‘ฮีทสโตรก’คร่าชีวิต ‘ผู้หมวดป้ายแดง’ คาชุดจราจร ต่อหน้าลูกชายเด็กพิเศษ
สลด! "ฮีทสโตรก" คร่าชีวิต "ผู้หมวดป้ายแดง" คาชุดจราจร ต่อหน้าลูกชายเด็กพิเศษ เพื่อน-ข้าราชการตำรวจในโรงพัก เผยเป็นตำรวจน้ำดี ขยัน เป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน และผู้บังคับบัญชา
เมื่อวันที่ 15 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้(14 เม.ย ) ที่แฟลตตำรวจ สภ.บางบ่อ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ บริเวณห้องพักชั้นที่ 4 ของแฟลต เกิดเหตุ ร.ต.ต. นายหนึ่ง เกิดอาการ "ฮีทสโตรก" จนช็อกหมดสติและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ด.ต.มงคล ศรีสุภา ผบ.หมู่ งานจราจร สภ.บางบ่อ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงาน และเป็นคนที่เข้าไปพยามช่วย ร.ต.ต.รายนี้ เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิต คือ ร.ต.ต.พิเศษ ดาวเรือง ตำแหน่งปัจจุบันเป็น รอง สว.จร.สภ.บางบ่อ โดยในช่วงเช้า หมวดพิเศษ และตน ได้เข้าเวรจราจร และทำหน้าที่อำนวยความสะดวกการจราจร บริเวณสามแยกบางบ่อ ระหว่างที่ปฏิบัติหน้าที่ ก็ยังคงโบกรถกันตามปกติ
กระทั่งช่วงหลังแปดโมง อากาศเริ่มร้อนอบอ้าวมากขึ้น ไม่นาน หมวดพิเศษ มาบอกกับตนเองว่า เกิดอาการอ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ เนื่องจากอากาศร้อน จึงได้เข้ามาพักในตู้จราจร บริเวณสามแยกบางบ่อ ต่อมาตนจึงได้สอบถามถึงอาการของผู้ตาย และจะพาไปโรงพยาบาล แต่ผู้ตายบอกว่า ไม่ไปโรงพยาบาล และห่วงลูกชายที่เป็นเด็กพิเศษ พักอยู่ในห้องเพียงคนเดียว จึงขอกลับไปพักที่ห้อง
ด.ต.มงคล จึงได้พาผู้ตายกลับไปยังห้องพัก พอมาถึงก็แยกย้าย ตนพักอยู่ชั้น 2 ส่วนหมวดพิเศษพักที่ชั้น 4 ตอนแรกก็ไม่ได้เอะใจอะไร ให้หลังประมาณ 10 นาที มีตำรวจรุ่นน้องวิ่งลงมาเรียกบอกว่า หมวดพิเศษ หมดสตินอนคว่ำหน้า ที่หน้าห้องพัก
จึงรีบขึ้นมาดูพบว่า ลูกชายที่ป่วยเป็นเด็กพิเศษ กำลังนั่งเขย่าตัวเรียกพ่อให้ตื่น พอจับตัวพลิกหงายมาพบว่า หน้าเริ่มเขียวแล้ว จึงช่วยกันปั๊มหัวใจ และโทรเรียกรถพยาบาล ไปถึงโรงพยาบาล แพทย์พยายามกระตุ้นหัวใจและพยายามช่วยสุดความ แต่สามารถสุดท้ายเสียชีวิตอย่างสงบ ท่ามกลางความตกใจของเพื่อนร่วมงาน และข้าราชการตำรวจในโรงพัก
