จับตา 'ทนายพัช' ฟ้องกลับ! 'บิ๊กโจ๊ก' ลั่นไม่หนักใจ ปมขอศาลออกหมายจับ
ถึงพริกถึงขิง จับตา 'ทนายพัช' ฟ้องกลับ ปมขอศาลออกหมายจับ 'บิ๊กโจ๊ก' ลั่นไม่หนักใจ ยันออกหมายเรียกตามพยานหลักฐาน ปทเอี่ยว แอม ไซยาไนด์
อัปเดต “บิ๊กโจ๊ก” ไม่หนักใจหากถูก "ทนายพัช" ฟ้องกลับ ยันออกหมายเรียกตามพยานหลักฐาน ย้ำพนักงานสอบสวนให้ความเป็นธรรม ไม่ใช่คู่ขัดแย้งใคร ระบุเตรียมทนายไว้ช่วยเหลือสื่อแล้ว เชื่อว่าสุดท้ายแล้วจะจำนนต่อพยานหลักฐานในชั้นศาล
ความคืบหน้าการดำเนินคดีกับทาง น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ หรือ ทนายพัช ล่าสุดทางด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าทนายคนดังกล่าวจะมีการดำเนินคดีกับตำรวจ ม.157 และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว ว่า เรื่องนี้ เป็นสิทธิของทุกคนหากจะฟ้องกลับ
ยืนยันว่าไม่ได้หนักใจอะไร และออกหมายเรียกไปตามพยานหลักฐานต่างๆที่ปรากฎ ซึ่งทางเราได้มีการเตรียมทนายความไว้คอยช่วยเหลือ นายรพี ชำนาญเรือ และตำรวจ รวมไปถึงสื่อมวลชน ถ้าหากจะต้องถูกฟ้องกลับไว้แล้ว
"ไม่รู้สึกอะไร ณ วันนี้ก็ทำตามกฎหมาย และได้ออกหมายเรียกให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา ในวันอังคารนี้ ถ้าหากครบกำหนดหมายเรียกก็จะนำเรื่องดังกล่าวเสนอศาลอาญา เพื่อ ขออำนาจศาลออกหมายจับ ยืนยันว่าผมและพนักงานสอบสวนทั้งชุดทำงานเป็นธรรมและไม่ใช่คู่ขัดแย้งของใคร ทำคดีอย่างตรงไปตรงมา ตามพยานหลักฐาน ซึ่งคดีนี้ ตำรวจสำนวนสรุปไปได้ถึง 90% แล้ว"
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกอีกว่า ตอนนี้เหลือเพียงเส้นทางการเงินอีก 7-8 บัญชี จาก 180 บัญชีที่ตรวจสอบทั้งหมด ซึ่งจะทำให้ทราบถึงที่มาของสารไซยาไนด์ และในวันศุกร์นี้จะขึ้นรูปคดีเตรียมสรุปสำนวนส่งให้พนักงานอัยการสั่งฟ้อง ขณะนี้ได้มีการเตรียมบุคคลที่จะขึ้นเบิกความกับทางศาลแล้ว ซึ่งเชื่อว่าสุดท้ายแล้วจะมีการรับสารภาพ เพราะจำนนต่อพยานหลักฐาน
เมื่อถามว่า สำหรับผู้ที่ถูกออกหมายเรียก มารับทราบข้อกล่าวหา แล้วทางตำรวจจะให้ประกันตัวหรือไม่นั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกว่า หากผู้ถูกออกหมายเรียกปรากฏตัวก็จะต้องดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาส่วนจะให้ประกันตัวหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับเงื่อนไขว่ามีความพยายามไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือไม่ ส่วนจะขอหมายขัง ตามป.วิอาญา 134 หรือไม่นั้น ก็มีหลักเกณฑ์อยู่แล้วตามกรอบของกฏหมายก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจ
สำหรับกรณีที่ทนายพัช ได้ให้สัมภาษณ์กับรายการโทรทัศน์แห่งหนึ่ง ระบุว่าศาลยกคำร้องขอหมายจับ เพราะหลักฐานไม่เพียงพอ พล.ต.อ.สุรเชรษฐ์ ยืนยันว่า หลักฐานเพียงพอ แต่ที่ศาลให้กลับไปออกเป็นหมายเรียก เพราะเป็นข้อหาเดียวกันกับรองอ๊อฟ จึงจะให้ความเป็นธรรมแบบเดียวกันที่ออกหมายเรียกก่อนเช่นกัน