กอนช. เตรียมตั้งศูนย์ส่วนหน้า พร้อมรับมือน้ำท่วมพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง
กอนช. ลงพื้นที่เขื่อนบางลาง จ.ยะลา ระดมหน่วยงานซักซ้อมแผนเผชิญเหตุตั้งศูนย์ส่วนหน้าฯ ภาคใต้ตอนล่าง พร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัยในช่วงฤดูฝนปีนี้อย่างเป็นรูปธรรม ป้องกันผลกระทบต่อประชาชนได้ทันท่วงที
วันนี้ (20 ก.ค. 66) นายบุญสม ชลพิทักษ์วงศ์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะเลขานุการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุตั้งศูนย์ส่วนหน้า และสร้างความเข้มแข็งเครือข่ายภาคประชาชน ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ณ เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา โดยมีผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) หรือ สสน. กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กรมประชาสัมพันธ์ และหน่วยทหาร เข้าร่วมการฝึกในครั้งนี้
รองเลขาธิการ สทนช. กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในวันนี้เป็นครั้งที่ 4 จากทั้งหมด 6 ครั้ง โดย กอนช. ได้ตระหนักถึงการเตรียมความพร้อมรับมือฤดูฝน ปี 2566 เป็นอย่างมาก เนื่องจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ในปีที่ผ่านมา ที่เกิดฝนตกหนักสะสมจนทำให้หลายพื้นที่ประสบปัญหาอุทกภัย จึงได้มีการบูรณาการหน่วยงานเพื่อเตรียมการบริหารจัดการน้ำ และได้จัดตั้งศูนย์ส่วนหน้าภาคกลาง ที่ จ.ชัยนาท ศูนย์ส่วนหน้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ จ.อุบลราชธานี และศูนย์ส่วนหน้าภาคใต้ ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากหน่วยงานต่างๆ จึงนำมาสู่การขยายผลทำให้เกิดเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการรับมือฤดูฝนในปีนี้ด้วย ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2566 ทั้ง 12 มาตรการ โดยการจัดกิจกรรมครั้งนี้จะเป็นการขับเคลื่อนการดำเนินงานในมาตรการที่ 8 ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ ตั้งศูนย์ส่วนหน้าก่อนเกิดภัยและฟื้นฟูสภาพให้กลับสู่สภาพปกติ (ตลอดช่วงฤดูฝน) และมาตรการที่ 10 การเสริมสร้างความเข้มแข็งเครือข่ายภาคประชาชนในการแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์ระหว่างภาครัฐกับประชาชนในพื้นที่
ทั้งนี้ สทนช. ได้ร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าร่วมการฝึกเตรียมความพร้อม ด้านบุคลากร ทรัพยากร สถานที่ สิ่งอำนวยสะดวกต่างๆ สำหรับพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัยในช่วงฤดูฝนนี้ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติจนเห็นผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อร่วมซักซ้อมการปฏิบัติตามมาตรการให้สามารถติดตาม ประเมิน บริหารจัดการ และคาดการณ์สถานการณ์น้ำ รวมถึงแจ้งเตือน และให้ความช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบอย่างมีความเป็นเอกภาพ ทันต่อสถานการณ์ รวมทั้งจะเกิดประโยชน์ร่วมกันในการปฏิบัติงาน การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เกิดทักษะ และประสบการณ์ในการปฏิบัติงานของหน่วยงานเครือข่ายด้วย
โดยรูปแบบการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุรับมือสถานการณ์อุทกภัยในครั้งนี้ เป็นการฝึกซ้อมแผนบนโต๊ะ (Table Top Exercise : TTX) จำลองสถานการณ์เกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดยะลา มีขั้นตอนการฝึกประกอบด้วย การจำลองการจัดตั้งศูนย์ส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย และใช้กลไกการปฏิบัติตามโครงสร้างของศูนย์ส่วนหน้า รวมทั้งการเตรียมความพร้อมทั้งเครื่องจักรเครื่องมือแผนเผชิญเหตุ โดยแบ่งการทำงานเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ ส่วนอำนวยการ ส่วนปฏิบัติการ ส่วนสนับสนุน และส่วนประชาสัมพันธ์ ทั้งนี้ การฝึกซ้อมดังกล่าวได้ดำเนินการไปแล้ว 3 ครั้ง ครั้งแรกในพื้นที่ภาคเหนือที่ จ.เชียงราย ครั้งที่ 2 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ จ.ขอนแก่น ครั้งที่ 3 ภาคใต้ที่ จ.เพชรบุรี และจะดำเนินการต่อเนื่องอีก 2 ครั้ง ได้แก่ จ.ลพบุรี และ จ.ปราจีนบุรี ในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ ให้ครบทั้ง 6 ภูมิภาค ครอบคลุมทั้งประเทศ
“สำหรับสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคใต้ มีแหล่งน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 2 แห่ง ปัจจุบันมีปริมาตรน้ำรวม 4,065 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 57 เทียบกับระดับเก็บกัก หรือมีปริมาตรน้ำใช้การ 2,437 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 45 เทียบกับความจุใช้การ ซึ่งภาพรวมยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยอ่างเก็บน้ำเขื่อนบางลาง ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 955 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 66 เทียบกับระดับเก็บกัก โดยการประเมินพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยปี 2566 นี้ จากการวิเคราะห์ฝนคาดการณ์ ONEMAP พบว่า ภาคใต้มีพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย ในเดือนกรกฎาคม จำนวน 3 จังหวัด ได้แก่ จ.กระบี่ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี เดือนสิงหาคม จำนวน 7 จังหวัด ได้แก่ จ.นครศรีธรรมราช พังงา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี ชุมพร สตูล และตรัง เดือนกันยายน จำนวน 5 จังหวัด ได้แก่ จ.พังงา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี ชุมพร และสตูล เดือนตุลาคม จำนวน 6 จังหวัด ได้แก่ จ.พังงา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี ชุมพร สงขลา และสตูล นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยในช่วงเดือนพฤศจิกายน จำนวน 10 จังหวัด และเดือนธันวาคม อีกจำนวน 8 จังหวัด ทั้งนี้ พื้นที่เสี่ยงอุทกภัยจะมีการปรับปรุงเป็นประจำทุกเดือนเพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน จึงขอความร่วมมือประชาชนให้ติดตามข่าวสารและสถานการณ์น้ำจาก กอนช. อย่างใกล้ชิด เพื่อเป็นการเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น สามารถป้องกันและลดผลกระทบได้อย่างทันท่วงที” รองเลขาธิการ สทนช. กล่าว