งาน "SITE 2023" เคลื่อนไทยสู่ชาตินวัตกรรม นัดรวมพลเหล่านักรบเศรษฐกิจใหม่ 22-24 มิ.ย.นี้
NIA ผนึก 4 ภาคส่วน จัดงาน "SITE 2023" ขับเคลื่อนไทยสู่ชาตินวัตกรรม นัดรวมพลเหล่านักรบเศรษฐกิจใหม่ กลับมาเจอกันอีกครั้ง 22-24 มิ.ย.นี้
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาขน) หรือ NIA แถลงข่าวการจัดงาน “สตาร์ทอัพและอินโนเวชันไทยแลนด์ เอ็กซ์โป 2023” (STARTUP x INNOVATION THAILAND EXPO 2023: SITE 2023) งานมหกรรมนวัตกรรมและเครือข่ายสตาร์ทอัพไทยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ ภายใต้แนวคิด INNOVATION PARTNERSHIP - TOGETHER WE GROW ร่วมสร้าง “หุ้นส่วนนวัตกรรม” เพื่อนำไทยสู่ชาตินวัตกรรม ผนึกกำลัง 4 ภาคส่วนของประเทศ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้สตาร์ทอัพและผู้ประกอบการธุรกิจนวัตกรรม พร้อมรวมพลนักรบเศรษฐกิจใหม่อีกครั้งอย่างเต็มรูปแบบ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 22-24 มิถุนายน 2566 พร้อมเปิดให้เข้าร่วมฟรีทุกกิจกรรม
ดร. พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กล่าวว่า นับจากปี 2020 ที่ NIA ได้รวมการจัดสองงานยิ่งใหญ่ระดับประเทศ STARTUP THAILAND และ INNOVATION THAILAND EXPO เข้าด้วยกัน นับเป็นการผนึกกำลังครั้งสำคัญของเหล่าสตาร์ทอัพและนวัตกรชั้นนำของไทย มาร่วมสร้างโลกนวัตกรรมเสมือนจริง (Virtual World) ครั้งแรกของประเทศ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ประเทศผ่านพ้นจากวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และเพื่อปรับกระบวนทัศน์ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมสำหรับรับมือกับภาวะวิกฤต ต่อมาในปี 2021 งาน Startup x Innovation Thailand Expo (SITE) ได้มุ่งเน้นการถ่ายทอดแนวทางการส่งเสริม พัฒนา และสร้างโอกาสการเติบโตในเทคโนโลยีเชิงลึก (Deep Tech) เพราะเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีเชิงลึกจะเป็นอาวุธสำคัญในการต่อยอดนวัตกรรมและเทคโนโลยีอื่น เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวสู่โลกอนาคตได้อย่างทัดเทียมประเทศชั้นนำของโลก จนมาถึงปี 2022 ที่แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดี แต่ยังไม่สามารถวางใจได้เต็มร้อย งาน SITE จึงเริ่มสร้างสะพานเชื่อมผู้คนในแวดวงนวัตกรรมจากประเทศไทยและทั่วโลกมาเจอ และมีปฏิสัมพันธ์กันอีกครั้ง เพื่อรองรับการเปิดเมืองหลังวิกฤตโควิดคลี่คลาย
หลังจากงาน SITE 2022 เราได้เห็นการพัฒนาศักยภาพด้านนวัตกรรมของไทยเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และหลากหลายสาขามากขึ้น ผลสำเร็จของงาน SITE2022 มีส่วนส่งเสริมให้ไทยมีระบบนิเวศเหมาะกับการลงทุนด้านนวัตกรรมยิ่งขึ้นด้วย เราพบว่าแทบทุกองค์กรกระโดดลงมาทำธุรกิจเชิงลึกเพิ่มขึ้น กรุงเทพมหานครกลายเป็นเมืองที่ดึงดูดต่างชาติให้เข้ามาจัดตั้งธุรกิจ มี Digital Nomad เป็นอันดับ 2 ของโลก เกิดการตื่นตัวของมหาวิทยาลัยที่มีหน่วยบ่มเพาะ และจัดตั้งกองทุนเพื่อส่งเสริมสตาร์ทอัพ รวมถึงผลักดันให้มีกฎเกณฑ์และกฎหมายที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจสตาร์ทอัพมากขึ้น และการลงทุนในสตาร์ทอัพยังคงคึกคักอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการผลักดันการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐที่นำไปสู่การพัฒนาบริการของภาครัฐที่ดีขึ้น เกิดการลงทุนในสตาร์ทอัพทั้งนักลงทุนอิสระและบริษัทขนาดใหญ่ เพื่อดึงดูดการลงทุนในระดับสากล และสุดท้ายคือการผลักดันให้เกิด พรบ. ส่งเสริมสตาร์ทอัพ
