ศาลออกหมายจับ 6 ราย คดีพ่อฆ่ายกครัว 3 ศพ พร้อมเจ้าของบัญชีม้า
ศาลจังหวัดสมุทรปราการ อนุมัติหมายจับ พ่อฆ่ายกครัว 3 ศพพร้อม 5 มิจฉาชีพ เจ้าของบัญชีม้า ต้นเหตุคดีสลดสะเทือนขวัญ ด้าน รอง ผอ.สพฐ.ปากน้ำ แจงเรื่องเงินบริจาคยอดเงินทะลุ 2.39 ล้านบาท ยืนยันเงินทุกบาทยังอยู่ครบ หากเหลือจากช่วยงานศพ เงินทั้งหมดจะนำไปบริจาคให้กับโรงพยาบาล
วันนี้ (29 ส.ค. 66) พล.ต.พัลลพ แอร่มหล้า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีสลด ฆ่ายกครัว 3 ศพ จากความเครียดปัญหาหนี้สิน และถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเงินไปจำนวน 1.7 ล้านบาท สุดท้ายหาทางออกไม่ได้ ตัดสินใจจบชีวิตคนในครอบครัว โดยหัวหน้าครอบครัว พ่อวัย 41 ปี ใช้มีดทำร้ายภรรยา และลูกชายอีก 2 เสียชีวิต ก่อนที่จะพยายามทำร้ายตัวเองเพื่อจบชีวิต แต่ไม่สำเร็จ
ล่าสุด ศาลจังหวัดสมุทรปราการ อนุมัติหมายจับผู้ต้องหา ที่มีผู้ส่วนเกี่ยวข้องกับคดีรวมทั้งสิ้น 6 ราย โดยเป็นบัญชีม้าแถวแรก ที่ตายโอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ 5 ราย และหมายจับ นายสาณิช ผู้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดทำร้ายภรรยา และลูกชายเสียชีวิต โดยถูกตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ส่วนรายละเอียดอื่นนั้น อยู่ระหว่างการสอบพยานเพิ่มเติม
ทั้งนี้ เมื่อคืนที่ผ่านมา ญาติของนางวิภาพร ผู้เสียชีวิต เข้าแจ้งความว่าถูกญาติของนายสาณิช ผู้ก่อเหตุ ไม่ทำตามข้อตกลง เรื่องสถานที่ตั้งศพบำเพ็ญกุศล ส่วนกรณีที่ญาติของนายสาณิช ผู้ก่อเหตุ นำศพไปที่จังหวัดกำแพชรนั้น เป็นความยินยอมของน้องสาวของผู้เสียชีวิต
ขณะที่ช่วงสายวันนี้ นางนิภาลัย (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี พร้อมเพื่อนร่วมงานผู้เสียชีวิต 7 คน เดินทางเข้าแสดงความบริสุทธิ์กับทางเจ้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว ว่า พวกตนเป็นเพียงเพื่อนร่วมงานที่ให้ยืมเงินเท่านั้น ไม่ใช่กลุ่มเงินกู้นอกระบบ
นางนิภาลัย เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2566ที่ผ่านมา น.ส.วิภาพร ผู้เสียชีวิต ได้ส่งข้อความมาขอยืมเงินตนว่า ติดปัญหาเรื่องบ้านขอยืมเงิน 300,000 บาท แต่ตนให้ยืมไปแค่ 100,000 บาท ส่วนคนอื่นก็ให้ยืมรายละ 100,000-200,000 บาท สูงสุดคือพี่ที่ทำงานอีกคนที่ถูกยืมไป 900,000 แสนบาท รวมทั้งหมดที่มาวันนี้ 1.39 ล้านบาท ซึ่งการให้ยืมเงินไม่มีการทำสัญญาเงินกู้ ที่ให้ยืมเพราะรู้จักกันมานานเป็นสิบปี หลังจากที่ให้ยืมไปแล้ว ทางผู้ตาย ก็โทรมาพูดคุยเรื่องที่ถูกแอปฯ โกงไป ตนก็มีทวงถามไปว่าจะใช้เงินคืนตนยังไง ทางผู้ตายก็ร้องไห้ขอโทษตน
