สกพ. เร่งถกแก้ปัญหาเด็กฝาก โครงการ กอส. เร่งสร้างความเชื่อมั่น ปชช.
ผบช.สกพ. ร่วมระดมสมองแก้ปัญหาเด็กฝากโครงการ กอส. ยอมรับไม่สามารถปิดกั้นความคิดได้ แต่จะพยายามอุดช่องว่าง เร่งปรับปรุงระเบียบ ให้สอดคล้อง พ.ร.บ.ตำรวจใหม่ฯ พร้อมเน้นคนใน เพื่อสร้างขวัญกำลังใจคนทำงาน
เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2566 ที่ตร. พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล (ผบช.สกพ.) เปิดเผยถึงกรณี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งให้ปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบการรับบุคคลเป็นตำรวจสัญญาบัตร ให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.ตำรวจใหม่ พร้อมเน้นคนในเป็นพิเศษ เพื่อขวัญและกำลังใจ รวมถึงความเชื่อมั่นของประชาชน หลังมีประเด็นข้อสงสัยของสังคม เกี่ยวกับกรณีของ ร.ต.อ.หญิง อาทิติยา และข้าราชการตำรวจรายอื่นๆ ของหลักสูตร กอส.
โดยย้ำว่า ที่ผ่านมาตัวหลักสูตร กอส. และหลักสูตรอื่นๆ ในการรับคนเป็นตำรวจไม่ได้มีปัญหา แต่หลังจากนี้คณะทำงานที่มี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.ฝ่ายบริหาร เป็นประธานก็จะมีการปรับปรุงกฎระเบียบ การรับบุคคลเข้ามา รวมถึงขั้นตอนในการสอบแข่งขัน ให้มีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ จะมุ่งเน้นเรื่องของบุคคลภายใน ที่มีคุณวุฒิตรงกับสายงาน หรือหน่วยใดที่มีความต้องการเป็นพิเศษเฉพาะทาง
พล.ต.ท.ยิ่งยศ เปิดเผยว่าส่วนกรณีผู้กองแคท นั้น เลขานุการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการร้องขอตำแหน่ง เพื่อบรรจุคุณวุฒิ ด้านสังคมศาสตร์ ไม่ใช่นิเทศศาสตร์ แต่นิเทศศาสตร์อยู่ในสายงานที่คุณสมบัติตรงตามที่ต้องการ ผู้กองแคทจึงมีสิทธิ์ ที่จะเข้ามาทุกประการ ย้ำว่าไม่ใช่เพราะเป็นคุณวุฒิขาดแคลน เพราะตามขั้นตอนหากต้นสังกัดหน่วยงานใด ที่ต้องการบุคคลากรตรงตามสายงานเฉพาะ จะต้องทำเรื่องเสนอมายัง ผบ.ตร. เพื่อทำเรื่องก่อนพิจารณาอนุมัติ และส่งกลับไปยังต้นสังกัด เพื่อเปิดรับบุคคลภายนอก ก่อนที่จะส่งเรื่องไปยังสำนักงานกำลังพล เพื่อบรรจุตามขั้นตอน เนื่องจากสำนักงานกำลังพล ไม่มีสิทธิ์พิจารณารับตำแหน่งนั้นๆ ได้เอง
พล.ต.ท.ยิ่งยศ เปิดเผยอีกกรณีที่มีนายตำรวจระดับ ผู้กำกับ ออกมาตัดพ้อว่า ตนเองเข้ามาในฐานะรุ่นพี่ กอส.ปัจจุปันดำรงตำแหน่ง ผกก.แต่มีผู้ใต้บังคับบัญชาระดับ รองสว.จำนวน 3-4 นาย ที่เป็นตำรวจในโครงการ กอส. กลับไม่มาทำงาน อีกทั้งยังยอมส่งเบี้ยเลี้ยงให้ผู้บังคับบัญชาบางส่วน แลกกับการไม่ต้องมาทำงานว่า เรื่องดังกล่าว เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้กำกับ ที่เป็นหัวหน้าหน่วย สามารถดำเนินการ โดยไม่ต้องเกรงกลัวว่าเรื่องดังกล่าวจะผิดระเบียบ เพราะทำให้ต้นสังกัดได้รับความเดือดร้อน แต่หากเป็นถึงผู้กำกับ แต่ปล่อยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ก็จะบกพร่องในหน้าที่
ผบช.สกพ. กล่าวต่ออีกว่า ส่วนที่มีการมองว่าหลักสูตรต่างๆ มีช่องโหว่ เป็นช่องว่างทำให้มีการฝากเด็กเข้ามาเป็นตำรวจนั้น ยอมรับว่าทุกคนมีสิทธิ์คิดได้ แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยคณะทำงานชุดนี้ ก็จะหาแนวทางในการป้องกัน ไม่ให้คนคิดว่ามีช่องโหว่ดังกล่าว โดยเฉพาะการล็อกสเปกคุณวุฒิให้ตรงกับตำแหน่งที่ต้องการ เพื่อลดข้อครหา ว่ารับบุคคลที่เป็นเด็กฝากเข้ามาเป็นตำรวจ