จะเห็นได้ว่าภายใต้สภาวะความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน สิ่งหนึ่งที่อยากเห็นสังคมไทยมีการเปลี่ยนแปลงคือ Innovation Mindset หรือการมีทัศนคติที่ดีต่อนวัตกรรม คือการพร้อมรับความท้าทายและการเปลี่ยนแปลง การมองหาโอกาสและแนวทางใหม่จากความร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อสร้างนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ และการเร่งเสร้างการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เกิดการใช้และขยายผลนวัตกรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องสร้างและปลูกฝังให้กับหน่วยงานและบุคลากร ทั้งในระดับภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ตลอดจนภาคประชาชน เพื่อให้สังคมไทยเป็นสังคมที่เปิดรับนวัตกรรมและพร้อมต่อความเปลี่ยนแปลงในอนาคต ไปจนถึงการร่วมมือกันสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับโลก”
ดังนั้น งาน SITE ในปีนี้ คือการกลับมาอีกครั้งของอีเว้นท์เต็มรูปแบบ เป็นการกลับมาของงาน Tech Conference ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมหกรรมนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี ที่รวมเหล่านักรบเศรษฐกิจใหม่ทั้งรุ่นใหญ่รุ่นเล็ก กูรูด้านนวัตกรรมจากทั่วโลก ผู้ประกอบการธุรกิจนวัตกรรม นักลงทุน ภาครัฐ ภาคเอกชน ภายใต้แนวคิด INNOVATION PARTNERSHIP - TOGETHER WE GROW ร่วมสร้าง “หุ้นส่วนนวัตกรรม” เพื่อนำไทยสู่ชาตินวัตกรรม เป็นความร่วมมือทางนวัตกรรมครั้งสำคัญของ 4 ภาคส่วน ได้แก่ ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา และภาคประชาสังคม เพื่อรองรับการเติบโตของสตาร์ทอัพและธุรกิจนวัตกรรม สร้างความเข้มแข็งในระบบนิเวศนวัตกรรมไทยและขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นชาตินวัตกรรม”
ภายในงานประกอบด้วย 4 กิจกรรมหลัก คือ 1) FORUM จากวิทยากรระดับท๊อปทั้งชาวไทยและต่างประเทศกว่า 20 ท่าน ตลอด 3 วันเต็ม ภายใต้ 3 หัวข้อหลัก คือ BRIDGING PUBLIC & PRIVATE PARTNERSHIP, ACCELERATING INNOVATION BUSINESS & PARTNERSHIP และ HACKING FOR NEW INVESTMENT & GROWTH MODEL ซึ่งประกอบด้วยหัวข้อสัมมนาที่น่าสนใจในหลากหลายประเด็น กว่า 30 หัวข้อ เช่น
“Digital Innovation in Public Sector - What made Estonia becoming a leader in digital living” โดย Mr. Siim Sikkut, Former Chief Information Officer, Government of Estonia
"นวัตกรรมด้านสังคมเพื่อโลกในอนาคต” (Social Innovation: Shaping the Future) โดย Mr. Renaud Meyer, Resident Representative, UNDP
ความคิดสร้างสรรค์และทุนทางวัฒนธรรม : ขุมพลังขับเคลื่อนนวัตกรรมไทย (Creativity & Cultural Capital as Thailand's Innovation Powerhouse
Unlocking the Power of Festivals: Driving Economic Growth and Cultural Engagement โดย สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)
“Predicting the Unpredictable for Resilient Transformation” โดย Prof. Rene Rohrbeck, Director of Chair for Foresight, Innovation and Transformation, EDHEC Business School
Keys to success for innovative organizations “ถอดรหัสความสำเร็จองค์กรนวัตกรรม”
การเชื่อมโยงกลไกสนับสนุนทุนนวัตกรรมของภาครัฐสำหรับผู้ประกอบการไทย”
