จนท.เร่งตรวจสอบ รร.อ่างทอง มีเด็กต่างด้าว เพิ่มผิดปกติ หวั่นถูกล่อลวงมา
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสอบตรวจ รร.แห่งหนึ่งพื้นที่ จ.อ่างทอง มีเด็กต่างดาวเพิ่มผิดปกติ ทั้ง รร. มีนักเรียน 137 แต่เป็นคนไทยแค่ 7 คน หวั่นถูกล่อลวงมา หรือมีการเรียกรับผลประโยชน์
เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2566 ที่ จ.อ่างทอง เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา นายรักศักดิ์ เทียนไชย นายอำเภอป่าโมก พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง, เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดอ่างทอง, ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองอ่างทอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าโมก นำกำลังเข้าตรวจสอบภายในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.บางเสด็จ
หลังจากได้รับการประสาน จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจังหวัดอ่างทองว่า ที่โรงเรียนแห่งนี้ มีนักเรียนชนเผ่า เพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ ทั้ง ๆ ที่โรงเรียนแห่งนี้มี ผู้อำนวยการ 1 คน ครูประจำการ 1 คน ครูอัตราจ้าง 1 คน และเจ้าหน้าที่ธุรการ 1 คน
แต่กลับมีเด็กนักเรียนถึง 137 คน ซึ่งเป็นเด็กนักเรียนสัญชาติไทยเพียง 7 คนที่เหลืออีก 130 คนเป็นเด็กสัญชาติกัมพูชา และเมียนมา ไม่สามารถพูดหรือสื่อสารภาษาไทยได้
พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ไกรวีระเดชาชัย ผกก.สภ.ป่าโมก เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ เข้ามาตรวจสอบ จำนวนนักเรียนทั้งหมด 137 ราย มีเด็กนักเรียนสัญชาติไทย 7 ราย สัญชาติกัมพูชา ที่พ่อแม่ทำงานอยู่ในพื้นที่ 2 - 6 รายส่วนที่เหลืออีกกว่า 120 ราย จะต้องดำเนินการตรวจสอบ พิสูจน์สัญชาติ และมีการเดินทางเข้ามา ถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่ และมีการรับนักเรียนถูกต้อง ตามระเบียบของกระทรวงศึกษาหรือไม่
รวมถึงทาง พม.เข้ามาตรวจสอบว่า มีการถูกชักจูง ถูกล่อลวง หรือถูกบังคับขู่เข็ญ รวมถึงมีการเรียกรับผลประโยชน์ ในการนำเด็กนักเรียน ที่ไม่ใช่สัญชาติไทย เข้ามาเรียนที่นี่หรือไม่ โดยพนักงานสอบสวนจะสอบปากคำ ทั้งผู้อำนวยการโรงเรียน ครู คณะกรรมการสถานศึกษา เพื่อนำไปหารือว่า จะมีการดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ใดต่อไป
นายรักศักดิ์ เทียไชย นายอำเภอป่าโมก เปิดเผยว่า เบื้องต้นต้องดูแลเด็กก่อน เพราะเด็กเหล่านี้ มาด้วยความบริสุทธิ์ ต้องดูแลในเรื่องของการกินอยู่ให้ดีก่อน ซึ่งเด็กเหล่านี้มีปริมาณเยอะมาก และโรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนรัฐ ไม่สามารถนำเด็กชนเผ่ามาเรียนได้
โดยเฉพาะปีนี้ มีจำนวนมากจนผิดสังเกต ทั้ง ๆ ที่มีบุคลากรเพียง 4 คน และที่พักก็ไม่เหมาะสม ซึ่งหลังจากดูแลเด็กแล้ว ในส่วนของเรื่องการนำมา หรือข้อกฏหมายอื่น ๆ หากพบว่าผิด ก็ต้องดำเนินการตามกฏหมาย
ขณะที่ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามข้อเท็จจริงกรณีนี้ กับทาง น.ส.กัลยา ผู้อำนวยการโรงเรียน ปรากฏว่า ทางผู้อำนวยการปฏิเสธ การให้ข้อมูลในเรื่องนี้