ขณะที่ภายหลังเกิดเหตุ ฆ่ายกครัว ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งบุตรชายของผู้เสียชีวิต เรียนอยู่ได้เปิดบัญชีเพื่อขอรับเงินบริจาคจากประชาชนทั่วไป โดยมีการระบุว่าทางครอบครัวไม่มีเงินค่าทำศพจึงขอความช่วยเหลือในการขอรับบริจาคเงิน
ดร.วัชรินทร์ โตขาว รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสมุทรปราการ ในฐานะผู้กำกับดูแลเรื่องเงินบริจาคของโรงเรียนบางแก้วประชาสรรค์ เปิดเผยว่า การเปิดรับบริจาคเงินช่วยเหลือผ่านบัญชีของทางโรงเรียน ให้กับเด็กชาย ที่เสียชีวิตทั้งสองราย พบว่ามียอดเงินบริจาคสูงถึง 2.39 ล้านบาท
ดร.วัชรินทร์ กล่าวว่า เดิมทีตนได้รับรายงานจากทางโรงเรียนว่าคงจะต้องช่วยเหลือ เปิดรับเงินบริจาค ฆ่ายกครัว เรื่องการจัดงานศพ เพราะทางนักเรียนไม่มีญาติ หลังจากนั้น ตนจึงเดินทางไปที่โรงพัก เพื่อไปพบกับพี่ชายของผู้ก่อเหตุ ซึ่งก็ติดต่อทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อให้พูดคุยกันให้เข้าใจว่าจะนำศพไปไว้วัดไหน โดยทางโรงเรียนจะเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด
ตอนนี้เงินบริจาคอยู่ในบัญชีของโรงเรียนยังไม่มีการเบิกไปใช้จ่ายอะไรทั้งสิ้น ยังคงรอดูท่าทีไปก่อนเพราะอยากให้ญาติทั้งสองฝ่ายตกลงกันให้ได้ก่อนว่าเรื่องศพจะจัดการยังไงกันแน่ เพราะทราบมาว่าทางญาติที่จ.กำแพงเพชร ดำเนินการเผาศพทั้ง 3 ในวันเสาร์ที่ 2 ก.ย นี้ ส่วนเรื่องเงินบริจาค ฆ่ายกครัว ก็ยังไม่มีญาติฝ่ายใดติดต่อเข้ามาสอบถาม ซึ่งหากญาติยืนยันว่า จะทำพิธีที่จ.กำแพงเพชร ตนก็จะเดินทางไปร่วมงาน และพูดคุยเรื่องการจัดงานด้วย
ดร.วัชรินทร์ กล่าวว่า หลังจากงานศพก็จะนำเงินบริจาคที่เหลือจากการจัดการศพ เบื้องต้นคาดว่าจะนำเงินไปบริจาคให้กับโรงพยาบาลเพื่อให้ทุกคนได้สบายใจ และอุทิศบุญกุศลให้กับผู้เสียชีวิต ตามจุดประสงค์ที่คนบริจาคเข้ามาเพื่อทำบุญ โดยทุกขั้นตอนทางโรงเรียนบางแก้วประชาสรรค์ จะเป็นผู้ดำเนินการเองทั้งหมด
ทั้งนี้ ยอมรับว่าทางโรงเรียนมีเวลาคิดเรื่องนี้น้อยไปหน่อย ยังกังวลเรื่องข้อกฎหมาย ตอนนี้ก็อยากให้ประชาชน มั่นใจว่า เงินทั้งหมดยังอยู่ในบัญชีของโรงเรียน ยังไม่มีการเบิกมาใช้จ่ายใดๆ ส่วนที่ตัดสินใจเปิดรับเงินบริจาค ฆ่ายกครัว ก็เพราะว่า ญาติบอกว่า ไม่สามารถจัดงานได้ เพราะไม่มีเงิน ทาง ผอ.โรงเรียนบางแก้วประชาสรรค์ ก็อยากช่วยโดยความบริสุทธิ์ใจ