2) BUSINESS OPPORTUNITY โอกาสในการพบปะ แลกเปลี่ยนความรู้ ต่อยอดธุรกิจ ตลาดสินค้านวัตกรรมจากสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการธุรกิจนวัตกรรมชั้นนำกว่า 250 ราย พร้อมด้วยกิจกรรม PITCHING เพื่อนำเสนอแผนธุรกิจจากสตาร์ทอัพและธุรกิจนวัตกรรมกว่า 50 ราย, INTERNATIONAL ZONE ของหน่วยงานต่างชาติกว่า 10 หน่วยงานจาก 5 ประเทศ กิจกรรมจับคู่ธุรกิจใน BUSINESS MATCHING และ NETWORKING สานสัมพันธ์และสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ 3) SHOW การแสดงนวัตกรรมที่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงในอนาคต และ 4) AWARD พิธีประกาศผลรางวัลอันทรงเกียรติให้แก่ผู้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาระบบนิเวศสตาร์ทอัพและเอสเอ็มอีของประเทศ และเสริมสร้างศักยภาพทางธุรกิจให้แก่สตาร์ทอัพและเอสเอ็มอีให้ก้าวสู่ตลาดต่างประเทศ พร้อมด้วยรางวัลสำหรับนวัตกรรมรับมือวิกฤตเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
ภายในงานแถลงข่าวยังได้จัดการเสวนาจาก 4 หน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐ เอกชนและสมาคม โดยคุณอารีย์พันธ์ เจริญสุข รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) กล่าวว่า “กพร. ได้รวบรวมนวัตกรรม 11 หน่วยงานภาครัฐเพื่อจัดนิทรรศการภายในงาน SITE2023 รวมถึงมีเวทีบรรยายประเด็นที่น่าสนใจ เช่น “Better Data, Better Decision” ที่ทำให้เห็นว่าปัจจุบันดาต้าจะเป็นตัวเปลี่ยนแปลงการทำงานของภาครัฐและจะส่งผลไปถึงภาคเอกชนด้วย”
คุณวรกาญจน์ โกศลพิศิษฐ์กุล ผู้อำนวยการกองเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) กล่าวว่า “บทบาทหน้าที่หลักของ BOI คือการเป็นหน่วยงานส่งเสริมการลงทุน เราได้ออกมาตรการส่งเสริมสตาร์ทอัพโดยเฉพาะ ภายใต้ พรบ. การเพิ่มขีดความสามารถของประเทศในอุตสาหกรรมเป้าหมาย เราต้องการให้ระบบนิเวศของสตาร์ทอัพมีความเข้มแข็ง เพื่อให้เกิดเป็นฐานรากของเศรษฐกิจต่อไปในอนาคต และเป็นเสาหลักในการที่จะพัฒนาเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืนด้วยนวัตกรรม ในงาน SITE2023 เราจะรวบรวมเป็นพื้นที่การเรียนรู้ สตาร์ทอัพ หรือผู้ประกอบการก็สามารถเข้ามาขอคำแนะ และคำปรึกษาได้”
คุณศุภชัย สัจไพบูลย์กิจ กรรมการคณะกรรมการส่งเสริมนวัตกรรมและวิจัย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “หอการค้าไทยมีพันธกิจสำคัญในการส่งเสริมผู้ประกอบการร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ โดยยึดหลัก CCS คือ Connect, Competitive และ Sustainable สำหรับงาน SITE2023 หอการค้าได้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมผู้ประกอบการที่มาจากความร่วมมือของหน่วยงานเป็นเมล็ดพันธุ์ในการบ่มเพาะ และกลุ่มเอสเอ็มอีที่ทรานสฟอร์มและปรับ mindset ตัวเองเข้าสู่โหมดสตาร์ทอัพซึ่งจะมาร่วมแสดงออกบูธในงานที่ SITE 2023 ด้วย”
และ คุณประภาศิริ อรรถจินต์ Head of Ecosystem บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด กล่าวว่า ”เราเชื่อมั่นว่าสตาร์ทอัพและนวัตกรรมจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่จะผลักดันให้เศรษฐกิจไทยก้าวไปสู่ 4.0 กรุงศรี ฟินโนเวต เรามีภารกิจที่จะช่วยส่งเสริมระบบนิเวศของสตาร์ทอัพของไทยและของภูมิภาคด้วย นอกจากเรื่องของเงินทุนในการสนับสนุนแล้ว อีกส่วนหนึ่งก็คือเรื่องหุ้นส่วน หรือ partnership ซึ่งสำคัญมากในการที่จะต่อยอดให้สตาร์ทอัพเติบโตได้”
นอกจากนี้ ยังมี การเปิดตัว Startup Universe 2023 Update เพื่อแสดงถึงโอกาสและการเข้มแข็งของระบบนิเวศสตาร์ทอัพของไทย งาน SITE 2023 พร้อมกลับมาให้ทุกคนได้พบปะกันอีกครั้ง NIA จึงอยากเชิญชวนผู้ที่สนใจด้านความก้าวหน้าทางนวัตกรรม บุคลากรภาครัฐ ผู้ประกอบการภาคเอกชน ทั้งองค์กรขนาดใหญ่ SMEs และ Startups บุคลากรภาคสถาบันการศึกษา กลุ่มนักลงทุน บริษัทร่วมลงทุน เข้าร่วมชมงาน STARTUP THAILAND x INNOVATION THAILAND 2023 ระหว่างวันที่ 22-24 มิถุนายนนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยลงทะเบียนได้ที่ site/nia.or.th