2 สาวอุดร-ยโสธร เล่าหมดถูกนายหน้าหลอก ไปค้ากามที่อินเดีย
สาวอุดรธานีและสาวยโสธร ร้องข้ามประเทศ วอนตำรวจและทางการไทย “ช่วยหนูกลับบ้านเกิดด้วย” เล่าหมดหลังถูกหลอกไปค้ากามที่ประเทศอินเดีย
ช่วงเย็นที่ผ่านมา ( 26 มิ.ย. 66 ) ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจาก นายนพพร อ่วมนุสนธิ์ อาชีพทนายความ ในพื้นที่เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ว่ามีหญิงไทย 2 คน ทราบชื่อคือ นางสาวเมย์ (นามสมมติ) อายุ 32 ปี ชาวจังหวัดอุดรธานี และ นางสาวดา (นามสมมติ) อายุ 30 ปี ชาวจังหวัดยโสธร โทรศัพท์ข้ามประเทศ จากประเทศอินเดีย เพื่อมาขอความช่วยเหลือ โดยระบุว่า ถูกหลอกและบังคับให้ค้าประเวณี หากไม่ทำตามก็จะถูกทำร้าย ด้วยการตบตี เข็มขัดฟาดหลัง โดยทั้ว 2 ถูกยึดพาสสปอร์ต เพื่อไม่ให้เดินทางกลับประเทศบ้านเกิด
ทั้งนี้ หลังรับการร้องเรียน ทีมข่าวจึงได้ขอเบอร์โทรศัพท์จากทนายความ ทำการติดต่อไปสอบถามนางสาวเมย์ อายุ 32 ปี ชาวจังหวัดอุดรธานี และ นางสาวดา อายุ 30 ปี ที่ประเทศอินเดีย โดยเธอทั้ง 2 เล่าว่า ได้เดินทางไปประเทศอินเดีย เพื่อทำงานเป็นแม่บ้านโรงแรม ในเมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย ตามคำชักชวนของ นางสาวแอปเปิ้ล อายุประมาณ 30 ปี โดยการันตี รายได้ เดือนละ 60,000 - 70,000 บาท ( 100,000 150,000 รูปี ) ซึ่งมีการตกลงทำงานกัน 3 เดือน ดังนั้น จึงตัดสินใจชักชวนกันซื้อตัวเครื่องบิน เดินทางไปประเทศอินเดียตั้งแต่วันที่ 4 มิ.ย.66 โดยลงเครื่องที่ เมืองนิวเดลี
จากนั้น นางสาวเปิ้ลกับสามีชาวอินเดีย ได้เดินทางมารับที่สนามบิน ก่อนจะพาไปพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองนิวเดลี 1 คืน แล้ววันถัดมา ( 5 มิ.ย. 66 ) ก็ขึ้นเครื่องบินเดินทางต่อมาที่ เมืองวิศาขาปัตตนัม ทางตอนใต้ ของประเทศอินเดีย จากนั้นก็พาไปเข้าพักที่ โรงแรมออเร้น โฮเต็ล โดยสามีของนางสาวแอปเปิ้ล ได้บอกว่า ให้อยู่แต่ภายในห้อง ห้ามออกไปไหน พร้อมทั้งยึดพาสสปอร์ตเอาไว้ โดยนระบุว่า จะมีคนคอยนำข้าวและน้ำ มาส่งให้
ตอนนั้นยอมรับว่าตนทั้ง 2 คน เริ่มเอะใจ ประกอบกับ ตอนแรก มีการตกลงกันว่าจะพาไปทำงาน ที่เมืองมุมไบ แต่กับพามาอีกเมือง และ สุดท้ายตนทั้ง 2 คน ก็ถูกบังคับให้ค้าประเวณี จะขัดขืนก็ทำไม่ได้ เพราะไม่ใช่บ้านเมืองตัวเอง จะขอความช่วยเหลือ ก็ไม่รู้จะพึ่งใคร จึงพากอดคอร้องไห้กัน 2 คน
จนกระทั่งวันที่ 8 มิ.ย. เป็นวันที่เลวร้ายที่สุด เนื่องจาก ถูกคนอินเดีย รูปร่างอ้วนท่วม ตัวสูงใหญ่ บังคับให้ตนทั้ง 2 คนไปทำงาน แต่เมื่อปฏิเสธ ก็ถูกตบหน้า แล้วใช้เข็มขัดฟาด ตามตัว และหลังไม่ยั้ง ขณะนั้นยอมรับเลยว่า ตัวสั่น ทำอะไรไม่ถูก คิดว่าต้องเอาชีวิตมาทิ้งในต่างประเทศ ดังนั้น จึงตัดสินใจ หาทางหลบหนี พร้อมทั้งค้นหา ข้อมูลคนไทย ที่อาศัยในประเทศอินเดีย ให้ช่วยประสานตำรวจอินเดีย
จนกระทั่งช่วงเช้าของวันที่ 8 มิ.ย. ได้พี่ผู้ชายคนหนึ่งเป็นคนไทย ได้ตอบข้อความแชทกลับมา ตนจึงเล่าทุกอย่างให้ฟัง พร้อมกับขอร้องให้ช่วยหาทางพาออกจากขุมนรกแห่งนี้ กระทั่งตกบ่ายก็มีตำรวจอินเดีย เข้ามาช่วย และพาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ก่อนจะพามาพักอาศัย ที่หอพักแห่งหนึ่ง คล้ายกับหอพักนักเรียน โดยมีตำรวจอินเดีย มาคอยเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง จนเวลาผ่านมา 18 วันแล้ว ก็ยังไม่ได้เดินทางกลับประเทศไทย ตอนนี้รู้สึกกังวลมาก ทั้งกลัวและคิดถึงบ้าน จึงตัดสินใจ ติดต่อไปยัง นายนพพร อ่วมนุสนธิ์ ทนายความ ในพื้นที่เมืองพัทยา ก่อนจะได้รับการประสาน ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวดังกล่าว
เบื้องต้นผู้สื่อข่าว ได้ส่งข้อมูลทั้งหมด ไปยัง มูลนิธิประวีณา สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และ ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ เหยื่อสาวทั้ง 2 คนแล้ว ซึ่งต้องคอยติดตามกันว่า จะมีการช่วยเหลืออย่างไรต่อไป