ถก ผบ.ตร.กัมพูชา ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จับเพิ่มก๊วนโจรปมฆ่ายกครัวแม่ลูก 3 ศพ

จากกรณีนายสาณิช ดอกไม้ อายุ 41 ปี ก่อเหตุ"ฆ่ายกครัว" ภรรยาและลูก จนเสียชีวิต รวม 3 ศพ ก่อนจะพยายามฆ่าตัวตาย แต่ได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุมาจากไปค้ำประกันเงินกู้ซื้อรถให้กับหัวหน้า จนทำให้ถูกกรมบังคับคดี เตรียมที่จะยึดบ้าน อีกทั้งภรรยากลับถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกให้โอนเงิน จนเป็นหนี้มากถึง 1.7 ล้านบาท 

ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุม น.ส.สุชาดา อายุ 19 ปี ชาว ต.ทัพราช อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ผู้ต้องหา 1 ใน 5 เครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการ ออกหมายจับ ในข้อหากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์” โดย น.ส.สุชาดาซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีม้าแถวที่ 1 และเป็นผู้ไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มใน จ.สระแก้ว รวม 17 ครั้ง กว่า 900,000 บาท ก่อนนำเงินสดจากฝั่งไทย ข้ามแดนกลับไปให้หัวหน้าแก๊งที่ฝั่งประเทศกัมพูชา

 ล่าสุดในวันนี้ (31 ส.ค.) "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้างานกำกับดูแลด้านการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเดินทางลงพื้นที่ จ.สระแก้ว เพื่อติดตามคดีด้วยตนเอง และแถลงความคืบหน้าของคดี นอกจากนั้น ทางตำรวจยังได้มีการออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องเพิ่มอีก 11 ราย มีทั้งคนจีน คนไทย และกัมพูชา

ขณะเดียวกัน พ.ต.ต.สุวิทย์ พรมน้อย สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.ภ.1 ร่วมกับ ร.ต.อ.พชร บุญอินราทากูร รอง สว.สส. สภ.อรัญประเทศ และเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง ได้นำผู้ต้องหา 1 ใน 5 ที่จับกุมได้เพิ่มเติม

นำตัวไปลงบันทึกจับกุมกับ ร.ต.อ.หญิง อภิญญา นามวงษา รอง สว.(สอบสวน) พนักงานสอบสวนเวร สภ.อรัญประเทศ

ภายหลังร่วมกันจับกุมตัว นายวัชรพงษ์ อายุ 28 ปี ได้ที่บ้าน ในม. 3 ต.เมืองไผ่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 621/2566 ลง 28 ส.ค. 2566 ซึ่งต้องหาว่า กระทำความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์

พร้อมกับนำตัวนายวัชรพงษ์เจ้าของบัญชีม้า ไปสอบสวนและควบคุมตัวไว้ เพื่อนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นท้องที่ที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

 ต่อมา พ.ต.อ.รุ่ง ทองมนต์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ร่วมกับ พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว และชุดสืบสวน สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ ได้ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.ณัฐณิชา หรือบีม อายุ 23 ปี ชาว ม.9 ต.ทัพไทย อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นผู้ต้องหาเจ้าของบัญชีม้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อีก 1 ราย ตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ จ.632/2566 ลงวันที่ 29 ส.ค. 66

ในข้อหากระทำความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, เปิดหรือยินยอมให้บุคคลซึ่งใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ฯ คุมตัวได้ที่อาคารผู้โดยสารขาเข้า ด่านตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศ จ.สระแก้ว 

สำหรับ น.ส.ณัฐณิชาฯ ผู้ต้องหาที่จับกุมได้ล่าสุด ได้เดินทางข้ามมาจากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เพื่อกลับเข้าประเทศไทย

 ทั้งนี้ จากการสอบสวน ผู้ต้องหาสาวรายนี้ ให้การรับสารภาพว่า เป็นบุคคลตามหมายจับจริง เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปลงบันทึกจับกุม พร้อมแจ้งการจับกุมไปยังพนักงานอัยการจังหวัดสระแก้ว มี น.ส.ศุภวา จมะวัตร ตำแหน่งอัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด และแจ้งฝ่ายปกครองอำเภออรัญประเทศ มี น.ส.บุษราภรณ์ หนูแก้ว ตำแหน่งปลัดอำเภอ เป็นผู้รับแจ้ง ตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย ก่อนจะควบคุมตัวไปสอบสวน และคุมขังไว้ที่ สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว เช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับผู้ต้องหาที่จับกุมตัวได้แล้วในขณะนี้ ส่วนใหญ่เป็นเจ้าของบัญชีมาแถวที่ 1 และแถวที่ 2 รวมจำนวน 6 ราย ประกอบด้วย 

น.ส.สุชาดา อายุ 19 ปี , 
นายวัชรพงษ์ อายุ 28 ปี , 
น.ส.ณัฐณิชา หรือบีม อายุ 23 ปี 

ส่วนอีก 3 ราย ถูกจับกุมได้ในพื้นที่ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว 1 ราย เป็นชาวกัมพูชา ซึ่งทำหน้าที่มากดเงินสดออกจากตู้ ATM มาทำการสอบสวนที่ สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว และอีก 2 ราย เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาไปตรวจค้นบ้านพัก พบทั้งเครื่องนับเงิน และเงินสด รวมทั้งสมุดบัญชีอีกจำนวนหนึ่งด้วย

 อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ (31 ส.ค.) มีรายงานแจ้งว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ซึ่งมีกำหนดเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์มาที่ชายแดน จ.สระแก้ว โดยจะข้ามชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อไปเจรจาและหารือกับ ผู้บัญชาการตำรวจประเทศกัมพูชา และนายตำรวจระดับสูงของกัมพูชา เพื่อขอความร่วมมือในการปราบปราม แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชาวจีน ที่ใช้ประเทศกัมพูชา เป็นฐานหลอกลวงคนไทย