ดาบตำรวจ มคล ยังเปิดเผยทั้งน้ำตา อีกว่า สำหรับ ร.ต.ต.พิเศษ ดาวเรือง เพิ่งจะติดยศ ร.ต.ต. เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังจากเรียนจบ นพต.รุ่น 43 โรงเรียนนครปฐม 7 ก็มารับราชการตำรวจที่ สภ.บางบ่อ ที่เดียว รวมอายุราชการแล้วเกือบ 40 ปี ปกตินิสัยใจคอหมวดพิเศษ จะเป็นคนที่รักเพื่อนร่วมงาน เป็นคนขยัน และจริงจังกับงานค่อนข้างมาก
ตลอดชีวิตที่เป็นตำรวจมา หมวด พิเศษ จะไม่เคยเป็นคนที่ให้ร้าย หรือว่าร้ายกับใคร ไม่ว่าตำรวจหรือประชาชน ปัจจุบัน หมวดพิเศษ แต่งงานมีครอบครัว แต่แยกกันอยู่กันภรรยา และมีบุตรชายอายุ 21 ปี ซึ่งเป็นเด็กพิเศษ ที่ผ่านมาจะนำลูกไปฝากให้แม่เลี้ยงดู ที่บ้านเกิดในจังหวัดชัยภูมิ
มาปีนี้ ลูกชาย ต้องเกณฑ์ทหาร และต้องนำตัวมายืนยันกับเจ้าหน้าที่ ประจำกองคัดเลือกทหาร หมวดพิเศษ จึงเดินทางไปรับบุตรชายมาอยู่ด้วย และตั้งใจว่า จะกลับไปส่งหลังสงกรานต์ ที่ผ่านมา หมวดพิเศษ มักบ่นว่า อยากกลับไปรับราชการ ที่บ้านเกิดจังหวัดชัยภูมิ เพื่อดูแลมารดาและลูกชาย แต่ทำเรื่องขอย้ายมาแล้วหลายปี แต่ก็ไม่ได้รับการพิจารณา กระทั่งมาเกิดเหตุเศร้าในครั้งนี้
ด้าน พ.ต.ท.ทะนงศักดิ์ แวงวรรณ สารวัตรจราจร สภ.บางบ่อ ในฐานะผู้บังคับบัญชาในสายงาน เปิดใจว่า ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องกับ หมวดพิเศษ เพราะก่อนเกิดเหตุ หมวดพิเศษ ยังมาเข้าเวรอำนวยความสะดวกตามปกติ และยังถ่ายรูปทำรายงานการปฏิบัติหน้าที่ ให้กับผู้บังคับบัญชาตรวจสอบ กระทั่งมาทราบเรื่องอีกครั้งช่วงสาย ยอมรับว่าตกใจ และเสียใจกับการสูญเสียหมวดพิเศษไป เพราะถือว่าเป็นนายตำรวจเก่าแก่ของ สภ.บางบ่อ
ส่วนเรื่องที่ หมวดพิเศษ ขอย้ายกลับบ้านเกิดนั้น เป็นความจริง มีการทำเรื่องเสนอขึ้นมาแล้ว สองถึงสามครั้งแต่ก็ยังไม่ได้รับการพิจารณา ในขณะที่การช่วยเหลือทางครอบครัว ทางตำรวจ สภ.บางบ่อ และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพในการรับศพ และตั้งบำเพ็ญกุศลตลอดจนฌาปนกิจ
เนื่องจากปัจจุบันทางครอบครัวมีเพียงแม่ของหมวดพิเศษ ที่ยังคงอยู่บ้านเกิด และแก่ชรา อีกทั้งหมวดพิเศษ ยังเป็นเสาหลักของครอบครัว แต่พอจากไป ก็ไม่มีใครที่จะเข้ามาดูแลจัดงานศพให้ เพื่อนร่วมงานจึงร่วมงานจัดงานให้สมเกียรติ ของตำรวจที่เสียชีวิตกะทันหันในขณะปฏิบัติหน้าที่
ส่วนเรื่องเสนอความช่วยเหลือทางครอบครัว ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อยู่ระหว่างดำเนินการ เบื้องต้นในวันนี้ (15 เม.ย.) จะมีการรับรดน้ำศพในเวลา 17.00 น. ที่วัดบางบ่อ จากนั้นจะตั้งบำเพ็ญกุศล สวดพระอภิธรรม