป็นของขวัญปีใหม่ 2566 พร้อมกันนี้ได้นำเงินเก็บไว้เป็นเงินขวัญถุง 10,000 บาท เพื่อเก็บเป็นครั้งที่ 5 ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 1 มกราคม 2566 เป็นต้นไป